วิสุทธิ์ ตูน  30  กันยายน  2552

วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11527 มติชนรายวัน

เช่ารถเมล์6.3หมื่นล.ฉลุย “อภิสิทธิ์”ยอม! “เนวิน”ตีปี๊บผลงาน”ภท.”

จัดหา4พันคันใน2ปี โละพนักงาน7,000คน “พท.”ชี้มะเร็งร้ายงบฯ ส.ว.เชื่อต่อรองแก้รธน.

รถเมล์ 4 พันคันฉลุย ครม.เชื่อสภาพัฒน์เช่าเสี่ยงน้อยกว่าซื้อ “มาร์ค”เสียงอ่อน แค่กำชับจัดซื้อต้องโปร่งใส พร้อมให้ไปทำแผนลดพนักงาน-เพิ่มอู่ “เนวิน”ตีปีก ชิงตีปี๊บเป็นผลงาน ภท. ชี้คนกรุงไม่สนใช้งบฯเท่าไหร่ ขอเพียงแค่ได้ประโยชน์ รมช.คมนาคมยันวงเงินต้อง 6.3 หมื่น ล. พท.เชื่อไม่โปร่งใส เป็นมะเร็งร้ายที่ชาวบ้านต้องรับกรรม กลุ่ม 40 ส.ว.สงสัยเกมต่อรองเรื่อง รธน.

@ เมล์4พันคันฉลุยครม.เชื่อเช่าดีกว่า

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 กันยายน มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือบอร์ด สศช. ให้ใช้วิธีการเช่ารถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (ซีเอ็นจี) หรือรถ ปอ.ซีเอ็นจี 4,000 คัน ภายหลังกระทรวงคมนาคมภายใต้การกำกับดูแลของนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พยายามผลักดันแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นี้มาแล้วหลายครั้งแต่ถูกตีกลับ โดย ครม.มอบหมายให้บอร์ดสภาพัฒน์ไปศึกษาทางเลือกต่างๆ กระทั่งนำข้อสรุปเสนอต่อ ครม. การเช่าตามข้อเสนอเดิมกระทรวงคมนาคมจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าวิธีการซื้อ

ทั้งนี้ การพิจารณาเรื่องนี้ในที่ประชุม ครม. บรรยากาศเป็นไปอย่างผ่อนคลายแตกต่างจากทุกครั้งที่มีการพิจารณา แม้แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เคยเป็นตัวตั้งตัวตีในการคัดค้านมาในครั้งก่อนๆ ยังมีท่าทีเปิดกว้างรับฟังการนำเสนอจากรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้งคำถามที่นายอภิสิทธิ์ซักถามนายโสภณ และนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สศช. ก็ไม่ร้อนแรงอย่างในอดีต ทำให้รัฐมนตรีคนอื่นๆ จับสัญญาณได้ทันทีระหว่างการพิจารณาว่า ครม.จะต้องอนุมัติตามแนวทางนี้อย่างแน่นอน และในที่สุดนายอภิสิทธิ์ก็เป็นผู้สรุปให้เลือกใช้วิธีการเช่า ขณะที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ ขอให้บันทึกข้อเสนอแนะเรื่องใช้รถที่ประกอบภายในประเทศไปด้วยนั้น น่าจะเพื่อรับรองความปลอดภัยในอนาคต หากจะมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นในชั้นของ ป.ป.ช.

@ “มาร์ค”แค่กำชับจัดซื้อต้องโปร่งใส

นายอภิสิทธิ์แถลงเรื่องนี้ภายหลังประชุมว่า ได้พิจารณาผลการศึกษาของบอร์ดสภาพัฒน์ที่สรุปว่าการเช่าจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าการซื้อ ดังนั้น ครม.ได้เห็นชอบ แต่ยังมีประเด็นที่ให้นายโสภณไปกำหนดแผนที่ชัดเจนกลับมาเสนอ ครม.อีกครั้ง คือ 1.หากจะทำให้โครงการนี้คุ้มค่าและเปลี่ยนแปลงให้ ขสมก.กลับมามีกำไรจะต้องใช้ระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์และต้องลดจำนวนพนักงาน ซึ่งกระทรวงต้องไปจัดทำแผนการลดจำนวนคร่าวๆ 6,000-7,000 คน เพราะถ้าเดินโครงการนี้แล้วพนักงานไม่ลดในที่สุดก็ไม่ได้แก้ปัญหาของ ขสมก. จึงต้องทำโครงการจูงใจให้พนักงานเกษียณก่อนกำหนด 2.ต้องวางแผนเพิ่มจำนวนอู่รถเมล์ที่มีสถานีที่สามารถเติมเอ็นจีวีได้ โดยสามารถรองรับปริมาณรถได้กี่คัน ระยะเวลาเท่าไหร่ 3.การจัดซื้อจัดจ้างจะต้องให้โปร่งใสมากที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนห่วงใยมาก โดยจะต้องไปตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางและต้องให้มีการแข่งขันให้มากที่สุด เพื่อเป็นหลักประกันจะได้ราคาที่สมเหตุสมผล ส่วนเงื่อนไขอื่นๆ ที่เคยพิจารณาใน ครม.ไปแล้ว เช่น ให้เป็นรถเมล์ที่ประกอบในประเทศก็ยังคงเดิมรวมไปถึงการลดเงินตัวเลขประมาณการวงเงินในสมัยที่ พล.ต.สนั่นทำไว้ก็ให้นำไปประกอบการพิจารณาของกระทรวงคมนาคมที่จะเสนอกลับมาอีกครั้ง โดยตัวเลขงบประมาณเดิมที่ปรับลงมาคือ 6.6 หมื่นล้านบาท แต่ต้องไปจัดทำราคากลางดังนั้นต้องรอคณะกรรมการกำหนดราคากลางมาเป็นผู้กำหนด และหากการจัดซื้อจัดจ้างประมูลมีการแข่งขันให้ได้มากที่สุดน่าจะได้ตัวเลขที่ดี

@ อ้างซื้อมีข้อเสียต้องเผื่อจำนวน

ผู้สื่อข่าวถาม การประมูลจะแยกส่วนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมจะเสนอรายละเอียดอีกครั้ง เพราะ ครม.จะพิจารณาว่าแบบไหนจะทำให้เกิดการแข่งขันมากที่สุด รวมไปถึงค่าซ่อมที่ต้องไปดูเงื่อนไขการเปิดประมูล เมื่อถามว่า จะมีการคิดค่าซ่อมตั้งแต่วันแรกที่มีการเช่ารถเมล์เลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กำลังให้ไปทำรายละเอียดมา

ส่วนเหตุผลที่การเช่าดีกว่าซื้อนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความเสี่ยงที่น้อยกว่าเพราะรถที่หมุนเวียนหากซื้อจะต้องซื้อเผื่อเข้ามาอีก และดูจากประวัติของ ขสมก.จะพบว่าเรื่องค่าซ่อมบำรุงมักจะแพงกว่าซื้อ โดยหลังจากนี้คมนาคมจะต้องไปทำปฏิทินทั้งเรื่องอู่ พนักงาน รถ และกรอบการเสนอให้มีการแข่งขันกัน สำหรับเรื่องหนี้สินเดิมของ ขสมก.จะต้องไปแก้ปัญหาต่างหากอยู่แล้ว ถ้าเอามาดูด้วยจะทำโครงการอะไรก็เป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น เมื่อถามว่าให้เวลากระทรวงคมนาคมไปศึกษาเรื่องนี้นานเท่าไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ได้กำหนดระยะเวลา ขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคม ตามแผนที่กระทรวงคมนาคมกำหนดเวลาไว้คือภายใน 2 ปี และหากนับหนึ่งได้เรื่องของอู่ เรื่องพนักงานก็จะสามารถเสร็จภายใน 2 ปี

@ “เนวิน”ชิงตีปี๊บเป็นผลงานภท.

รายงานข่าวแจ้งว่า นายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน แกนนำ ภท. กล่าวในการประชุม ส.ส.ของพรรคบ่ายวันเดียวกัน ณ ที่ทำการพรรคย่านถนนพหลโยธินว่า เรื่องการเช่าซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันนั้น จะถือเป็นผลงานของพรรค ที่ทำให้คนกรุงเทพฯและชาวบ้าน ได้ประโยชน์และจะเกิดความพอใจ ภท. โดยผู้ ได้ประโยชน์จะไม่คิดว่าโครงการนี้ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ขอเพียงแค่ให้คนกรุงเทพฯพอใจเป็นพอ ทั้งนี้ ในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นวันเกิด จะไม่มีงานเลี้ยง เพราะต้องขอเวลาเป็นส่วนตัว แต่จะมีการเลี้ยงที่พรรค ในวันที่ 6 ตุลาคม

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้า ภท. กล่าวว่า ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะโครงการนี้มีการเสนอเข้า ครม.หลายครั้งแล้ว เมื่อถามว่า เกรงว่าระบบการจำหน่ายและเก็บตั๋วแบบอีทิคเก็ต จะกระทบกับพนักงาน ขสมก.หรือไม่ เพราะมีพนักงานเริ่มประท้วงแล้ว นายชวรัตน์กล่าวว่า อาจจะต้องลดพนักงานให้น้อยลง โดยส่วนที่เกินจะต้องหางานอื่นให้ทำ หรือดูแล หากมีการเลิกจ้าง โดยการจ่ายเงินก้อน และมีสวัสดิการชดเชยให้ โครงการนี้มีความโปร่งใส อยู่ในหลักการแน่นอน เพราะในการประมูลจะมีคณะกรรมการจากหลายหน่วยงานเข้าไปดูแล และหากมองในแง่เชื้อเพลิง โครงการนี้สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากและจะมีการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจในโครงการนี้อีกแน่นอน

@ รมช.คมนาคมยันวงเงิน6.3หมื่นล.

นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมจาก ภท. กล่าวว่า โครงการนี้มีความโปร่งใสแน่นอน เพราะนายกฯสั่งให้ทำรายงานให้นายกฯทราบทุกขั้นตอน เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าโครงการนี้มีการล็อคสเปค และมีการสั่งรถมาจอดรอไว้ล่วงหน้าแล้ว นายประจักษ์กล่าวว่า ไม่มีตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดสเปค เพราะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาก่อน ทั้งนี้ ครม.ไม่มีการตัดลดงบประมาณของโครงการนี้ โดยยังคงกำหนดอยู่ที่ 6.3 หมื่นล้าน ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ

@ สหภาพขอให้ค่อยๆโละพนง.

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ครม.จะเริ่มขึ้น ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.กว่า 1,000 คน นำโดยนายสมาน บุญงอก ประธานสหภาพ ขสมก. ชุมนุมบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ฝั่งตรงข้ามสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อคัดค้านโครงการเช่ารถเมล์ เนื่องจากพนักงานห่วงว่า จะเกิดผลกระทบ ต่อพนักงานกว่า 1.8 หมื่นคน ทั้งคนขับ กระเป๋ารถเมล์ และนายตรวจอาจตกงานทั้งหมด “สหภาพไม่ขัดข้องหาก ครม.จะตัดสินใจเช่าหรือซื้อ ส่วนการเออร์ลี่รีไทร์พนักงานต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยต้องทำหลังจัดหารถเมล์ได้แล้วและต้องหารือกับสหภาพก่อน” นายสมานกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม ครม. นายประจักษ์หารือกับตัวแทนกลุ่มสหภาพ และได้ทำบันทึกข้อตกลงว่าจะไม่เปิดสัมปทานให้เอกชนเดินรถอย่างแน่นอน ทำให้กลุ่มสหภาพพอใจ และสลายตัวไปในที่สุด

@ พท.เชื่อโครงการนี้ไม่โปร่งใส

นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวว่า เท่าที่ดูพฤติกรรมการใช้งบประมาณของรัฐบาลชุดนี้ น่าเป็นห่วงงบประมาณประจำปี 2552 และ 2553 รวมทั้ง พ.ร.ก.เงินกู้ ที่มีวงเงิน จำนวนมหาศาล กำลังจะถูกทึ้งกันอย่างมหาศาล ถ้านายกฯมีภาวะผู้นำที่จะนำรัฐนาวาฝ่าฟันอุปสรรค จะต้องกล้าตัดสินใจ อย่าให้ใครมาช่วงชิงซ้ำเติม หากยังเป็นเช่นนี้ประเทศไทยคงไปไม่รอดแน่ โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เชื่อว่าไม่โปร่งใสอย่างแน่นอน มีผู้ได้รับผลประโยชน์กินกันยาว เป็นการบีบบังคับเป็นลูกโซ่โยงใยกันไปหมด ยิ่งกว่ามะเร็งร้ายที่เกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตย ทำให้คน 63 ล้านคน ต้องรับกรรม ซึ่งต้องจับตาดูต่อไป

“หากอนาคตเกิดความเสียหาย ใครจะรับผิดชอบ หากเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ คงหวังพึ่งพระสยามเทวาธิราช จุดธูปจุดเทียน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยประเทศ ถ้าใครทำลายประเทศชาติ ก็ขอให้มีอันเป็นไป” นายศักดากล่าว

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อพิจารณาผลกระทบต่อการเดินรถโดยสาร กลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมและประชาชนผู้ใช้บริการ ในคณะกรรมาธิการคุ้ม ครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎรจาก พท. แถลงว่า กมธ.ได้ศึกษาและสรุปว่า หากจะมีการเดินรถด้วยระบบเอ็นจีวีควรให้พิจารณาร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการรถร่วมและ ขสมก. ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยังบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับคำตอบว่า หากมีรถเอ็นจีวีออกมาวิ่งพร้อมกัน 4,000 คัน ในช่วงนี้ ปตท.ยังไม่สามารถให้บริการสถานีก๊าชได้ทันโดยเฉพาะในเขตปริมณฑลที่ต้องมีการเพิ่มเส้นทางวางท่อส่งก๊าซด้วย

@ 40ส.ว.ชี้แค่เกมต่อรองเรื่องรธน.

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา จากกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า ครม.ทั้งคณะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ตัดสินกระทำ ไม่มั่นใจว่า ครม.พิจารณาโดยรอบคอบแล้วหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันหรือมีผลประโยชน์แอบแฝงระหว่างกลุ่มทุน กลุ่มธุรกิจใด ที่ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ กลุ่ม 40 ส.ว.จะนัดประชุมร่วมกัน ในวันที่ 30 กันยายน เพื่อศึกษารายละเอียดและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป ขอตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่รัฐบาลเห็นชอบกับโครงการดังกล่าวอาจจะมี ผลประโยชน์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการต่อรองกันเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะเดิมที่ท่าทางของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะ ภท.คัดค้านอย่างหนักเรื่องการทำประชามติ แต่อยู่ดีๆ ยอมรับเป็นเรื่องที่น่าแปลก

หน้า 1