วิสุทธิ์ ตูน  28  มีนาคม  2552

วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11339 มติชนรายวัน

วันแรกรับเช็ค9.6แสนคน ยอด2พันล้าน คนสวดยับระบบแย่-คิวยาว
รายได้รัฐส่อวูบถึง2.5แสนล. “กรณ์”สั่งไล่บี้คนเลี่ยงภาษี

ใบแรก – นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบเช็คช่วยชาติฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก ใบแรกให้กับนางกงใจ หารไชย อายุ 31 ปี ผู้ช่วยครูโรงเรียนอนุบาลสาริน เขตสามเสน กรุงเทพมหานคร ระหว่างเป็นประธานเปิดงานที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. เมื่อวันที่ 26 มีนาคม

รับเช็คช่วยชาติวันแรกคึกคัก ยอดทั่ว ปท. 9.65 แสนราย ที่ กทม.วุ่น แห่มาลานคนเมืองร่วม 3 หมื่น เจอโวยขั้นตอนห่วย ให้ยืนตากแดดรอรับเช็คครึ่งค่อนวัน “ไพฑูรย์”สั่งย้ายที่แจกด่วน เลขาฯสปส.ยอมรับบกพร่อง เพิ่ม จนท.รับมือ นราฯคุมเข้มจุดรับเช็คที่ล่อแหลมเสี่ยงภัย อดีต พนง.ที่ถูกเลิกจ้างโวยไม่มีชื่อ

@ นับหมื่นคนรอรับเช็คที่กทม.

บรรยากาศการรับเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท ที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 (ประกันตนโดยสมัครใจ) และมาตรา 33 (ผู้ประกันตนในระบบ) ไปลงทะเบียนรับเช็คเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 26 มีนาคม เต็มไปด้วยความคึกคัก หลายแห่งมีคนรอเข้าคิวยาวเหยียด ขณะเดียวกันก็มีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้น เช่น รายชื่อผู้มีสิทธิรับเช็คตกหล่น ความสับสนในเรื่องสถานที่รับเช็ค เป็นต้น

ทั้งนี้ ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพ มหานคร (เสาชิงช้า) มีผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเช็คช่วยชาติ มารอคิวตั้งแต่ 05.00 น. โดย สปส. เปิดให้ลงทะเบียนรับเช็คเวลา 07.00 น. ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกันตนนับหมื่นคนที่มาเข้าคิวต่อแถวยาวเหยียด ส่งผลให้การจราจรรอบๆ พื้นที่มีรถสะสมหนาแน่นกว่าทุกวัน

ทั้งนี้ สปส.ได้เปิดให้ผู้ประกันตนตรวจสอบรายชื่อและรับบัตรคิว โดยจัดตั้งเต๊นท์ จำนวน 10 หลังไว้บริการ แต่สภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ประชาชนเป็นลมล้มพับกว่า 80 ราย บางคนต้องให้ออกซิเจนและปั๊มหัวใจ และแม้ว่าภายในเต๊นท์จะติดตั้งเครื่องปรับอากาศถึง 14 เครื่อง แต่เครื่องสภาพทรุดโทรม บางเครื่องเสียใช้การไม่ได้ สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ประกันตนเป็นอย่างมาก

@ โวยตากแดดรอคิวครึ่งค่อนวัน

นอกจากนี้ ผู้ประกันตนบางคนโวยวายต่อว่าเจ้าหน้าที่ สปส.ว่า ขาดความพร้อมในการดำเนินงาน จนต้องยืนตากแดดรับเช็คเสียเวลาหลายชั่วโมง เพราะเจ้าหน้าที่น้อยไม่เพียงพอต่อการให้บริการ และมีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเข้าคิวเพื่อรอตรวจสอบรายชื่อในจุดแรกก็ใช้เวลาถึง 2-3 ชั่วโมง จึงจะได้บัตรคิวเพื่อรับเช็ค แต่ปรากฏว่าเครื่องออกบัตรคิว 3 เครื่อง เกิดชำรุด 1 เครื่อง หลังจากที่ออกบัตรคิวไปได้เพียง 3,000 ใบเท่านั้น ทำให้ต้องใช้เวลาอีก 1-2 ชั่วโมง ในการเข้าคิวรอรับเช็ค ทำให้นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการ สปส.ไม่พอใจต้องลงไปอำนวยความสะดวกด้วยตนเอง ขณะที่ธนาคารกรุงเทพได้เตรียมเงินสดเพื่อให้บริการแลกเงินสดโดยไม่หักค่าธรรมเนียม รวมทั้งห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ บิ๊กซี เซ็นทรัล คาร์ฟูร์ เดอะมอลล์ และเทสโก้โลตัส ได้นำสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ นมผง ยาสาระผม สบู่ ไปออกร้านจำหน่ายสินค้าในราคาถูกด้วย

@ จวกขั้นตอนแจกเช็คห่วย

นายศรีมงคล รักเชื้อ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า เป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นผู้ประกันตน มาตรา 38 (ผู้ที่ถูกเลิกจ้างแต่ไม่เกิน 6 เดือน) ทำให้เสียเวลาและเสียค่าเดินทาง 500 บาท เพราะผู้ประกันตน มาตรา 38 จะมีสิทธิรับเช็คหลังวันที่ 8 เมษายน หนำซ้ำยังถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายจิตใจไล่ให้กลับบ้าน

นายวชิระ ชนานาฎ กล่าวว่า พาแม่อายุ 66 ปี ไปรับเช็คช่วยชาติที่ลานคนเมือง ตั้งแต่ 07.00 น.ผ่านไปกว่า 4 ชั่วโมงก็ยังไม่ได้เช็ค จนแม่เป็นลม

นายบำรุง ปานมณี อายุ 60 ปี ผู้ประกันตน มาตรา 39 เขตพื้นที่ 6 กล่าวว่า ออกจากบ้านที่เขตหนองแขม ตั้งแต่ตี 5 เพื่อมารับเช็คช่วยชาติ แต่จน 10.00 น. ก็ยังไม่ได้รับเช็ค พอเข้ารับบัตรคิวปรากฏว่าคอมพิวเตอร์เสีย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ผู้ประกันตนในเขตพื้นที่ 6 กลับไปรับเช็คที่ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ค บางแค วันที่ 4-8 เมษายนนี้แทน จึงเสียความรู้สึกมาก ขั้นตอนรับเช็คห่วยมาก และไม่มีเจ้าหน้าที่คอยชี้แจง

@ “ไพฑูรย์”สั่งด่วนย้ายที่จ่ายเช็ค

นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เนื่องจากที่ลานคนเมืองแออัดมาก ล่าสุด จึงได้สั่งการให้ สปส. เปลี่ยนแปลงสถานที่และวันจ่ายเช็คให้กับผู้ประตน มาตรา 39 จากเดิมจ่ายที่ลานคนเมืองวันที่ 27-28 มีนาคม เป็นที่ สปส. เขตพื้นที่ 11 ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมนี้เป็นต้นไป แต่หากยังมีผู้ประกันตน มาตรา 39 ยังไม่ทราบข่าว และเดินทางไปรับเช็คที่ลานคนเมือง สปส. อาจจะมีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งคอยให้บริการจ่ายเช็ค และจะรายงานจำนวนผู้รับเช็คทั่วประเทศในวันที่ 31 มีนาคม คาดว่ามีถึง 2.2 ล้านคน ส่วนตัวเลขผู้มารับเช็คอย่างไม่เป็นทางการทั่วประเทศประมาณ 965,000 คน คิดเป็นเงินกว่า 2 พันล้านบาท

@ เลขาฯสปส.ทำใจรับบกพร่อง

ด้านนายปั้นกล่าวว่า ยอมรับการจัดงานครั้งนี้มีข้อบกพร่องหลายอย่างทั้งที่มีการเตรียมการและสั่งการกับผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่พอถึงเวลาก็เกิดปัญหาอย่างที่ไม่ควรเป็น เช่น การบริหารจัดการ การอำนวยความสะดวก เบื้องต้นสั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดหาพัดลมไอน้ำจำนวน 20 เครื่อง มา ติดตั้งภายในเต๊นท์ เพื่อคลายความร้อนให้กับผู้ประกันตน และเจ้าหน้าที่ให้บริการ

”ยอมรับว่ามีความกังวลหลายเรื่อง เช่น การบริหารจัดการ การรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะจุดที่ขึ้นเงิน เพราะธนาคารกรุงเทพต้องเตรียมเงินสดจำนวน 200 ล้านบาท เพื่อให้บริการ ผู้ประกันตนจำนวน 1.5 แสนคน” นายปั้นกล่าว

นางสุจิตรา บุญชู รองเลขาธิการ สปส. กล่าวว่า วันนี้มีผู้ประกันตนเดินทางไปรับเช็คเกินความคาดหมาย ทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 100 คน ไม่เพียงพอ ทำให้ผู้รับเช็คเกิดความสับสน เบียดเสียดแย่งกันรับบัตรคิวจนเกิดความวุ่นวาย ทั้งนี้ ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ สปส.แล้ว

@ รับบัตรคิวเฉียด4หมื่น-ขึ้นเงิน15ล.

ทั้งนี้ สปส.ได้ปิดรับบัตรคิวที่ลานคนเมือง เวลา 16.30 น. โดยมีผู้ประกันตนได้รับบัตรคิวเพื่อรอรับเช็คเกือบ 4 หมื่น ราย และมีผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33 และ 39 นำเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคารกรุงเทพ จำนวน 7,500 ราย คิดเป็นเงิน 15 ล้านบาท โดยธนาคารกรุงเทพจะเปิดรับเช็คไปจนถึงเวลา 20.00 น.

นายธีระ อภัยวงศ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ธนาคารขยายเวลาให้บริการเฉพาะโครงการเช็คช่วยชาติทั่วประเทศ จนถึงเวลา 20.00 น. และเพิ่มการให้บริการในวันเสาร์ ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. ส่วนสาขาในห้างสรรพสินค้า เปิดให้บริการทุกวันถึงเวลา 20.00 น. ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 เมษายนนี้ เพื่อให้บริการนำเช็คช่วยชาติมาเบิกเงินสดที่สาขาของธนาคาร

@ “มาร์ค”ปธ.มอบเช็คใบแรก

วันเดียวกัน เวลา 08.35 น. ที่ลานคนเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบเช็คช่วยชาติใบแรกให้แก่นางกงใจ หารไชย หรือ “กง” อายุ 31 ปี ผู้ช่วยครูโรงเรียนอนุบาลสาริน เขตสามเสน กทม. พร้อมกล่าวว่า อยากให้ผู้ประกันตนที่ได้รับเช็คช่วยชาติเอาไปส่งเสริมการใช้จ่ายเพื่อรักษามูลค่ามาตรฐานของการครองชีพ ในช่วงที่ประสบภาวะยากลำบาก และหวังว่าจะนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจ

ด้านนางกงใจกล่าวว่า จะนำเช็คไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเก็บไว้ส่วนหนึ่ง เงิน 2,000 บาท แม้จะไม่มากนัก แต่ก็รู้สึกดีที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ตนเองได้เงินเดือนกว่า 8,000 บาท ถือว่าช่วยได้มากแล้ว

”ขณะนี้กำลังตั้งท้องได้ 5 เดือนแล้ว จะนำเงินส่วนนี้ใช้ในการคลอดบุตรด้วย ถือว่าลูกนำโชคมาให้” นางกงใจกล่าว

@ นราฯรปภ.เข้มจุดรับเช็ค

สำหรับบรรยากาศการรับเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทในต่างจังหวัด เป็นไปด้วยความคึกคัก มีผู้มีประกันตนมารอรับเช็ค 2 พันจำนวน มาก หลายแห่งต้องเข้าคิวยาว โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ ตามสาขาในแต่ละแห่งมาตั้งโต๊ะรับแลกเช็คเป็นเงินสด หรือนำเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิได้รับเช็ค

สำหรับที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่รัฐได้วางกำลังเป็นพิเศษเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนตามจุดรับเช็คในพื้นที่ล่อแหลมและเสี่ยงภัย 4 อำเภอ คือ อ.ตากใบ อ.แว้ง อ.ระแงะ และ อ.บาเจาะ โดยเฉพาะ อ.บาเจาะ ทาง พ.ต.อ. จำลอง งามเนตย์ ผกก.สภ.บาเจาะ ได้ตั้งด่านตรวจค้นอาวุธและวัตถุระเบิดอย่างเข้มงวดที่หน้าประตูทางเข้าที่ว่าการอำเภอบาเจาะซึ่งเป็นจุดรับเช็ค

ที่ จ.นครราชสีมา มีการตั้งโต๊ะปล่อยเช็คที่ห้องเอ็ม ซี ซี ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา ริมถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา น.ส.ยุพยง ทองประสม สปส. เผยว่า ปัญหาในวันแรกนี้คือ ผู้ที่มาขอรับเช็คหลายรายไม่มีรายชื่อ คาดว่าน่าเกิดจากผู้มีสิทธิได้เปลี่ยนงานใหม่ หรือเกิดจากความผิดพลาดของระบบ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีรายชื่อตกหล่นสามารถแจ้งขอตรวจสอบที่ สปส.นครราชสีมาได้ทันที ส่วนผู้ที่อยู่ต่างอำเภอตรวจสอบได้ที่อำเภอ

@ อดีตพนง.โวยไม่ได้เช็ค

ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ปรากฏว่ามีอดีตคนงานกว่า 200 คน ประท้วงหน้าสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพราะไม่มีรายชื่อรับเช็คช่วยชาติวันแรก เจ้าหน้าที่ สปส.ได้ชี้แจงว่า คนงานที่ถูกเลิกจ้าง แต่ยังอยู่ในระยะเวลาเลิกจ้างไม่เกิน 6 เดือน ไม่ได้มาแจ้งขอรับสิทธิในช่วงแรกของการขึ้นทะเบียน ทำให้ไม่มีรายชื่อในรอบแรกของการรับเช็ค และให้มาฟังคำตอบในวันที่ 30 เมษายน ว่าจะมีรายชื่อรับเช็คหรือไม่ ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ จึงรวมตัวเดินทางไปปิดทางเข้าออกที่ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงจัดให้ผู้ชุมนุมร่วมหาทางออกกับเจ้าหน้าที่ สปส. ซึ่งสปส.ระบุว่าจะเร่งตรวจสอบสิทธิ และให้มาตรวจสอบรายชื่อในวันที่ 1 เมษายน และเริ่มรับเช็คได้ระหว่างวันที่ 5-8 เมษายน ผู้ชุมนุมได้รับคำตอบที่น่าพอใจต่างยอมสลายตัวในเวลาต่อมา

@ รายได้รัฐวูบลึกถึง2.5แสนล.

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในปีงบประมาณ 2552 ร่วมกับกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากรว่า ได้หารือถึงอุปสรรคการจัดเก็บรายได้ เพราะมีแนวโน้มว่าประมาณการรายได้ที่วางไว้ 1.58 ล้านล้านบาท จะจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการมากกว่า 1.3 แสนล้านบาท โดยได้สั่งการให้กรมสรรพากรดำเนินการอย่างจริงจังกับผู้เลี่ยงภาษีด้วยการแยกตั้งคณะบุคคลหลายๆ คณะ เพื่อให้จ่ายภาษีต่ำ รวมทั้งสร้างรายจ่ายเทียมเพื่อขอคืนภาษี

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ผลจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างรุนแรง จะส่งผลให้ปีงบประมาณ 2552 จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการสูงถึง 2.5 แสนล้านบาท

หน้า 1