
วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
จิปาถะ จดหมาย
2
ผมขอนำจดหมายของ ดร.ขวัญชัย เกิดแดน อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ กรรมการสภามหาวิทยาลัย ประเภทคณาจารย์ทั่วไป จาก เพจ ศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ที่โพสต์เมื่อ 29 ตุลาคม 2564 มาเผยแพร่ให้ทราบโดยทั่วกัน ครับผม
เรื่อง การปรับอัตราเงินเดือนใหม่ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
เรียน สมาชิกทุกท่าน
ตามที่ผมได้เคยแจ้งต่อสมาชิกถึงความเหลื่อมล้ำในการจ่ายเงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัยที่ไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี พ.ศ. 2542 ในอัตราข้าราชการแรกบรรจุ บวกด้วยอัตราเพิ่มอีก 1.5/1.7 นั้น จนนำมาซึ่งการเรียกร้องเคลื่อนไหวของพนักงานมหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่ง และมีการยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อขอความยุติธรรมในเวลาต่อมา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวใช้เวลากว่า 2 ปี 4 เดือน
ถึงแม้ยังไม่มีการตัดสินของศาลปกครอง แต่ขออนุญาตเรียนทุกท่านว่า บัดนี้ ด้วยความเข้าอกเข้าใจของผู้บริหารชุดปัจจุบัน ที่ต้องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำครั้งนี้ โดยเฉพาะท่านอธิการบดี ผศ.ดร ชุตินันท์ ประสิทธิ์ภูริปรีชา และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสภามหาวิทยาลัย ตามประกาศมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อาศัยมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เห็นชอบให้ปรับเงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จากเดิมในอัตราข้าราชการแรกบรรจุ บวกด้วยอัตราเพิ่มอีก 1.3/1.4 เป็นอัตราข้าราชการแรกบรรจุ บวกด้วยอัตราเพิ่มอีก 1.5/1.7 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี พ.ศ. 2542 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป และที่เป็นรูปธรรมก็คือ ในวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา พนักงานมหาวิทยาลัยได้รับเงินเดือนในอัตราใหม่ บวกกับเงินตกเบิกของเดือนกันยายน และอัตราใหม่นี้จะนำไปคิดในการเลื่อนเงินเดือนในรอบตุลาคมนี้ด้วย ซึ่งสร้างความยินดี รวมถึงขวัญและกำลังใจของพนักงานมหาวิทยาลัยอย่างมาก ตลอดจนยังเป็นที่น่าขอบคุณอย่างยิ่ง
นอกจากนั้น ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยในคราวเดียวกัน ยังมีมติให้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเชิญบริษัทเอกชนมานำเสนอผลประโยชน์ในการบริหารกองทุน ซึ่งน่าจะสำเร็จได้ไม่เกินสิ้นปีนี้
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะการร่วมมือร่วมใจกันของพนักงานที่ช่วยกันเรียกร้องและนำเสนอข้อเท็จจริง ทั้งที่เป็นทางการ ได้แก่ การเลือกตัวแทนเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงในสภามหาวิทยาลัย และอย่างไม่เป็นทางการ ได้แก่ การลงชื่อในหนังสือเปิดผนึกถึงท่านอธิการบดี ซึ่งมีผู้ลงชื่อกว่า 400 คน หรือคิดเป็นประมาณเกือบร้อยละ 50 ของพนักงานมหาวิทยาลัยทั้งหมด
ที่สำคัญไปกว่านั้น ผู้บริหาร โดยเฉพาะท่านอธิการบดี รวมทั้งสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้เปิดใจรับฟังข้อเรียกร้องและมีความตั้งใจและจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานมหาวิทยาลัย บรรเทาความเดือดร้อนของพนักงานมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด- 19 เป็นการรักษาผู้มีศักยภาพให้ทำงานในมหาวิทยาลัยต่อไป ในขณะเดียวกันก็เป็นการดึงดูดผู้มีศักยภาพสูงให้มาร่วมงานกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีด้วย เหนือสิ่งอื่นใด การปรับอัตราเงินเดือนให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีนี้เป็นการคืนความเป็นธรรมให้กับพนักงานมหาวิทยาลัย ตลอดจนเป็นการยุติความขุ่นข้องหมองใจและความขัดแย้งที่มีมากว่าทศวรรษระหว่างพนักงานมหาวิทยาลัยกับผู้บริหารลงได้ ซึ่งจะส่งผลให้มหาวิทยาลัยสามารถก้าวหน้าไปได้จากการร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย
ในนามตัวแทนพนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จึงขอขอบคุณผู้บริหารและสภามหาวิทยาลัยมา ณ ที่นี้เป็นอย่างสูง และขอแจ้งให้สมาชิกทุกท่านทราบถึงความคืบหน้าของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีมา ณ ที่นี้ด้วย และขอเป็นกำลังใจให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยที่ยังอยู่ระหว่างการเรียกร้องความเป็นธรรมด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินการของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีจะเป็นแนวทางให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ยังไม่ดำเนินการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี พ.ศ. 2542 ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และสร้างความเป็นธรรมให้กับบุคลากรของท่านต่อไป อันจะนำมาซึ่งผลดีและประโยชน์ขององค์กรมากกว่าแน่นอนครับ
…