Wisut.net
จิปาถะ
เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตำนานเทพไวกิ้ง 3
204
“นี่ คุณชวด แล้วเธอรู้เรื่องเทพโอดินได้อย่างไรล่ะจ้ะ” นางแต้มตั้งคำถามและทำเสียงเล็กเสียงน้อยเชิงประจบ
“อย่างที่บอกไว้แล้วไง ก่อนตายฉันเป็นมนุษย์ และตอนเรียนหนังสือ ฉันเคยไปฝึกงานบรรณรักษ์ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง
ที่นั่นมีห้องสมุดเล็กๆ มีเพียงห้องเดียว ฉันรู้สึกงงเมื่อไปถึง เพราะมีหนังสืออยู่บนชั้นไม่มากนัก ชั้นส่วนใหญ่ว่าง หัวหน้าห้องสมุดซึ่งเป็นสุภาพสตรีบอกฉันว่า “หนังสือทุกเล่มถูกยืมไปอ่านโดยคนในหมู่บ้านและคนที่อยู่ไกลออกไปในพื้นที่โดยรอบ” เธอบอกฉันอย่างภาคภูมิใจว่า “หนังสือนั้นไม่มีค่าหรอก หากมันตั้งอยู่เฉยๆบนชั้นหนังสือ”
“น่าสนใจจริงๆเลย” นางแต้มแสร้งพูดประจบอีก
คุณชวดนั้น ถึงแม้จะรู้ว่านางแต้มพูดประจบ แต่ก็รู้สึกพึงพอใจ และเล่าต่อไปว่า
“ฉันฝึกงานที่นั่นเป็นเวลา 4 สัปดาห์ อ่านหนังสือเกือบหมดทุกเล่ม แต่สิ่งที่ฉันได้พบก็คือ คนที่นั่นดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีเมตตา และเรียบง่าย บางคนตื่นขึ้นตั้งแต่เช้ามืด ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเป็นชั่วโมง เดินเลาะไหล่เขาเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร เพื่อมายืมหนังสือกลับไปอ่าน นี่คือสิ่งที่ฉันพบ “ความปรารถนาและความหิวกระหายการศึกษาเป็นกุญแจสำคัญของการเรียนรู้ที่แท้จริง”(จิม สโตวอลล์.2553:63) และนี่แหละคือคำตอบที่ว่าฉันรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร
205
“คุยแต่เรื่องตัวเองอยู่นั่นแหละ เมื่อไรจะรู้ว่า เพราะอะไรเทพเจ้าโอดินถึงเฉลียวฉลาด” นางแต้มเริ่มมีอารมณ์
คุณชวดยกมือขึ้นลูบหนวด รู้สึกเบื่อหน่ายในความเจ้าอารมณ์ของนางแต้ม
แต่ฝืนใจเล่าเรื่องเทพเจ้า โอดิน ให้นางแต้มฟังอย่างแกนๆต่อไปว่า
“ตอนที่เทพโอดินได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประมุขแห่งเทพ เขาเริ่มใคร่ครวญ เพราะการปกครองบ้านเมืองเพื่อให้เกิดสันติสุขและเจริญก้าวหน้าของเหล่าเทพและมนุษย์นั้น ไม่ใช่ของง่าย จะหวังพึ่งคณะเทพมนตรีที่คอยให้คำปรึกษาอย่างเดียวก็ไม่ได้ ดีไม่ดีจะพาเข้ารกเข้าพงเหมือนเจ้าบักหำเหลี่ยมน้อย-ใหญ่ ที่ทำให้เสียงานเสียการไปหลายเรื่องแล้ว ผู้นำที่สามารถจะต้องมีทั้งสติปัญญาและการหยั่งรู้ความเป็นไปในอนาคต หรือมี “ปัญญาญาณ” โอดินต้องการสองสิ่งนี้…
206
กล่าวกันว่ามีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีต้นน้ำมาจากแขนงของรากต้นไม้ใหญ่มหึมาที่เป็นแหล่งสรรพศาสตร์ทั้งปวง โอดินจึงเดินทางไปที่นั่น เพื่อแสวงหาปัญญาญาณ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากการดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ในบ่อนั้น ที่นั่น โอดินได้พบกับอสูรผู้รักษาบ่อน้ำ”
“เธอเก่งนี่ รู้มากกว่าฉันอีก หรอกให้ฉันเล่าตั้งนาน” นางแต้มชม คุณชวด
“อย่ามายอฉันเลย ฉันดูตาเธอก็รู้ เธอไม่มีความจริงใจกับใครสักคนหรอก”
นางแต้มเงียบกริบ คุณชวดจึงเล่าต่อ
“ท่านผู้รักษาบ่อน้ำ เราขอดื่มน้ำจากบ่อนี้ เพื่อสติปัญญาและการหยั่งรู้”
“เราไม่สามารถให้ได้ นอกจากมีสิ่งที่ท่านรักและหวงแหนที่สุดแลกเปลี่ยน”
“เรายินดีทุกอย่าง” เทพโอดิน ตอบอย่างมั่นใจ
“สิ่งที่จะต้องแลกเปลี่ยนก็คือ ดวงตาข้างหนึ่งของท่าน”
โอดินควักดวงตาให้แก่อสูรผู้รักษาบ่อน้ำทันที เขาคิดว่า ดวงตานั้นเป็นที่รักและหวงแหนไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นมนุษย์ เทพ หรืออสูร ยิ่งเป็นประมุขแห่งเทพ ดวงตายิ่งมีความสำคัญ แต่นั่นแหละ ดวงตามีสองดวง หากเหลือเพียงดวงเดียวก็ยังสามารถมองเห็นความเป็นไปได้ แต่หากขาดปัญญาญาณในการพิจารณาตริตรองอย่างชอบธรรมเสียแล้ว จะมีประโยชน์อะไร”
เล่าจบ คุณชวด ถามนางแต้มว่า “อยากเป็นเทพเจ้าโอดินที่มีตาข้างเดียวอีกไหมล่ะ ?”
นางแต้มนิ่งเงียบ ก่อนที่จะตอบว่า “ฉันไม่เอาแล้วละ ปัญญาญง ปัญญาญาณ อะไรนั่นนะ ฉันจะบริหารแบบโง่ๆของฉันอย่างนี้แหละ”
…….
จิม สโตวอลล์.SISM แปล.(2553).พรอันสูงสุด The Untimate Gift.(7).กรุงเทพน : มูลนิธิโกมลคีมทอง.
จูนินยะ.(2554).ตามรอยเท้ายักษ์.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ปราชญ์.
นฤมล เทพไชย.(2551).ตำนานเทพไวกิ้ง.กรุงเทพฯ; สำนักพิมพ์อมรินทร์.