วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2564
จิปาถะ : บทความ
“อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ แจ้งความดำเนินคดีนักศึกษา: เกิดอะไรขึ้น ใครต้องรับผิดชอบ”
ในเพจของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มีหัวข้อข่าว ความว่า “บุรีรัมย์ อธิการบดี ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ แจ้งความ 4 นักศึกษา ฐาน “หมิ่นประมาท” หลังปรากฏป้ายหน้า ม. “ต้องการอธิการบดีโปร่งใส” โดยมีรายละเอียดของข่าว ดังนี้ เมื่อวันที่17 พฤษภาคม 2564 ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ นายภัทรพงษ์ วรรณพงษ์ ทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และ นายกฤตพรต สุพรรณนอก และสุนิชา บัวแก้ว 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ได้เข้าพบ ร.ต.อ.หญิงพิชญานิน ปลั่งกลาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทโดยโฆษณา” เนื่องจากถูกอธิการบดีมหาวิทยาลัยแจ้งความให้ดำเนินคดี จากกรณีป้ายประท้วง ค่าเทอมและเรียกร้องอธิการที่โปร่งใสถูกติดในมหาวิทยาลัย เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ผู้ต้องหาทั้งสอง รับว่าได้ติดป้ายดังกล่าวจริง แต่ทำไปเพื่อตั้งคำถามและอยากให้ทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบ ไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่น หรือทำให้ผู้ใดเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งสองลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา และพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนพนักงานสอบสวนจะปล่อยตัว โดยไม่ได้ควบคุมตัวไว้ และนัดนักศึกษาทั้งสองให้มารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 18 มิถุนายน (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่2564https://tlhr2014.com/archives/29775)
ข่าวนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับทั้งครูบาอาจารย์ นักศึกษา และผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าในตลาดและประชาชาชนทั่วไปว่า “เดี๋ยวนี้บุรีรัมย์ เป็นไปได้ถึงขนาดนี้แล้วหรือ” ครูแจ้งจับนักเรียน น่าตกใจจริงๆ
คงไม่ต้องถามว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะ“ที่ใดไม่มีความยุติธรรม ที่นั่นย่อมมีการต่อต้าน” ทำไมนักศึกษาถึงต้องเขียนป้ายประท้วง มันต้องเหลืออดจริงๆ ใครอยากจะแขว่งเท้าในน้ำเพื่อล่อฉลามบ้างล่ะ?
ผมหวังว่า สภามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรงจะต้องรับผิดชอบและจัดการเรื่องนี้โดยด่วน แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะเจ้าเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ตลอดจนพ่อค้าประชาชนที่เป็นเจ้าของพื้นและมีส่วนเป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นแห่งนี้ จะต้องไม่นิ่งนอนใจ และใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ ไม่ใช่ปล่อยให้เด็กๆซึ่งล้วนเป็นลูกหลานของท่าน ต้องเผชิญปัญหาใหญ่ที่เกิดกว่าวัยอันควร และที่สำคัญ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ซึ่งเป็นต้นสังกัด จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้โดยเร่งด่วน โปรดอย่าอ้างว่า กระทรวง อว. ไม่มีอำนาจ แต่เป็นอำนาจของสภามหาวิทยาลัย เชียวนะครับ “บ้านแตกแน่”
…