มึงอย่าทิ้งกูนะ

วิสุทธิ์ ตูน 4 กุมภาพันธ์ 2552

วันที่ 03 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11287 มติชนรายวัน

“แม้ว”ลั่นยังสนับสนุน”พท.” ซัดรบ.เสือโหย จ้องถอนทุน-โฟนอิน”ปลุกสู้”
พูดปริศนา”คนอายุมาก”แกล้ง กำลังทิ้งบาปไว้ให้กับสังคม

“แม้ว”โฟนอินร่วมวงสัมมนา”เพื่อไทย “ย้ำสู้ไม่ถอย ถ้าเจอเล่นหนักก็จะเล่นหนักข้อขึ้นอีก ปลุก ส.ส.อย่ายอมแพ้ยังพร้อมสนับสนุน โทร.หาได้ตลอดเวลา โวยมีคนอ้างชื่อเอาเงินไปแจกทำลายเลือดแท้ เตือนรัฐใช้ 2 มาตรฐาน ระวังระเบิดขึ้นมาไม่คุ้ม ถล่ม รบ.เสือหิว คิดถอนทุน แค่เด็ก 2 คนแก้ปัญหา ปท.ไม่ได้ ฝันคัมแบ๊คนายกฯอีกรอบ หรือแอบเข้า ปท.ตายในอีสาน

พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดสัมมนา ส.ส.พรรคขึ้นที่โรงแรมกรีนเนอร์รี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ในหัวข้อ “เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย” “เพื่อไทย ผูกพัน ร้อยประสบการณ์” โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคและ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานที่ปรึกษาพรรค ทำหน้าที่เป็นประธาน มีบุคคลใน “ครอบครัวชินวัตร” เข้าร่วมสังเกตการณ์ อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คณะกรรมการเลือกผู้สมัคร ส.ส.พท. นายพายัพ ชินวัตร น้องสาว-น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.ชินณิชา ชินวัตร ส.ส.เชียงใหม่

นอกจากนั้น ยังมีแกนนำพรรค อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา และประธานวิปฝ่ายค้าน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน เข้าร่วมประชุม พร้อมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เช่น นายชานนท์ สุวสิน อดีตผู้อำนวยการพรรคไทยรักไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายทนง พิทยะ กล่าวบรรยายในหัวข้อ “อุดมการณ์และแนวทางสู่ความสำเร็จของพรรค” ว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับ พท.ที่ถือว่าพรรคนี้เป็นพรรคที่ 3 ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราคิดยาว ดังนั้น ให้ลองนึกภาพว่าอีก 3-5 ปีนั้นเราจะเดินทิศทางไหน เพราะอีกเพียง 3 ปีนายยงยุทธ ติยะไพรัช และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คนก็จะกลับมารวมกันในทีมอีกครั้ง “ตอนนั้นจะไม่มีใครใหญ่เท่าเราแล้ว เราคุมทั้งประเทศ แต่ตอนนี้ให้คิดว่ากำลังฝึกงานอยู่ ซึ่งตอนที่อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ พวกเราได้คิดถึงอนาคตตลอดมีการวางวิสัยทัศน์ตลอด แม้ขณะนี้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็เป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นขอให้พวกเราอดทนนิดเดียว ใจเย็นๆ” นายทนงกล่าว

ทั้งนี้ ระหว่างการสัมมนาภาคบ่ายหัวข้อ “การทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างมีประสิทธิภาพ” ที่มี ร.ต.อ.เฉลิมร่วมบรรยายนั้น เจ้าหน้าที่พรรคประสานสื่อมวลชนขอให้ออกจากห้องสัมมนา เพื่อไปรับฟังการแถลงข่าวของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและแกนนำ นปช.ภายนอกห้อง ระหว่างนั้น ร.ต.อ.เฉลิมพูดเกริ่นว่า เดี๋ยวจะพูดคุยกับอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งยื่นโทรศัพท์ไปจ่อที่ไมโครโฟน โดยทราบภายหลังว่าเป็นโทรศัพท์ของ น.ส.ชินณิชา และปรากฏเสียงพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า “ขอขอบคุณทุกคนที่ยังอยู่กับพรรค ต้องถือว่ามีอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่ขายตัว และยังรักผม ไม่อยากทิ้งผมไปในยามที่ผมยังลำบาก และขอย้ำว่าผมจะไม่ลืมบุญคุณกับผู้ที่มีบุญคุณกับผม และเชื่อว่าวันหนึ่งผมจะได้กลับไปทำหน้าที่ในประเทศไทยอยู่กับท่านต่อไป ผมมั่นใจว่าจะได้กลับประเทศไทย จากที่ผมเคยประกาศว่าจะวางมือทางการเมือง แต่การกลั่นแกล้งทางการเมืองกลับเข้มข้นขึ้นก็ขอบอกใหม่ว่าผมพร้อมที่จะกลับไปสู้ทางการเมืองต่อไป เพราะถ้าผมยอมแพ้เท่ากับว่าประชาชนทั้งประเทศที่เคยได้รับอานิสงส์จากการทุ่มเททำงานของผมกับเพื่อนๆ ทั้งหลาย ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย เราจึงไม่ยอมให้ประชาชนพ่ายแพ้ ผมแพ้ไม่เป็นไร ผมเจ็บปวดไม่เป็นไร ผมทุ่มเททำงานให้กับบ้านเมืองขนาดนี้แต่ผมถูกรังแกขนาดนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่ามีบุคคลที่ไม่ต้องการให้มีผู้ทำที่จะมาทำงานให้บ้านเมือง ต้องการแค่ผู้นำที่อยู่ไปวันๆ หนึ่ง แต่ประชาชนไม่ต้องได้อะไร”

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า คิดว่ามันเป็นความเจ็บปวดของคนทั้งประเทศ คิดว่าจำเป็นจะต้องต่อสู้และความรับผิดชอบบนแผ่นดินไทยของตนยังมีอยู่ การที่เขาชนะและคิดว่าจะต้องล้มให้ได้ก็ต้องกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี และมีกระบวนการให้เห็นว่าการไม่จงรักภักดีจะต้องลงโทษอย่างไรไร้สาระที่สุด และจะไม่ยอมให้ความเข้าใจผิดอย่างนี้มีอย่างต่อเนื่อง

“ผมจะต่อสู้และพูดพร้อมกันไปเลยว่าถ้าจะให้ผมยอมแพ้ ผมทำไม่ได้ และพวกท่านที่อยู่ข้างเคียงผมวันนี้ ก็ขอให้สบายใจได้เลยว่าผมจะไม่ทิ้งทุกคนเช่นกัน ผมอยากเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคมไทย จึงจะหาความยุติธรรมให้เจอ ไม่ว่าจะเจอมันบนสวรรค์หรือในนรกก็ตาม แม้วันนี้คนจะเห็นว่าพรรคเราไม่มีผู้นำ แต่ความจริงแล้วพวกท่านทั้งหลายทุกคนคือผู้นำ ทุกคนต้องช่วยกัน ช่วยประคับประคอง โดยผมจะคอยดูแลให้กำลังใจและสนับสนุนผู้ที่ทำงานให้มีกำลังใจในการทำงานให้สำเร็จอยู่ใกล้ๆ ผมให้เบอร์โทรศัพท์ ส.ส.ทุกท่านอยู่แล้ว โทร.หาได้ตลอดเวลา มีใครมาอ้างชื่อผมก็โทร.มาสอบถามได้ตลอดเวลา ถ้าผมไม่รับแสดงว่าเป็นเวลากลางคืน แล้วผมจะโทร.กลับหาท่านตอนเช้า ทุกวันนี้มีคนมาอ้าง ขอยกตัวอย่าง คือมีคนเอาเงินมาแจก ส.ส. และพวกเราบางคนก็ไปรับด้วย แล้วก็บอกว่าเฮ้ย กูจะมีเงินอะไร กูทำให้นาย มึงไปถามนาย นายก็ไม่รับหรอก เพราะกูทำให้นาย บอกได้เลยว่าเป็นการโกหกที่ใช้ไม่ได้ ผมไม่ได้เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ผมเป็นคนตรงไปตรงมา ผมไม่มีวันให้เงินใครมาทำร้าย มาแข่งขันกับคนที่เป็นเนื้อแท้ของเราเด็ดขาด คนที่แอบอ้างคือคนที่ขี้ขลาด คนจริงต้องสู้กันแบบลูกผู้ชาย ไม่ใช่ใช่วิชาโกหกตอแหล ก็ขอให้ทุกคนสบายใจได้ว่าเราเป็นหนึ่งเดียวไม่มีสอง ส่วนคนที่อาจจะเดือดร้อนมีอะไรก็ให้คุยกับแกนนำของเราหรือไม่ก็โทร.หาผม พวกเราจะต้องเป็นเสือที่เวลาหิวจะนอน เวลาหมาหิวมันจะร้อง ดังนั้น ทุกคนมีอะไรก็พูดกันมา ใครมีปัญหามีอะไรผมช่วยได้ผมก็จะทำ”

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า “วันนี้ผมฟังสัมภาษณ์คนเสื้อแดงหลายคนก็ยืนยันว่ามาต่อสู้เพื่อผม เพราะเขาไม่เคยเห็นใครทุ่มเททำงานให้บ้านเมืองแล้วโดนรังแกขนาดนี้ก็เลยอยากบอกทุกคนว่ามีประชาชนจำนวนมากที่มองเห็นความไม่เป็นธรรมครั้งนี้ สิ่งที่เขาจะทำต่อไปนี้คือระบบสองมาตรฐาน คือประชาธิปัตย์ทำอะไรไม่ผิด แต่ไทยรักไทยทำอะไรผิดหมด เขาทำไปเรื่อยๆ โดยเราก็ต้องยิ้มให้เขาทำ วันนี้การดำเนินการสองมาตรฐาน การกลั่นแกล้งพวกเราสีแดงผิดหมด สักวันมันระเบิดขึ้นมาแล้วมันจะไม่คุ้มเลยสำหรับประเทศไทย สำหรับคนที่ทำ อาจอายุมากแล้ว แต่กำลังทิ้งบาปไว้ให้กับสังคมไทย วันนี้ผมอาจจะเจ็บปวดที่สุด แต่ก็เป็นคนเดียว ครอบครัวเดียว แต่ความเจ็บปวดมันกำลังตอกลิ่มลงไปในใจคนจำนวนมากหลายล้านคนในประเทศไทย หากเขาคิดเป็นและฉลาดพอ จะรู้ว่าเขากำลังสั่งสมความไม่ดีในหัวใจคน จนเสื่อมความศรัทธา ก็อยากจะบอกว่าให้ทุกคนรักประชาชนให้มาก เป็นนักการเมืองที่มีอุดมการณ์ก็ไม่ต้องไปหวั่นไหว การเป็นฝ่ายค้านวันนี้มันต้องอดทนเมื่อมีฝนตกก็ต้องมีแดดออก”

อดีตนายกฯกล่าวว่า “การเป็นฝ่ายค้านวันนี้กำลังสั่งสมคะแนนครั้งใหญ่ เพราะ รัฐบาลชุดนี้มันเป็นรัฐบาลเสือหิว รวบรวมเสือหิว เสือหาย เสือโหยอยู่ด้วยกัน หลายคนที่ออกไปเพราะมีโครงการรออยู่ ทำโครงการเอาไว้ก็คิดจะไปถอนทุนกันต่อ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้นถูกสร้างมาเพื่อทำลาย ไม่ได้สร้างมาเพื่อแก้ปัญหา ดังนั้น แก้ปัญหาให้ประชาชนได้ยากมาก พวกเราอย่าหวั่นไหวไปกับงบประมาณที่มันผิดกฎหมาย ที่เขากล้าทำวันนี้อย่าไปหวั่นไหวแล้วก็ให้ประจาน เปิดเผยว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบ้างบอกประชาชนว่าผมพร้อม ถ้าประชาชนพร้อม ผมพร้อมจะกลับไปเป็นนายกฯให้ประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ถ้าประชาชนพร้อมเมื่อไรผมก็พร้อมเมื่อนั้น ถ้าประชาชนยอมพ่ายแพ้ ก็ถือว่าผมหมดหน้าที่ ถึงแม้ผมจะต้องอยู่ต่างประเทศอีกนาน แต่ผมจะไม่ยอมตายในต่างประเทศแน่นอน อย่างมากที่สุด ผมสู้ไม่ได้ ผมก็จะแอบลักลอบเข้าไปตายในอีสาน ถ้าสักวันหนึ่งพี่น้องประชาชนบอกว่าบ้านเมืองต้องการผม ผมก็จะกลับไปทำหน้าที่”

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ในที่นี้มีอยู่ 2 ส่วนคือ ส.ส.ปัจจุบัน กับ ส.ส.ในอนาคต แต่ก็หวังว่าผู้เป็น ส.ส.อยู่จะไม่หนีทัพกลางคัน หลายคนถูกเรียกให้ไปเอางบประมาณแล้วพออภิปรายไม่ไว้วางใจเอ็งต้องอย่ามา ไปหลบอยู่ที่บ้าน “ผมรู้หมด ซึ่งท่านต้องคิดว่าทำอะไรมองยาวอย่ามองสั้น การเมืองยังอีกยาวนานและการเมืองตอนนี้ผมคิดว่าเศรษฐกิจและสังคมในประเทศมีปัญหา ทั่วโลกมีปัญหา ความสามารถในการแก้ปัญหาโดยเด็กสองคนก็ลำบาก เด็กสองคนช่วยกันแก้ก็คงยาก มันไม่ง่ายอย่างที่คิด ผมขอขอบคุณที่ไม่ทิ้งผมยามนี้ แต่เมื่อเราเดินทางมาถึงทางแยก ผมจะตรงไป บางคนจะขอเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาก็ไม่ว่ากัน แต่ไม่เป็นไร เพราะผมมั่นใจว่าจะกลับไปทำงานให้บ้านเมืองแน่นอน แม้เมื่อไรยังไม่รู้ แต่เมื่อไรก็ไม่เป็นไร ผมจะรักษาเนื้อรักษาตัวให้แข็งแรง เมื่อวานเพิ่งไปตรวจเลือดมาก็พบว่าร่างกายก็ยังแข็งแรงอยู่ ไม่มีโรค ไม่มีไข้ ไม่เจ็บไม่ป่วย สภาพจิตใจได้รับการชะโลมจากกองเชียร์ พี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงที่รักผมทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู่ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย และพวกที่กำลังจะกลับมาอยู่ในพรรคเพื่อไทย ต้องขอบคุณอีกครั้งในน้ำใจที่มีต่อผม ท่านเฉลิม ท่านวิทยา ท่านพินิจ (จันทรสุรินทร์) ท่านจำลอง (ครุฑขุนทด) ท่านปลอดประสพ (สุรัสวดี) ท่านยงยุทธ โดยเฉพาะน้องสาวผมสองคน เยาวภากับยิ่งลักษณ์ ที่เหนื่อย เครียด บางทีก็ถูกด่าบ้างก็ทนกันมา วันนี้ทุกคนได้ช่วยกันเต็มที่ จตุพร ณัฐวุฒิ วีระ อดิศร จาตุรนต์ ทุกคนช่วยกันหมด”

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า “ขอยืนยันอีกครั้งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมสู้ไม่ถอย ผมเป็นคนที่ยิ่งโดนยิ่งสู้ ถ้าพูดกันดีๆ ให้ถอย ผมก็จะถอยนะ เต็มใจถอย แต่ยิ่งโดนยิ่งสู้ แล้วถ้าโดนอีกก็จะสู้หนักขึ้นไปอีก ถ้าเล่นผมหนักขึ้นอีกผมก็จะเล่นหนักขึ้นอีก ผมก็ไม่กลัว แต่ถ้าเลิกเล่นกับผม คุยกับผมดีๆ ผมก็คุยทุกเรื่อง นี่คือนิสัยผม อีกเรื่องก็เรื่องที่พูดว่าผมโดนยึดเงินที่ประเทศอังกฤษ มันโกหกทั้งนั้นเพราะผมไม่เคยมีบัญชีที่อังกฤษแม้แต่บาทเดียว ถามว่าเป็นอย่างไรบ้างผมก็เพิ่งขายทีมฟุตบอลไป เงินก็ไม่ได้ใช้อะไร แค่เดินทางปีละร้อยกว่าล้านก็พออยู่ได้อยู่ คงไม่ได้ไปเก็บตังค์ชาวบ้านมาส่งผม ฟังแล้วอยากร้องไห้ ขอขอบคุณทุกคนและไม่ว่าจะมีอะไรสามารถโทร.หาผมได้ทุกคน”

เวลา 20.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีถึงเบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาลตอนหนึ่งว่า มีการแทรกแซงจากหลายฝ่าย ตอนนั้นต้องเรียกว่า “หักหลังกัน” มีการกดดันทุกอย่าง อย่างไรก็ดี ทุกคนจะต้องร่วมกันต่อสู้ต่อไป พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนมีนายกฯมาแล้วพรรคละหนึ่งคน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะต้องมีนายกฯอย่างแน่นอน

“คนที่อกตัญญูแล้วจะเจริญรุ่งเรืองต่อไปนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วประชาชนจะต้องเป็นผู้พิพากษา วันนี้พรรคเพื่อไทยมีผู้ใหญ่ให้กำลังใจเราอยู่ ขอให้เราสู้ไม่ถอย ยึดประชาธิปไตยและประชาชนเป็นหลัก แล้วเราจะมาอีกครั้งอย่างแน่นอน” นายสมชายกล่าว

หน้า 1


Comments are closed.