จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรต (ปมด้อย)

วันอาทิตย์ที่ 12  ธันวาคม พ.ศ. 2564

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรต (ปมด้อย)

21

ขอยกเวทีให้ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล  ครับผม

วันนี้วิเคราะห์คนเป็นโรคจิต อันเกิดจากปมด้อยตั้งแต่เด็ก พออ่านเรื่องที่ผู้เขียนถึงสองมหาลัยแบบนี้ไปนานๆและกอร์ปกับสองสามวันมานี้มีไวรัสคลิปเกี่ยวกับยายเจ๊ที่รวยจากจ้างแอร์ สจ๊วต เขาขนของจากนอกมาให้ขาย พอร่ำรวยก็ลืมตัว กลับไปด้อยค่าคนที่เคย ทำให้แกมีเงินต่อยอด จนร่ำรวยมหาศาลทุกวันนี้ เพราะอะไร เพราะเงินตัวเดียวที่ทำให้คนเปลี่ยนและแสดง ธรรมชาติของตัวเอง  ที่ฝังลึกของตนออกมาเหมือนเรื่องที่เราอ่านและคอมเม้นท์กันอยู่เนี่ย 

ตามจิตวิทยา คนพวกนี้เป็นพวกขาดมาตั้งแต่เด็ก จากฐานะครอบครัว ความไม่มี เลยทำให้โหยหา ไม่รู้จักพอ เหมือนคนถมไม่เต็ม เหมือนตัวเราเอง ตอนเด็กๆ เตี่ยแม่ร่ำรวย  เป็นคหบดี  มีกินมีใช้อย่างดี แต่พอเจ้าของที่ให้เช่าร้านค้าขายและโรงงานด้านหลังอีกกว้างใหญ่ เช่าเขาทั้งหมด จำได้ตอนเรียน มศ.3 ก็อายุ 15 ปี เจ้าของที่ให้เช่าเขาขอคืนที่ทั้งหมด จะปลูกตึกขาย ตอนเช่าเป็นห้องแถวไม้ แต่เตี่ยแม่มาจากเมืองจีนมีเงินพอจะซื้อที่ดิน แม่เล่าว่า พอตกลงจะซื้อ แปลงไหนก็มีอุปสรรคทั้งที่จะซื้อในเมืองนอกเมือง ขนาดกี่ไร่ก็ได้ แต่มีอันเป็นไปทุกครั้ง เราเข้าใจ การซื้อบ้านที่ดิน ต้องเป็นเจ้าของ เจ้าที่เจ้าทางเขาเลือกคนซื้อ ในที่สุด บ้านเราก็หาที่ตั้งร้านค้าและโรงงานไม่ได้ สมัย 60 ปีที่แล้ว แม่มีทั้งเงินและทองแท่งขั้นเศรษฐี แต่ซื้อที่ดินไม่ได้สักแปลง ตอนหลัง เงินลงทุนก็หมดไม่ได้คืน ทองแท่งเอาไปลงทุนก็หมดไม่ได้คืน

เราเองก็ฝังใจ ทำไมไม่มีบ้าน ไม่มีที่ดินของตัวเอง ทั้งๆที่มีเงิน ฝังใจตั้งแต่เด็ก แม่ย้ายไปกรุงเทพก็เช่าบ้านเขาสองแห่งก่อน พอปี 23 เราก็ซื้อบ้านให้แม่อยู่ราคาสามแสน  เราไม่มีเงินหรอก พี่ช่วยออกดาวน์แม่กับพี่ก็ช่วยผ่อนไปก่อน พอเราไหว เราก็ค่อยจ่ายผ่อนเอง เราเองก็ซื้อที่ดิน บ้าน ตึกตลอดเวลา สะสมตั้งแต่ปี17 เป็นต้นมา พอทำงานได้ มีเงินเดือน ก็ไล่ซื้อที่ดินอย่างเดียวเลย ไม่มีเงิน ก็ไปขอยืมพี่มาซื้อ

สมัยแรกๆ กู้เงินซื้อเองหลักแสน พอ 27 ก็ซื้อที่สวนใหญ่ ซื้อเอง เมื่อปี 37 ซื้อที่ดินร้อยไร่กว่าๆ ราคา 3,700,000 บาท ไม่มีเงินสักบาท ขอพี่มาซื้อ ซื้อเรื่อยมา พอคิดย้อนกลับ อ้อ เราต้องเป็นโรคจิต มีปมด้อยตั้งแต่เด็ก เช่าบ้านเขาอยู่ พอเจ้าของเอาคืน ก็หาที่เหมาะลงตัวไม่ได้ มันคงฝังใจนะตอนนั้นอายุ 15 ปี

ดังนั้นคนในมหาลัยทั้งสองแห่ง คงมีปมเหมือนเราและเหมือนยายเจ๊นั่นแน่ๆ คนเคยยากจนแต่เด็ก พ่อแม่ให้ไม่ได้เหมือนเด็กคนอื่น เลยชดเชยตัวเอง แต่พ่อแม่ลืมสอนความมีเมตตา เธอเลยอำมหิต รู้จักคำว่าได้อย่างเดียว ให้ไม่เป็น เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละไม่ได้เรียนจิตวิทยาสายตรง แต่เรียนจิตวิทยาสำหรับครูมา เลยมาวิเคราะห์ตัวเอง และเป็นวิทยาทานวิเคราะห์ พวกบ้าเงินบ้าอำนาจให้ด้วย  เผื่อจะได้รู้ตัวแล้วกลับใจซะใหม่ ต้องหยุดด้วยธรรมะนั่นแหละ ของจริง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *