จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (วิบัติล่มจม)

วันอังคารที่ 31  สิงหาคม  พ.ศ. 2564 (มีกรอบบ่าย)

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (วิบัติล่มจม)

31

ตามที่สำนักงานอัยการฯนัดพบนักศึกษาที่เป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งนางแต้ม ตัวละครของผม หรือผู้แอบอ้างเป็นรักษาการอธิการบดีเถื่อน มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี  และวันนี้อัยการนัดหมายให้ไปพบนั้น เป็นอันว่าเลื่อนไปเป็นวันที่ 20 กันยายน  2564 แต่วันนั้นอัยการจะนำตัวนักศึกษาทั้ง 5 คน ส่งฟ้องศาลเลย

ผมรู้สึกหดหู่ ท้อแท้ กับคดีนี้มาก เพราะประเด็นที่สำคัญมากๆ คือ ผู้แจ้งความร้องทุกข์  กล่าวหาว่านักศึกษาหมิ่นประมาทนั้น ไม่ได้เป็นรักษาการอธิการบดีที่ถูกต้องตามกฏหมาย แต่แอบอ้างเป็นรักษาการอธิการบดีเถื่อน จึงมิใช่ผู้เสียหายโดยตรง  และไม่มีสิทธิ์ที่จะแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนักศึกษา

แต่พี่น้อง ครับ  เรื่องนี้ไม่มีใครสนใจ  เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สนใจ อัยการก็ไม่สนใจ  ช่างไม่มีใครเอะใจบ้างเลยหรือว่า “เป็นรักษาการอธิการบดีอยู่ได้อย่างไรตั้ง 4 ปีกว่า  ทั้งที่ พรบ. กำหนดไว้ว่าให้รักษาการได้เพียง 180 วันเท่านั้น หากจะอ้างว่ารักษาการตาม คำสั่ง คสช. ก็ไม่เข้าข่าย เพราะไม่ได้อยู่ในระหว่างการสรรหาอธิการบดีเพื่อขอโปรดเกล้าฯ  การสรรหาอธิการบดีผ่านมา  4 ปีกว่าแล้ว  จะรอโปรดเกล้าฯกันไปจนตายหรืออย่างไร?  เห็นวันก่อนก็คุยว่า “วันที่ 27 วันที่อีเปรตจัญไรสามารถหนีรอดออกมาจากผะอบหินได้  เป็นวันที่นางจะได้รับการโปรดเกล้าฯ บังอาจอ้างเบื้องสูง แบบหน้าด้าน หน้าไม่อาย  ช่างน่าอเนจอนาถใจจริงๆ

ประเด็นที่สองที่มีความสำคัญมากเช่นกัน คือ ในการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหานักศึกษาในข้อหาหมิ่นประมาทนั้น  ปรากฏว่ามีการจับผิดคน มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง ขณะที่เกิดเหตุการณ์ เธอกำลังสอบอยู่กับอาจารย์และเพื่อนนักศึกษาในห้อง  ซึ่งเธอยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ใส่ใจที่จะตรวจสอบหาข้อเท็จจริง อาจารย์ที่คุมสอบก็ไม่ยอมไปเป็นพยาน อ้างว่าป่วย นักศึกษาที่สอบด้วยกันก็ไม่กล้าไปเป็นพยาน กลัวนางแต้ม  นี่มันอะไรกันนี่ บ้านนี้เมืองนี้  

ผมรู้สึกสงสารนักศึกษาที่ยังอยู่ในเยาว์วัย ที่ตกเป็นเหยื่อของเหล่าผู้เฒ่าจัญไร กักขฬะ ไร้สำนึก ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนางแต้ม รักษาการอธิการบดีเถื่อน นายสุชี๋ นายกสภา  กรรมการสภาฯ ตลอดจนเหล่าบริวารของนางแต้มทั้งหลาย   ช่างน่าละอายจริงๆ

ดังนั้น เมื่อไม่มีใครมาช่วยได้จึงเหลือวิธีเดียว คือ การสาปแช่ง ให้พวกเขาเหล่านั้นวิบัติล่มจม พบกับความเจ็บปวดสูญเสีย  มีชีวิตที่ทุกข์ทรมาน ไปจนกว่าโลกจะแตกสลาย ด้วยเทอญ

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *