อย่าเล่นลูกเต๋า

วิสุทธิ์ ตูน  11  สค 52

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11476 มติชนรายวัน
สะพัด”ทำเนียบ”บีบผบ.ตร. ต้อง”ลา”ต่อ! อ้างลง”ใต้”-ให้”วิเชียร”จัดโผ

“มาร์ค”ออกตัวอย่าปั่นให้ระแวง จับเพิ่ม”ส.อ.รบพิเศษ”คดี”สนธิ”
“ผบ.ตร.”ทำบันทึกถึงนายกฯ แจงกลับก่อนกำหนด เหตุพายุถล่มจีนหวั่นกลับร่วมถวายพระพรราชินีไม่ทัน “วิเชียร”บอกหมดหน้าที่แล้ว สะพัดอีกทำเนียบกดดัน “พัชรวาท” ให้ลาต่อ อ้างลงใต้

@ “พัชรวาท”แจงนายกฯกลับจากจีน

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งเดินทางไปราชการที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 5-14 สิงหาคม แต่เดินทางกลับก่อนกำหนดโดยเดินทางกลับถึงไทยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 สิงหาคม ว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 10 สิงหาคม พล.ต.อ.พัชรวาท เดินทางเข้าทำงาน ที่สำนักงาน ผบ.ตร.ชั้น 7 อาคาร 1 ใช้เวลาอยู่ในสำนักงานประมาณ 10 นาที แล้วเดินทางออกไปโดยไม่แจ้งให้ตำรวจในสำนักงานทราบภารกิจแต่อย่างใด

แต่ พล.ต.อ.พัชรวาท มีบันทึกข้อความถึงนายกรัฐมนตรีผ่านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่อง รายงานการกลับจากเดินทางไปราชการต่างประเทศ ลงวันที่ 9 สิงหาคม

หนังสือระบุว่าเรื่องเดิม สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหนังสือด่วนที่สุดที่ ตช.0003.23/4952 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2552 ขออนุมัติให้ผู้บัญชา การตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม 2552 ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2552 ในห้วงเวลาดังกล่าวหากมีราชการสำคัญอาจกลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการตามปกติ นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งอนุมัติ ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2552 และให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ 10) รักษาราชการแทน ผบ.ตร.

ข้อเท็จจริง กระผมผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะออกเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่ได้รับอนุมัติแล้วตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2552 เนื่องจากได้รับการแจ้งเตือนกรณีพายุมรสุมฤดูร้อนเข้าสู่พื้นที่การปฏิบัติภารกิจที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2552 เป็นต้นไป กระผมพิจารณาแล้วเห็นว่าใกล้ถึงโอกาสถวายความจงรักภักดีเทิดพระเกียรติในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดของกระผมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยในโอกาสดังกล่าวสำนักราชเลขาธิการแจ้งว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯในวันอังคารที่ 11 สิงหาคม 2552 กระผมจึงสมควรเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 8 สิงหาคม 2552 โดยมอบหมายภารกิจที่เหลือ ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมคณะเป็นผู้ประสานและปฏิบัติภารกิจต่อไป ซึ่งผลการเดินทางไปปฏิบัติราชการครั้งนี้เป็นประการใด ทางเลขานุการคณะเดินทางจะได้รายงานให้ทราบต่อไป

ข้อพิจารณา เนื่องจากภารกิจการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนของกระผมเสร็จสิ้นแล้ว ประกอบกับโอกาสถวายความจงรักภักดีเทิดพระเกียรติในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่สุดของกระผมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระผมจึงเดินทางกลับจากราชการมาถึงประเทศไทยในวันที่ 8 สิงหาคม 2552 เวลาประมาณ 21.00 น. เพื่อมาปฏิบัติภารกิจดังกล่าวและปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามปกติ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา กระผมมีหนังสือ สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ 0001(ผบ)/334 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2552 แจ้งข้าราชการตำรวจทราบถึงการกลับจากราชการ และเริ่มปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ตามปกติแล้ว

นอกจากนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท มีบันทึกข้อความเลขที่ 0001(ผบ)/334 ลงวันที่ 9 สิงหาคม ถึงทุกสำนักงาน รอง ผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร.และตำแหน่งเทียบเท่า ใจความว่า ตามการอนุมัติของนายกรัฐมนตรี ให้ ผบ.ตร.เดินทางไปราชการสาธารณรัฐประชาชนจีนระหว่าง 5-14 สิงหาคม ในห้วงเวลาดังกล่าวหากมีราชการสำคัญอาจกลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการตามปกติ โดยให้ พล.ต.อ.วีเชียร รักษาราชการแทน ผบ.ตร.นั้น บัดนี้ ผบ.ตร.เสร็จสิ้นภารกิจแล้วกลับมาปฏิบัติราชการตามระเบียบ กฎหมายตามปกติแล้ว

@ “วิเชียร”บอกหมดหน้าที่รักษาการ

วันเดียวกันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวก่อนเป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจรในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา พระบรมราชินีนาถ ว่า เมื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท เดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ การรักษาราชการแทนของตนก็พ้นไปโดยปริยาย ตนกลับไปทำหน้าที่ปรึกษาด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ การที่ข้าราชการลาไปปฏิบัติราชการ มีผู้รักษาการแทน เมื่อผู้ลากลับมาทำงานก่อนเวลาที่ลา ถือว่ากลับมาปฏิบัติราชการแล้ว

เมื่อถามถึงการจัดทำบัญชีโยกย้าย พล.ต.อ. วิเชียรกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้มอบหมาย มีหน้าที่เพียงรักษาการแทน ผบ.ตร.เท่านั้น ผบ.ตร.มีหน้าที่อะไรก็ทำไป เมื่อพ้นหน้าที่ก็ไม่สามารถปฏิบัติได้

@ “มาร์ค”ดักคอ”พัชรวาท”ไม่เอี่ยวทำโผ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ทำหนังสือมาถึงตน ผ่านนายสุเทพ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าตามที่ได้เคยปรารภไว้ตอนที่ลาพักราชการในครั้งแรก ผบ.ตร. จะกลับมาร่วมในงานพระราชพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 11-12 สิงหาคม แต่เนื่องจากมีไต้ฝุ่นเข้าที่จีน จึงจำเป็นต้องเดินทางกลับมาก่อน เพราะเกรงว่าอาจจะเดินทางกลับมาร่วมงานต่างๆ ไม่ได้ แต่ไม่มีประเด็นอะไรที่จะมาเกี่ยวข้องกับการไปทำให้คนวิตกกังวล และไม่มีประเด็นใดที่ต้องวิตกกังวลทั้งสิ้น

“ที่ไปพูดกันมากในเรื่องที่จะไปประชุม ไปโยกย้ายต่างๆ ยืนยันว่าไม่มี และจะเห็นได้ว่าวันเดียวกันนี้ (10 สิงหาคม) ก็มีการออกหมายจับเพิ่มในคดี (ลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย) หลังจากวันเฉลิมพระชนมพรรษา ท่านก็รายงานมาว่าจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในภาคใต้ จะขอให้แต่งตั้งบุคคลมารักษาราชการแทน” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังเป็น พล.ต.อ.วิเชียร ที่จะรักษาราชการแทน ผบ.ตร.เหมือนเดิมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ก็น่าจะเป็นคนเดิมครับ” เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้ยังถือว่า พล.ต.อ.พัชรวาทลาปฏิบัติราชการ หรือกลับมาทำหน้าที่แล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อกลับมาแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนก็ถือว่าไม่มีการรักษาราชการแทน แต่ก็ไม่มีประเด็นอะไร ผบ.ตร. ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ และหลังจากวันที่ 12 สิงหาคม พล.ต.อ.พัชรวาทจะไปปฏิบัติภารกิจในภาคใต้

เมื่อถามย้ำว่า พล.ต.อ.พัชรวาท จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ไม่มีครับ ไม่มีเรื่องโยกย้าย หรือเรื่องอะไร ไม่มีการไปเกี่ยวข้องอะไรกับใครทั้งสิ้นในตอนนี้ ฉะนั้นขอความกรุณาว่าอย่าทำให้เกิดข่าวแล้วมีความตื่นตระหนกตกใจ หวาดระแวงกันไป ขอให้ทุกคนทำงานได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร”

@ เลี่ยงตอบใคร”ผบ.ตร.”ตัวจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.อ.พัชรวาทลาไปปฏิบัติราชการภายในประเทศ เหตุใดต้องตั้งผู้รักษาราชการแทน ผบ.ตร. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่สามารถดูแลบริหารงานต่างๆ ได้ ส่วนจะลากี่วันนั้นตนยังไม่ทราบรายละเอียด ผบ.ตร.เพียงแต่รายงานมา เมื่อถามย้ำว่าจะลาครบ 30 วันตามที่นายกรัฐมนตรีเคยระบุไว้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ไม่ยอมตอบคำถามดังกล่าว พร้อมเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวไปทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.45 น. นายอภิสิทธิ์เดินทางออกจากรัฐสภาเพื่อมาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่าใครคือ ผบ.ตร.ตัวจริง โดยนายอภิสิทธิ์ก้าวขึ้นรถยนต์ประจำตำแหน่งไปทันที

ด้านนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท เมื่อกลับเข้ามาแล้วต้องรายงานตัวต่อนายกรัฐมนตรีหรือนายสุเทพ เพราะคนเป็นเลขาฯนายกฯจะพูดก่อนนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร และตนคาดเดาเอาเองว่า พล.ต.อ.พัชรวาทคงจะมีแผนจะเดินทางไปราชการที่ต่างประเทศอีก

@ “สุเทพ”ยัน”พัชรวาท”กลับไร้ปัญหา

ด้านนายสุเทพให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณี พล.ต.อ.พัชรวาทเดินทางกลับจากจีนก่อนกำหนดว่า ไม่ยากจะพูดถึงเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วงนี้ เพราะบ้านเมืองยังมีเรื่องอื่นที่น่าติดตามมากกว่า และคิดว่าการทำหน้าที่ของ ผบ.ตร.ขณะนี้ ยังไม่เป็นปัญหา เมื่อถามว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.พัชรวาท กลับมาแล้ว จะยกเลิกการรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.วิเชียรหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย เมื่อถามว่า พล.ต.อ.พัชรวาทได้เข้ารายงานตัวกลับมาปฏิบัติหน้าที่หรือยัง นายสุเทพกล่าวว่า น่าจะมีหนังสือมา เมื่อถามว่า เป็นหนังสือยกเลิกการลาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือ

เมื่อถามว่าการกลับมาทำหน้าที่ ผบ.ตร.จะมีผลหรือไม่เพราะยังอยู่ในช่วงของการพิจารณาโยกย้ายนายตำรวจ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นช่วงอะไรก็แล้วแต่ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกา เมื่อถามว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม มีมติยืนยันการแต่งตั้ง 152 นายพลตำรวจ ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ต้องรอพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อน จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ลงนามในบัญชีรายชื่อ เพื่อกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง

เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ระบุว่า การแต่งตั้งระดับรองผู้บังคับการลงไปมีหลายคนเรียกร้องให้ประชุม ก.ตร.อีกครั้งเตรียมการอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือ และยังไม่สามารถนัดประชุมได้ ต้องรอให้มีหนังสือก่อน เมื่อถามถึงกรณี ที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียรเป็นรักษาราชการแทน ผบ.ตร. นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีการยื่นหนังสือแต่อย่างใด มีแต่ข่าวลือที่ออกไปเท่านั้น

@ แฉบีบ”พัชรวาท”ลาตรวจงานใต้

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางทำเนียบรัฐบาลโทรศัพท์มอบหมายภารกิจให้ พล.ต.อ.พัชรวาทลงไปปฏิบัติงานที่ภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 13-18 สิงหาคม โดยสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาททำหนังสือเสนอขออนุมัติขึ้นไป แล้วนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ลงนามคำสั่ง และคาดว่าจะให้ พล.ต.อ.วิเชียรรักษาราชการแทนเพื่อจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับรองผู้บังคับการถึง ผบ.หมู่

แหล่งข่าวกล่าวว่า การจัดทำบัญชีแต่งตั้งหากให้ พล.ต.อ.พัชรวาทดำเนินการก็จะแล้วเสร็จทันเวลาที่กำหนดไว้ แต่เนื่องจากมีบัญชีตำรวจคนสนิทของนักการเมือง ที่ฝากไปถูกตัดออกทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงหาทุกวิถีทางที่ระงับยับยั้งไม่ให้คำสั่งแต่งตั้งมีผลบังคับใช้ได้ตามที่กำหนดไว้วันที่ 16 สิงหาคม

“ซึ่งจะแก้ปัญหาด้วยการให้นายสุเทพนัดประชุม ก.ตร.เพื่อขอมติอีกครั้งเกี่ยวกับ พ.ร.ฎ. แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากเดิมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยประสานสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอความอนุเคราะห์ ให้นำ พ.ร.ฎ.แบ่งส่วนราชการฯลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 15 สิงหาคม เพื่อให้มีผลบังคับในวันที่ 16 สิงหาคม โดยจะอ้างว่าการจัดทำบัญชีแต่งตั้งยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากมีบัญชีรายชื่อตำรวจจำนวนมาก จึงจะขอให้ ก.ตร.มีมติเลื่อนวันมีผลเกี่ยวกับการแต่งตั้งออกไปก่อน” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หากเลยวันที่ 18 สิงหาคม แล้วบัญชีรายชื่อยังไม่แล้วเสร็จ อาจมีการสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาทไปปฏิบัติราชการต่อยังต่างประเทศอีก และเมื่อถึงตอนนั้น พล.ต.อ. พัชรวาทอาจจะลาออกจากราชการ รวมทั้งจะเปิดเผยบัญชีรายชื่อที่ผู้มีอำนาจฝากฝังมาให้ ก.ตร. รับทราบไว้เป็นข้อมูล

@ เลขาฯนายกฯเรียก”สุวัฒน์”หารือโผ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร. คนสนิทของ พล.ต.อ.พัชรวาท ซึ่งมีบทบาทในการทำบัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบก.จนถึงชั้นประทวน พบนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยหารือถึงการจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายรอง ผบก.ลงไป ว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 16 สิงหาคม หรือไม่ สาเหตุที่นายนิพนธ์เรียก พล.ต.ท.สุวัฒน์เข้าพบ เนื่องจากได้รับแจ้งจาก พล.ต.อ.วิเชียร บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายทั้งหมดอยู่ที่ พล.ต.ท.สุวัฒน์ เพียงคนเดียว

รายงานข่าวแจ้งว่า การทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผบก.ลงไป พล.ต.อ.พัชรวาทได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดสำนักงานกำลังพลที่มีหน้าที่จัดทำบัญชี เก็บเสื้อผ้าสำหรับการค้างแรมประมาณ 4 วัน โดยนำเจ้าหน้าที่ทั้งหมดไปเก็บตัวไว้ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งจัดทำบัญชีโยกย้าย เพื่อไม่ให้มีการกดดันจากฝ่ายใดๆ

@ หมายจับเพิ่ม”ส.อ.”ป่าหวายคดีสนธิ

รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ขออนุมัติหมายจับ ส.อ.สมชาย บุญนาค สังกัดกองร้อยกองบังคับการกรมรบพิเศษที่ 3 ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี ต่อศาลอาญา ศาลอนุมัติหมายจับ 5 ข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด พกพาไปในเมือง หมู่บ้าน หรือแหล่งที่อยู่อาศัย โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเปิดเผย และไม่มีเหตุจำเป็น และเร่งด่วนตามสมควรแห่งพฤติการณ์ ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหรือที่ชุมนุมชน ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป กระทำการเป็นซ่องโจร เพื่อกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

จากแนวทางการสืบสวนพบว่า ส.อ.สมชาย เคยอยู่สังกัดเดียวกับ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ พบว่า ส.อ.สมชายร่วมทีมด้วย จากการสืบสวนทราบด้วยว่า ส.อ.สมชายหนีไปแล้ว หลังจากที่เพื่อนร่วมทีมถูกออกหมายจับไปก่อนหน้า เพราะทราบว่าจะต้องถูกออกหมายจับในไม่ช้า

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 11 สิงหาคม พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เรียกชุดสืบสวนทั้งหมดมาพบที่สำนักงาน อาคาร 1 ตร. เพื่อวางแผนและจัดแบ่งทีมงานใหม่เพื่อสืบสวนสอบสวนในคดี

@ ทนายผู้ต้องหายิงสนธิยื่นอุทธรณ์

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่แผนกอุทธรณ์ ฎีกา ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายบัญญัติ จิตรเย็น ทนายความ จ.ส.อ.ปัญญา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีลอบสังหารนายสนธิ ยื่นอุทธรณ์กรณีที่ศาลอาญามีคำสั่งเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ไม่รับฟ้องคดีที่ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. และ พ.ต.อ.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็น จำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำการอันมิชอบเพื่อจะกลั่นแกล้งบุคคลให้รับโทษทางอาญาโดยไม่เป็นธรรม

นายบัญญัติกล่าวว่า ที่ยื่นอุทธรณ์เพราะไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลอาญา จึงขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาหรือคำสั่งกลับคำสั่งศาลอาญาที่ไม่รับฟ้อง โดยให้สั่งศาลอาญารับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้องเพื่อพิจารณาพิพากษา ซึ่งคำอุทธรณ์ตนยืนยันตามคำฟ้องที่เคยยื่นต่อศาลอาญาว่า จ.ส.อ.ปัญญาไม่ได้กระทำผิด และขณะเกิดเหตุร่วมงานทอดผ้าป่าสามัคคีที่ จ.ตราด โดยศาลอาญานัดฟังคำสั่งว่าจะรับอุทธรณ์หรือไม่ภายใน 3 วัน

ผู้สื่อถามว่า จะนำ จ.ส.อ.ปัญญาเข้ามอบตัวหรือไม่ นายบัญญัติกล่าวว่า ประสานกับญาติ จ.ส.อ.ปัญญา แต่เพียงเรื่องอุทธรณ์การฟ้องคดี ส่วนการมอบตัวเดิม จ.ส.อ.ปัญญาจะมอบตัวเพื่อร่วมไต่สวนมูลฟ้องคดี หากศาลรับคดีไว้พิจารณา แต่เมื่อศาลไม่รับฟ้อง จึงต้องพิจารณาอีกครั้ง เพราะ จ.ส.อ.ปัญญารู้สึกไม่มั่นใจในความปลอด ภัย

หน้า 1

Comments are closed.