ลูกผมดีทุกคน

วิสุทธิ์ ตูน    24 มีนาคม  2552

วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11334 มติชนรายวัน
โหวตไว้วางใจ”กษิต”น้อย “มาร์ค”ไม่ปรับ พท.ไล่เช็คชื่อ10งูเห่าโผล่
เสียงหนุนนายกฯ-5รมต.อื้อ “เฉลิม”ยันยื่นกกต.สอบ258ล. “ชัย”เตือนรบ.ระวังขรก.ไส้ศึก


”มาร์ค”ยันไม่ปรับ”กษิต”พ้น ครม. แม้เสียงไว้วางใจน้อยกว่าเพื่อน โหวตนายกฯ-4 รมต.ผ่านฉลุย กลุ่ม 12 พผ.ยกมือหนุน ปชร.ช่วยงดออกเสียง “เกียรติกร” ยันไม่โหวตให้ รมว.บัวแก้ว ยุให้ปลดเพื่อช่วยลดความขัดแย้ง ปชป.ไม่ลงโทษ บอกเป็นเด็กดี ขณะที่ “เพื่อไทย” มี “งูเห่า”โผล่แหกโผ 10 ราย พล่านเช็คชื่อ ลั่นส่ง กกต.สอบปมเงิน 258 ล้านแน่ ไม่สน “สุเทพ “ขู่ยื่นยุบพรรคกลับ ข้อหาป้ายสี

@ โหวตไว้วางใจนายกฯ- 5รมต.”
หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 5 คน คือนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่ วันที่ 19-20 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า นายกฯ และ 5 รัฐมนตรีสอบผ่าน โดยเสียงไม่ไว้วางใจมีไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ขณะที่เสียงไว้วางใจมากกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่รัฐสภา เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ เริ่มเมื่อเวลา 11.00 น. โดยนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า จะลงมตินายกฯก่อน จากนั้นลงมติรัฐมนตรีรายบุคคล ทั้งนี้รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส. จะลงคะแนนไม่ได้ ตามมาตรา 177 วรรคสอง มีจำนวน 23 คน การลงคะแนนใช้วิธีการลงแบบเปิดเผย ด้วยการใช้เครื่องลงคะแนน จากนั้นนายชัย สั่งให้แสดงตนปรากฏว่า มีสมาชิกในห้องประชุม 446 คน ครบองค์ประชุม
ทั้งนี้ มี ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 465 คน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 และ 159 รัฐมนตรีจะพ้นจากตำแหน่ง สมาชิกจะต้องมีมติไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่ง คือ 233 เสียง
ผลการลงคะแนนญัตติไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์และ 5 รัฐมนตรีปรากฏว่าเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง (ดูตารางประกอบ)

@ “กษิต”เสียงไว้วางใจน้อยกว่าเพื่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงคะแนนที่น่าสนใจคือ มีเสียงไว้วางใจนายนายอภิสิทธิ์ นายประดิษฐ์ นายกรณ์ นายชวรัตน์ และ นายบุญจง มากกว่าเสียงที่รัฐบาลประเมินไว้ถึง 12 เสียง ทั้งนี้เป็นเสียงจากกลุ่ม 12 พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) 8 คน พรรคราษฎร 3 คน และพรรคประชาราช (ปชร.) 1 คน คือนายจักรกฤษณ์ ทองศรี ส.ส.บุรีรัมย์ หลานนายทรงศักดิ์ ทองศรี ลูกพี่ลูกน้องกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ส่วนการงดออกเสียงส่วนใหญ่มาจากพรรค ปชร. 8 คน พรรคเพื่อไทย 3 คน รวมทั้งพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน หัวหน้ากลุ่ม 12 พรรค พผ.

ส่วนนายชวรัตน์คะแนนไม่ไว้วางใจน้อยกว่าคนอื่นคือมี 167 เสียง ทั้งนี้ การงดออกเสียงมากถึง 20 คน เป็น ส.ส.พรรค พท. พรรค ปชร. 8 คน พรรค พผ.1 คน และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 1 คน คือ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน
ที่น่าสนใจคือการโหวตให้นายกษิต ที่เสียงไว้วางใจมีเพียง 237 เสียง น้อยกว่าคนอื่นถึง 9 เสียง ทั้งนี้ เนื่องจาก ส.ส.จากพรรค ปชร. 9 คนโหวตไม่ไว้วางใจ ต่างจากคนอื่นที่จะงดออกเสียง 8 คน และไว้วางใจ 1 คน นอกจากนี้ 1 ใน 12 คนที่งดออกเสียง คือนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรค ปชป.

@ นายกฯ-5รมต.ยิ้มหลังสอบผ่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการลงมติ นายกฯและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทั้งนี้ นายธวัชชัย อนามพงษ์ ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นำพวงมาลัย 2 พวง มอบให้นายกรณ์ และนายกษิต ทำให้นายกษิต มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มทันที และก่อนที่ประธานสภาจะสั่งนับคะแนน ปรากฏว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน หลายคนพยายามเสนอให้ลงคะแนนลับ แต่นายชัยยืนยันให้ลงคะแนนเปิดเผย แม้ ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคนพยายามทักท้วง แต่นายชัยตัดบทและสั่งลงคะแนน
ภายหลังการลงคะแนนเสร็จสิ้นลง นางวรศุลี สุวรรณปริสุทธิ์ ส.ส.มุกดาหาร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) วิ่งกระหืดกระหอบเข้าห้องประชุม และขอประธานอนุญาตให้ลงคะแนนให้นายกฯและรัฐมนตรีทุกคน เนื่องจากรถยางรั่วมาลงคะแนนไม่ทัน ยกเว้นนายบุญจงที่โหวตคนสุดท้ายที่มาทันเพียงคนเดียว แต่นายชัยไม่อนุญาตเพราะถือว่าเลยขั้นตอนมาแล้ว ทำให้นางวรศุลีกดไมค์และกล่าวว่า ตนไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีทั้ง 5 คน
จากนั้นนายชัยกล่าวว่า จากผลคะแนนนายกฯและรัฐมนตรีอีก 5 คน ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป ขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่เหนื่อยมาตลอด 3 วัน ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัย และขอให้มีความปรองดอง ทั้งนี้ นายชัยได้ยกมือไหว้ขอบคุณสมาชิกด้วย จากนั้นสั่งปิดการประชุมในเวลา 11.30 น. ทันทีที่ปิดการประชุม นายประดิษฐ์เดินเข้าไปแสดงความยินดีและยกมือไหว้นายอภิสิทธิ์ ขณะที่รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายและสอบผ่านต่างยิ้มแย้มแจ่มใส และแสดงความยินดีจับมือกันอย่างชื่นมื่น

@ รบ.กล่อม “กลุ่ม12-ปชร.”กลางดึก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกของการ อภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่สอง (20 มีนาคม) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรม ราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ประสานไปยังแกนนำพรรคร่วมแต่ละพรรค เพื่อเช็คเสียง ส.ส. ก่อนลงมติ โดยเน้นสอบถามว่าจะลงมติให้กับนายกษิตหรือไม่ ซึ่งแกนนำพรรคร่วมให้คำตอบว่าคำชี้แจงของนายกษิตน่าพอใจ และยืนยันว่าจะลงคะแนนให้นายกษิต นอกจากนี้แกนนำพรรคบางคนยังติดต่อไปยังนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรค ปชร.ที่มี 9 เสียง และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรค พผ. หัวหน้ากลุ่ม 12 ที่มี 12 เสียง เพื่อหยั่งท่าที ปรากฏว่าได้คำตอบที่น่าพอใจ

ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 21 มีนาคม ก่อนการประชุมเพื่อลงมตินายชินวรณ์เรียกประชุม วิปรัฐบาล ที่ชั้น 2 อาคารรัฐสภา เพื่อเช็คเสียงขั้นสุดท้าย โดยมีนายอภิสิทธิ์และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าฟังด้วย ทั้งนี้ นายชินวรณ์นับจำนวน ส.ส.แต่ละพรรคเป็นรายคน โดยรัฐบาลมีเสียงทั้งหมด 262 เสียง คือ พรรคประชาธิปัตย์ 170 เสียง พรรคภูมิใจไทย 32 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 25 เสียงพรรคเพื่อแผ่นดิน 21 เสียง พรรครวมใจ ไทยชาติพัฒนา 9 เสียง และพรรคกิจสังคม 5 เสียง เมื่อหักเสียงของรัฐมนตรีและประธานสภาแล้ว รัฐบาลน่าจะมีเสียงประมาณ 238 เสียง ส่วน ส.ส.ฝ่ายค้านมี 194 เสียงประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 182 เสียง พรรคประชาราช 9 เสียงและพรรคราษฎร 3 เสียง         @ กลุ่ม12พผ.โหวตให้โอกาส “รบ.”
ก่อนการประชุมลงมติ ที่อาคารเบญจมาศ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้ากลุ่ม 12 พรรค พผ. อาทิ นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ส.ส. สัดส่วน นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส. ม.ร.ว.กิตติวัฒนา ไชยยันต์ ปกมนตรี ส.ส.สัดส่วน ร่วมแถลงหลังการประชุมหารือกว่า 1 ชั่วโมง โดย พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า มติของกลุ่มยินดีที่จะให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อไป โดยจะโหวตสนับสนุนรัฐบาล เพราะจากการติดตามการอภิปราย รัฐบาลชี้แจงได้ดี ขณะที่ฝ่ายค้านไม่มีข้อมูล ที่มีน้ำหนักเพียงพอ การโหวตลงมติให้รัฐมนตรีบางคน ถือเป็นเอกสิทธิของ ส.ส. จะโหวตไว้วางใจ หรืองดออกเสียงก็ได้ แต่ คงไม่มีการโหวตไม่ไว้วางใจ เนื่องจากตามหลักพรรค พผ.ยังถือว่ายังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่

ม.ร.ว.กิตติวัฒนากล่าวว่า ยังข้องใจ การชี้แจงของรัฐมนตรีบางคน แต่คงโหวตสนับสนุนนายกฯและรัฐมนตรีทุกคนรวมถึงนายกษิตด้วย เนื่องจากมีผู้ใหญ่ขอมา

นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ส.ส.สัดส่วนกล่าว ว่า เท่าที่พูดคุย มี ส.ส.ในกลุ่ม 1-2 คน จะงดออกเสียงไว้วางใจนายกษิต ส่วนนายกฯและรัฐมนตรีคนอื่น ส.ส.ในกลุ่มจะยกมือ โหวตสนับสนุนเพื่อให้กำลังใจรัฐบาลทำงานต่อไป

ด้านนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคราษฎร กล่าวว่า ส.ส. 3 คน ของพรรคลงมติไว้วางใจนายกฯ และ 4 รัฐมนตรี แต่งดออกเสียงนายกษิต

@ ปธ.วิปรัฐบาลเย้ยพท.มี”งูเห่า”
ภายหลังการลงมติ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล เรียกวิปรัฐบาลประชุมทันทีใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง โดยนายชินวรณ์ขอบคุณ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่ช่วยกันลงคะแนนตามข้อตกลง นอกจากนี้ยังแซวกันว่า พรรคเพื่อไทยอาจต้องไปตรวจสอบตัวเอง เพราะมี ส.ส.ในพรรคไม่ลงคะแนนให้กับญัตติพรรคตัวเอง ทำให้ที่ประชุมต่างหัวเราะกันครึกครื้น

ต่อมาเวลา 12.00 น. นายชินวรณ์แถลงข่าวว่า ส.ส.รัฐบาลมีทั้งหมด 262 เสียง เป็นรัฐมนตรี 23 คน และประธานรัฐสภา 1 คน มีคนไม่มา 4 คน ทำให้ ส.ส.รัฐบาลมีเสียงทั้งหมด 234 เสียง เมื่อดูจากคะแนนเสียงไว้วางใจถือว่ารัฐมนตรีทุกคนมีเสียงเกินเป้า แม้แต่นายกษิตที่ได้คะแนนน้อยที่สุด ก็ยังมีถึง 237 เสียง เมื่อถามว่า ส่วนกรณีที่นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส. ปราจีนบุรี ปชป.งดออกเสียงให้นายกษิตนั้น พรรคก็คงไม่เข้าไปกดดันอะไร

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และรองโฆษกพรรค ปชป.กล่าวว่า หากดูคะแนนเสียงจะเห็นว่าในพรรค พท.มีงูเห่า 10 คนที่งดออกเสียง 10 เสียง และงดออกเสียงนายบุญจง 8 เสียง

@ “เพื่อไทย”พล่านเช็คชื่องูเห่า
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท.กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ว่า ส.ส.พรรคคนใดงดออกเสียงในการลงมติไม่ไว้วางใจนายชวรัตน์ และนายบุญจง เพราะติดใจเรื่องนี้มาก เป็นคนพรรคเดียวกันกลับทำกันแบบนี้ หลังจากได้รายชื่อ ส.ส.เหล่านั้นมา จะนำไปให้กับ ร.ต.อ.เฉลิมเพื่อขอให้พูดคุยกับคนเหล่านั้น

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรค พท.กล่าวว่า เสียง ส.ส.เพื่อไทยที่หายไปไม่เกินเป้าหมาย ที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหายไปประมาณ 10 เสียง แต่มองว่าไม่ใช่ปัญหา เมื่อถามว่า เสียงที่หายไปถือเป็นงูเห่าในพรรคหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นงูเห่า เพราะ ส.ส.มีอิสระในการลงคะแนน ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการอย่างไรกับ 5 เสียงที่หายไป พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ไม่มี เสียงที่หายไป ก็ยืนยันว่าไม่มีการถูกซื้อตัวตามที่มีข่าว เมื่อถามว่า จะพิจารณาขับ ส.ส.ดังกล่าวออกจากพรรคหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ไม่มี เป็นมารยาทที่จะไม่ขับออก แต่จะให้พิจารณาลาออกเอง

นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรค พท.กล่าวว่า คะแนนของนายชวรัตนแสดงให้เห็นถึงความผูกพันจากคนในพรรค พท.ที่ไม่ได้เป็นศัตรูกัน แต่คงไม่ใช่สัญญาณที่จะย้ายไปอยู่ด้วยกัน แต่เป็นสายสัมพันธ์ทางจิตใจและจะกลายมาเป็นการเชื่อมต่อทางการเมืองในบางเรื่องในอนาคต ฉะนั้น อำนาจนอกระบบอย่ามาฆ่าทิ้งสายสัมพันธ์

@ “เฉลิม”พร้อมลดบทบาทตัวเอง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรค พท. กล่าวว่า เสียง ส.ส.พรรค พท.ที่หายไป ไม่ใช่หน้าที่ตนที่จะตรวจสอบ

”ผมมันต้นทุนต่ำอยู่แล้ว ไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว ไม่เหมือนคนเครดิตดี ทำวิบัติอะไรไว้ก็ดีตลอด ก็แค่ต้องการให้สังคมรู้ว่าทำกันอย่างนี้ อย่าแสดงหนังกันมากนัก ละครเมียน้อยเมียหลวงตลอด และตอบอะไรผมสักเรื่องไหม” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

เมื่อถามว่า จะทบทวนตำแหน่งประธาน ส.ส.ของตัวเองหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “ก็ไม่แน่ ถ้าพรรคบอกว่าใช้ไม่ได้ ก็เลิก ไม่มีปัญหา ไม่ยึดติด แล้วเลิกคิดเสียทีว่าผมจะจะเป็นหัวหน้าพรรค เพราะความรู้มีแต่ขาดบารมี จะไปคุมพรรคได้อย่างไรอยู่กันเกือบ 200 คน ผมไม่เคยมีเงินทางการเมือง จากมาคิดถึงทุกคน ไม่ได้น้อยใจอะไร”

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ระบุว่าจะยอมลดบทบาทตัวเองถ้าสังคมไม่เชื่อถือข้อมูลที่อภิปราย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า แน่นอน พูดต่อไปใครจะฟัง ส่วนจะลดบทบาทอย่างไรก็ต้องดู แล้วสื่อเชื่อหรือไม่ ผู้สื่อข่าวตอบว่า ไม่เชื่อ ร.ต.อ.เฉลิมอุทานว่า “ตายแล้ว คนกันเองยังไม่เชื่อ” เมื่อถามว่า แล้วจะเอาอะไรเป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือของตัวเอง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ก็ถ้าโทรศัพท์เข้าบ้านรับไม่ไหว เมื่อถามอีกว่า แล้วโพลที่ออกมาก่อนหน้านี้ชี้วัดได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบสวนว่า “โธ่ ไอ้ โพลเฮงซวย รัฐบาลยังไม่ตอบเลยไปทำโพล ออกมาได้อย่างไร ไม่บ้าก็เมา ผมไม่เคยเชื่อถือโพล ไม่เคยตื่นเต้น เพราะมันโพลเฮงซวย ดีนะที่เอาแค่เฮงซวย ไม่ด่าไอ้โพลบัดซบ”

@ “ชวรัตน์”ปลื้มได้คะแนนสวย
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ไม่มีอะไร เพียงแต่คะแนนของตนดูสวยกว่าคนอื่นเท่านั้น อาจเป็นเพราะคะแนนสงสารก็ได้ ก็พอใจกับผลคะแนน เมื่อถามว่าคะแนนสวยกว่ารัฐมนตรีคนอื่น จะทำให้รัฐบาลเอะใจหรือไม่ นายชวรัตน์ยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถาม

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เป็นไปตามการคาดหมายทุกอย่าง โดยส่วนตัวไม่รู้สึกอะไร ยังสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า พอใจกับผลคะแนนที่ออกมา ถือเป็นโอกาสที่ได้ชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจถึงภาพรวมของวิกฤตเศรษฐกิจ และเหตุผลของรัฐบาลในการกู้เงิน เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ ตนอยากเสนอให้ฝ่ายค้านตั้ง “ครม.เงา” เข้ามาตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนในครั้งหน้า

@ “กษิต”ปัดถอดใจ-ไม่กดดัน
ด้านนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบว่า ขอขอบคุณ ส.ส.ที่ลงคะแนนให้ ส่วนคะแนนที่ไว้วางใจน้อยกว่าคนอื่นนั้นไม่เป็นไร เพราะการลงมติเป็นอิสระของ ส.ส. และรัฐบาลทำงานเป็นทีม พรรคร่วมรัฐบาลก็ร่วมมือกันดี ไม่มีอะไรมากดดัน ผลคะแนนดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการทำงาน อยากให้ดูที่ผลงานที่ออกมามากกว่า ตนคงไม่ถอดใจและไม่กดดัน แต่จะต้องทำงานให้ระมัดระวังมากขึ้น ตลอด 3 เดือนที่ทำงานก็ถูกโจมตีตลอด แต่ไม่มีปัญหา และคงจะเดินหน้าทำงานต่อไป

@ “เกียรติกร”ยุปลด”กษิต”
นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส. ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนโหวตไว้วางใจนายกฯและ 4 รัฐมนตรี ยกเว้นนายกษิต ที่งดออกเสียง ถ้าจะถูกขับออกจากพรรค ก็พร้อมจะย้ายพรรค ขอยืนยันจุดยืนการโหวตเพื่อต้องการลดความขัดแย้ง เพราะนายกษิตถือเป็นชนวนหนึ่งที่ทำให้ม็อบเสื้อแดงออกมาชุมนุม ตนเคยเสนอในที่ประชุมพรรคให้นายกษิตลาออก เพื่อลดความ ขัดแย้งในสังคม นิ้วไหนไม่ดี ต้องยอมตัดทิ้ง

”ผมจึงงดออกเสียงให้นายกษิต ผมไม่ได้เกลียดนะ แต่ต้องการลดความขัดแย้ง ไม่ต้องการให้เป็นเงื่อนไขของม็อบเสื้อแดง หากผมเป็นนายกฯ และจะทำให้บ้านเมืองสมานฉันท์ผมก็ต้องปรับนายกษิตออก” นายเกียรติกรกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงหรือไม่ว่าจะอยู่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ นายเกียรติกรกล่าวว่า ไม่เคยกลัวว่าจะอยู่พรรคไหนไม่ได้ แต่กลัวไม่มีพรรคอื่นรับเท่านั้นเอง เมื่อถามว่า การทำเช่นนี้เป็นเพราะอยากดังใช่หรือไม่ นายเกียรติกรกล่าวว่า ไม่ใช่อยากดัง ไม่คิดจะรับตำแหน่งอะไร นี่คือจุดยืนของตนที่ต้องการทำงานให้ชาวปราจีนบุรี

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวอย่างอารมณ์ดีกรณีนายเกียติกร ขู่โหวตสวน ว่า “เขาเป็นเด็กดี ไม่น่ามีปัญหาอะไร”

@ พท.ชูสปิริต”นพดล”ไล่”กษิต”
ที่รัฐสภา นางสาวฐิติมา ฉายแสง ส.ส. ฉะเชิงเทรา นายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส. ศรีสะเกษ และนางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว โดยนางสาวฐิติมากล่าวว่า ที่นายกษิตมีคะแนนน้อยกว่ารัฐมนตรีคนอื่น เมื่อเทียบกับสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่นาย นพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้คะแนนไม่ไว้วางใจน้อยที่สุดก็ลาออกทันที ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงมาตรฐานเดียวกัน หากนายกษิตไม่ลาออกเหมือนนายนพดล สะท้อนว่าไม่มียางอาย หลังจากนี้ พท.จะเดินสายตอกย้ำให้ประชาชน เห็นพฤติกรรมนายกษิตไปเรื่อยๆ กระทั่งเป็นตราบาปติดตัวนายกษิตตลอดไป

@ พันธมิตรไม่ติดใจถ้าปลด”กษิต”
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรไม่รู้สึกคลางแคลงใจที่นายกษิตได้คะแนนน้อยกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆ เพราะส่วนต่างแค่ 9 คะแนนถือเป็นความแปรปรวนเพียงเล็กน้อยทางสถิติและไม่มีผลทางการเมือง แต่หากรัฐบาลถือเหตุดังกล่าวในการปรับนายกษิตพ้น ครม. กลุ่มพันธมิตรก็ไม่ติดใจ แต่รู้สึกเสียใจที่สังคมให้รางวัลกับนายกษิตแบบนี้ ทั้งนี้ พันธมิตรจะไม่เคลื่อนไหวอะไรเพื่อช่วยเหลือนายกษิต เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำ พวกตนรับได้หมด

@ นายกฯยันไม่ปรับ”กษิต”พ้นครม.
ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กล่าวถึงกรณีที่นายกษิตได้คะแนนไว้วางใจน้อยกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆ ว่า ไม่มีปัญหา เพราะวิปรัฐบาลรายงานว่า มี ส.ส.รัฐบาลที่มีสิทธิลงคะแนน 234 คน แต่รัฐมนตรีทุกคนได้คะแนนมากกว่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องปรับนายกษิตออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่คิดเช่นนั้น เพราะนอกจากจะได้คะแนนเสียงเกินครึ่งแล้ว ยังได้คะแนนเกินจำนวน ส.ส. รัฐบาลด้วย เมื่อได้รับความไว้วางใจจากสภาฯ ก็จะเดินหน้าทำงานต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯมีความมั่นใจในการทำงานมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้าสภาให้ความไว้วางใจก็ทำหน้าที่ต่อ

เมื่อถามว่า ฟังการชี้แจงของนายกษิตเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “อ๋อ ดีครับ”

@ “สุเทพ”ขู่ยื่นยุบพท.ข้อหาป้ายสี
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าพรรค พท.จะไปยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรค ปชป.(กรณีเงินบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) จำนวน 258 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องพรรคประชาธิปัตย์) ก็ขอให้รอรับผลด้วย เพราะการกล่าวหาใส่ร้ายให้ กกต. เข้าใจผิด หากพิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นความจริงตามที่กล่าวหา พรรค พท.ก็มีโทษถูกยุบ