วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564 (กรอบบ่าย)
จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (อีหน้าใหญ่)
7
ตอนนี้ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า เรื่องราวของมหาวิทยาลัยกำแพงมณี จะเป็นไปในทางดีหรือทางร้าย จะคลี่คลายลงหรือจะเขม็งเกลียวให้แน่นยิ่งขึ้น ดังนั้น ทุกคนจึงตั้งตารอผลการประชุมของสภามหาวิทยาลัยครั้งต่อไป ซึ่งสำคัญมาก ช่วงนี้ที่นั่นจึงดูซาๆไป
แต่ปรากฏว่ที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ มีเหตุการณ์ที่ชวนระทึกเกิดขึ้น เมื่อนางแต้ม ตัวละครของผม หรือรักษาการอธิการบดีเถือน หรืออีเปรตที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ความร้อนนางขึ้นสูง เกิดอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาดหนัก คือ หลังจากแจ้งความดำเนินคดีกับนักศึกษาคณะครุศาสตร์ 5 คน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 64 ที่ผ่านมา ซึ่งคดียังอยู่ที่อัยการ จากนั้นนางก็เงียบไป พอต้นเดือนสิงหาคม 2564 นี้ ก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก คราวนี้ต้องการสร้างชื่อเสียงอวดศักยภาพให้รัฐมนตรีสาธารณสุขได้เห็นประจักษ์แกตา ตาม สโลแกน “จิตอาสา”
โดยกำหหนดกิจกรรมให้นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ที่นางอุปโลกน์ให้เป็นผู้มี “จิตอาสา” เข้าไปปฏิบัติงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลสนาม เพื่อโชว์ผลงาน กลายเป็นประเด็นร้อนระอุ ที่ทั้งนักศึกษาและประชาชนทั่วไปวิพากษ์วิจารณ์กันในสื่อออนไลน์อย่างกว้างขวาง
ผมเองก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรทำได้หรือทำไม่ได้อย่างไร ผมรู้แต่เพียงว่า “จิตอาสานั้น เป็นงานที่จะต้องทำด้วยความสมัครใจ เสียสละ เพื่อผลแห่งความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน “ผู้มีจิตอาสา” คือ ผู้ที่เสียสละ มีจิตอันเป็นกุศล เพื่อทำงานสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า การมีจิตอาสา นั้น จะต้องสมัครใจที่จะทำ และต้องอาสาทำในเรื่องที่ตนเองมีความรู้ความสามารถทำได้ แต่ไม่ใช่เที่ยวเกณฑ์ คนโน้นคนนี้ให้ไปทำ แบบนางแต้ม เกณฑ์นักศึกษาพยาบาล ให้เป็นจิตอาสาไปปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนาม เพื่อหวังจะได้หน้า อย่างที่ปรากฏเป็นข่าว
เรื่องนี้ ผศ. ดร. La Ph แสดงความเห็นมาว่า “น่าเห็นใจนักศึกษาและผู้ปกครองมากค่ะ ถึงแม้นักศึกษาเขาจะเรียนพยาบาล แต่เขายังเรียนไม่จบ ยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพ และไม่ได้เป็นบุคลากรประเภทใดๆของรัฐ การมีจิตวิญญาณของพยาบาลไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องรีบไปทำหน้าที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของชีวิตตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ถ้าครูบาอาจารย์หรือผู้บริหารกระทำการใดๆ ต่อนักศึกษาไม่ว่าการตำหนิหรือตัดคะแนนนักศึกษาที่ไม่ได้ออกไปปฏิบัติงาน บุคคลเหล่านั้นสมควรถูกตำหนิมากกว่า
…..