จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (คำสาปแช่ง 3)

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2564 (กรอบบ่าย)

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (คำสาปแช่ง 3)

23

การที่เราจะสาปแช่งใคร เราควรจะรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร เลวทรามต่ำช้ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็รู้ๆกันอยู่แล้วว่า คือ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ เริ่มตั้งแต่นายสุชี๋ นายกสภาน, กรรมการสภาทั้งหลาย เช่น นางพลกี๋ นายประสี๋ เป็นต้น และนางแต้ม รักษาการอธิการบดี (เถื่อน) คนเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจ  ขอยกตัวอย่างสักเล็กน้อย เช่น การปล้นเงินเดือนของพนักงานมหาวิทยาลัย  ซึ่งถือว่าเลวระยำสุดๆแล้ว ท่านรู้ไหมว่า นางแต้ม ตัวละครของผม หรือรักษาการอธิการ หักเงินพนักงานทั้งสายผู้สอนและสายสนับสนุนการสอนในแต่ละเดือนนั้น ประมาณคนละ 4,000 – 7,000 บาท เฉลี่ยเอาเป็นว่า เดือนละ 6,000  บาท มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 300 คน เท่ากับหักเงินไปเดือนละ เกือบสองล้านบาท ที่เจ็บปวดมากคือส่วนหนึ่งเอาไปจ่ายเป็นค่าตำแหน่งทางวิชาการ ผศ.รศ. เท่ากับว่าพวกที่มีตำแหน่งทางวิชาการ กินเลือดของพวกเดียวกันไปด้วย สุดชั่ว  ฉันก็ไม่รู้ว่านางทำได้อย่างไร ช่างไม่มียางอายเลยจริงๆ  แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะนางไม่ใช่ข้าราชการ    เท่านั้นยังไม่พอมีข่าวลือหนาหูว่า เมื่อ 2-3 วันมาแล้ว นางแอบเอาเงินโครงการ ยูสองที ที่เขาให้มาช่วยสร้างงานให้แก่ลูกหลานและชาวบ้านในตำบล ช่วงวิกกฤติโควิด แม่งมันยังแอบเอาไปใช้จัดกิจกรรม เพื่อโปรโมทตัวเองเลย เลวระยำจริงๆ

ก็คงอย่างที่ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล (จิปาถะ 15 สค.64) แสดงความเห็นไว้เมื่อเร็วๆนี้ว่า”ข้าราชการเกษียณที่ยังเกาะติดเก้าอี้ ถือว่าไม่ใช่ข้าราชการประจำ ซึ่งกฏระเบียบข้าราชการพลเรือนเอาผิดวินัยไม่ได้  แต่ทำไมเข้ามาอยู่ในองค์กรได้  ผู้ปฏิบัติราชการ ก็ควรใช้ ระเบียบ และหลักการของข้าราชการพลเรือนจัดการได้ เท่ากับอยู่แบบเถื่อนๆ มาเกิน4 ปี ถ้ามีตำแหน่งถูกต้องก็เกินสองสมัยติดต่อกันแล้ว แต่นี่กลายเป็นคดีความ ทำให้ไม่ได้ตำแหน่ง แต่กลับรอตำแหน่งได้เกิน8 ปี นี่เป็นเรื่องผิดปกติ ในราชการไทย ที่ทำอะไรผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย แต่ใช้กฏหมู่อยู่ได้ จะให้ใครมาช่วยแก้ไขสถานการณ์นี้ได้บ้าง ร้องเรียนไปหน่วยงานไหนได้บ้าง เย้ยกฎหมาย เย้ยกฏระเบียบมากเกินไปแล้วมั๊ง  ยิ่งนานไปก็มีแต่ลูกหลาน ญาติ คนใกล้ชิด เดินยั้วเยี้ย คุมไปทุกหน่วยงาน คนดี คนเก่ง คนอื่นๆ ไม่มีโอกาสเข้ามาเสนอหน้าได้เลยใน ม.สารขัณฑ์ยุคมืดจริงๆ”

ดังนั้น เมื่อไม่มีใครมาช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้  ทั้งๆที่ได้ทำแทบทุกวิถีทางแล้ว จึงเหลือแต่การสาปแช่ง ให้พวกเขาเหล่านั้นวิบัติล่มจม พบกับความเจ็บปวดสูญเสีย มีชีวิตที่ทุกข์ทรมาน ไปจนกว่าโลกจะแตกสลาย ด้วยเทอญ

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *