จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรตหกห้า (ชาติกำเนิด )

วันอังคารที่  18  มกราคา  2565

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรตหกห้า (ชาติกำเนิด )

17

รูปแบบหนึ่งของการแสดงธรรมของพระภิกษุ ที่แสดงพระธรรมเทศนาให้ญาติโยมฟัง ก็คือ กล่าวนำด้วยคาถาภาษาบาลี  เช่น  มา ชาติง ปุจฉะ จะระณัญจะ ปุจฉะ แปลว่า  “อย่าถามถึงชาติกำเนิด จงถามถึงความประพฤติ”  และวันนี้ผมก็จะใช้รูปแบบนั้น แต่นำหลักธรรมคำสอนมากล่าวนำ  

 ‘ธรรมชาติของคน พิจารณาแต่คนอื่น ลืมพิจารณาตนเอง หมั่นชำระจิตใจ จะได้พ้นทุกข์’( ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล)

วันนี้จะพูดถึง กรณี นางแต้ม ตัวละครของผม หรืออธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ กล่าวหา “หญิงผู้กล้า ว่าขาดราชการเป็นเวลา  117  วัน ซึ่งถือเป็นเรื่องตลกโปกฮ่าสุดๆ ของทีมตลก คณะหญิงแก่บ้าหน้าด้าน” ปล่อยมุขเด็ดที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชม ได้ในระดับท้องคับท้องแข็ง ทีเดียว

นั่นหมายความว่า นางนับเวลาขาดราชการของหญิงผู้กล้า ตั้งแต่นางออกคำสั่งให้ไปปฏิบัติงานในหน่วยงานใหม่  “แล้วที่หญิงผู้กล้ามานั่งทำงานทุกวันและรับเงินเดือนทุกเดือนนี่มันอะไร มันเรียกว่ามาปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือการขาดราชการ” คิดได้ไง คนบ้าเท่านั้นที่คิดแบบนี้  จิตวิปลาสจริงๆ ยายแก่นี่ ฉะนั้น “อย่าถามถึงชาติกำเนิด จงถามถึงความประพฤติ” มา ชาติง ปุจฉะ จะระณัญจะ ปุจฉะ

เรื่องนี้ ผศ.ดร.La Ph แสดงความเห็นว่า “เรื่องราวที่เกิดขี้น เป็นเพราะความลุแก่อำนาจของผู้บริหาร ถ้าผู้บริหารคิดว่าบุคลากรทุกคนเป็นเสมือนญาติพี่น้องและลูกหลาน “ตนเป็นบุคคลที่อาสาเข้ามาแก้ปัญหาทุกอย่าง” โดยที่ไม่มีใครบังคับให้มาทำงานในตำแหน่งนี้ หลายคนมีความอยากได้-อยากมี-อยากเป็นจนต้องข้ามหัวใครต่อใครเพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้บริหารมา ส่วนบุคลากรทุกคนทุกตำแหน่งคือผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมงานทุกคนมีความสำคัญต่อองค์กร รัฐจึงจัดสรรอัตราและเงินเดือนให้ ดังนั้นถ้าคิดถึงหลักความจริงข้อนี้ ความรู้สึกที่คิดว่าตนเองคือ “เจ้านาย” จะหมดไปและเหตุการณ์วุ่นวายทั้งหลายก็จะไม่เกิดขึ้น”

สำหรับคดีความที่สารขัณฑ์ ผู้สันทัดกรณีบอกว่า  คดีต่างก็เริ่มงวดเข้ามาทุกที หลายคดี จนนางแต้มแทบจะเป็นบ้าเพราะศาลถามอะไรก็ตอบไม่ได้ สงสัยจะรู้ตัวว่าจะติดคุกยาว จึงทำให้สับสน ข่าวจากวงในทราบมาว่าจะมีคู่ผัวเมียจะติดคุกพร้อมกันด้วยในกรณีเบิกความอันเป็นเท็จต่อศาลในคดีอาญาทั้งคู่และฝ่ายผัวจะมีความผิดตามมาตรา 157 เพิ่มขึ้นด้วย

ส่วนที่ ม.กำแพงมณี ผู้สันทัดกรณีแสดงความเห็นว่า  “การต่อสู้เพิ่งเริ่มขึ้น คุณปรสิต เพิ่งเริ่มสะสมคดี อีกไม่นานก็จะรู้ว่านรกมีจริง การต่อสู้ทางคดีอาญานั้น มีถึง 3 ศาล ดังเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ากรณีที่ จ.อุดรธานี ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฝ่ายโจทก์แพ้ทั้ง 2 ศาล คือ ยกฟ้อง พอถึงศาลฎีกาฝ่ายโจทก์ชนะคดี โดยศาลฎีกาตัดสินให้จำคุกฝ่ายจำเลยทั้ง 8 คน เสียชีวิตก่อน 2 คน และที่กำแพงมณีก็ถูกฟ้องเป็นจำเลย 10 คนเหมือนกัน แต่ยังไม่รู้ว่า 2 คนที่จะเสียชีวิตก่อนเหมือนที่อุดรธานี คือใคร หรืออาจจำคุกทั้ง10 คน ก็ได้ ขออย่าตั้งอยู่ในความประมาท

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *