วันพฤหัสบดีที่ 12  สิงหาคม  พ.ศ. 2564

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (บุญมีกรรมบัง)

12

คม หักศอก บอก มีนา  จัน ว่า คุณปอสิตนี่เธอเป็นคนดวงดีจริงๆ บุญหล่นทับ เพราะอยู่ดีๆท่านสุวา หรือท่านครก ก็นำชื่อเธอให้สภาแต่งตั้งให้เป็นรักษาการอธิการบดี เมื่อมีการสรรหาอธิการบดี  กรรมการสรรหาอธิการบดี ก็ส่งชื่อเธอเป็นอันดับ 1 ให้สภา ส่วนสภาซึ่งอ่อนเลขพอๆกับฉัน เห็นเลข 1 ก็ร้องว่า ใช่แล้ว  เลือกเลข 1 ซึ่งก็คือคุณปอสิตนั่นเอง ส่วนท่านสมโมใครส่งอะไรมาก็เซ็นอย่างเดี่ยว ลายเซ็นโย้หน้าโยหลัง บงบอกว่าเป็นคนยึกยักเอาแน่นอนอะไรไม่ได้

แต่อย่างไรก็ตาม สรรพสิ่งมีเป็นคู่ เมื่อดวงดี ก็ต้องมีดวงไม่ดี ฉะนั้น ช่วงนี้คุณปอสิตจึงมีอาการวิงเวียนศีรษะ  เพราะไม่ว่าจะตำแหน่งรักษาการอธิการบดีหรือตำแหน่งอธิการบดี สภาก็ยังไม่รับรองรายงานการประชุม เธอจึงเหมือนเรือที่อยู่ในอู่ ยังออกไม่ได้สักที แต่กลางเดือนนี้แหละ สภาก็คงจะรับรองรายงานการประชุม เธอก็จะมีโอกาสได้รักษาการอธิการบดี ส่วนตำแหน่งอธิการบดี คงจะชวด ฉลู ขาล เถาะไปเลย คือไม่ได้โปรดเกล้าฯ แน่นอน เพราะเธอมีคดีอยู่ในศาลปกครอง

ส่วนการรักษาการอธิการบดี ท่านผู้สันทัดกรณีก็เตือนว่า อย่าอยู่ให้เกินวันที่ 12 ธันวาคม 2564 นะ ขืนอยู่จะเดือดร้อน  ทางที่ดีควรจะขอถอนตัวไปทุกตำแหน่งจะดีกว่า เพราะดูแล้ว ทางที่จะไปมันขรุขระโยกไปเยกมา ดีไม่ดีเครื่องในจะรวน ไม่คุ้ม และวันนี้ผู้สันทัดกรณีก็เตือนมาอีกแล้วว่า

“ที่ ม.สารขัณฑ์ นางแต้ม มีอาการเครียด คลุมคลั่ง หวาดระแวง เหมือนหมาบ้ากัดทุกคน ที่ขวางหน้า เพราะรู้ตัวว่าตัวเองต้องติดคุกไม่น้อยกว่า 20 ปีแน่นอน จึงปล่อยให้นางไปชดใช้กรรมในคุก

แต่ที่เป็นห่วงก็คือคุณครกและคุณปอสิต แห่งม.กำแพงมณีซึ่งกำลังจะเดินตามแนวทางของนางแต้ม โดยมีปลายทางคือคุกเหมือนกัน

ท่านครก มีสิทธิที่จะไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญ เพราะ ความผิดเกิดขึ้นในขณะที่ยังรับราชการก่อนจะเกษียณอายุราชการ

  ดังนั้น จะถูกไล่ออกในวันที่ 30 กย. 2564  ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณ

ส่วนคุณปอสิต มีสิทธิ ถูกไล่ออกจากราชการ และมีสิทธิที่จะวิกลจริต เหมือนนางแต้มได้ จึงรู้สึกสงสารที่อายุยังน้อยแต่ต้องมาประสบชะตากรรม ที่ไม่สวยหรูตามที่ตั้งความหวังไว้

กลับตัวกลับใจเสียใหม่ก่อนที่จะสายเกินแก้

…