กรุงเทพฯ วันนี้

วิสุทธิ์ ตูน  14  พค. 53

a52

ยิงหัว’เสธ.แดง’! สไนเปอร์ส่องมุมสูงถล่มM79กราดM16สวนจากฝั่งม็อบBy thaipostCreated 14 May 2553 – 00:00

 ดับ “เสธ.แดง” คาดสไนเปอร์ยิง กระสุนเจาะด้านขวาทะลุท้ายทอยระหว่างคุยสื่อนอก อาการเป็นตายใกล้เคียงกัน “ลูกสาว” น้ำตานองหน้าบอกไม่ต้องยื้อชีวิตหากไม่ไหว เพราะ “พ่อเหนื่อยมามาก” แกนนำ นปช.ขี้ขึ้นสมอง สั่งเพิ่มการ์ดพรึ่บ งดไฮด์ปาร์ก สวมเสื้อเกราะทันที ปูดหลายคนถอดใจแต่กลัวถูกด่าทรยศ เชื่อ “กี้” ถูกหมายหัวคนต่อไป “ตู่” ป้าย  “มาร์ค-เทพ-ห้อย” สั่งยิง ลั่นพร้อมพลีชีพ

 การชุมนุมของคนเสื้อแดงท่ามกลางมาตรการปิดล้อมของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในช่วงค่ำ ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 19.20 น. ที่บริเวณแยกศาลาแดง มีรายงานในพื้นที่ว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ อาการสาหัส

 และทันทีที่เกิดเหตุการณ์ยิงเสธ.แดง ก็เกิดเสียงระเบิดดังต่อเนื่องถึง 4 ครั้ง โดยคาดว่าจะเป็นระเบิดเอ็ม 79 ในบริเวณดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งมีเสียงยิงปืนหลายชนิดทั้งเอ็ม 16 และอาก้านานกว่า 10 นาที ในขณะที่ฝ่าย นปช.ก็มีการยิงพลุและตะไลขึ้นฟ้าอย่างต่อเนื่อง

โดยคาดว่ามีผู้บาดเจ็บกว่า 20 คน

 ข่าวการยิงเสธ.แดงในช่วงแรกมีความสับสนอย่างมาก โดยระบุว่าถูกยิงที่หน้าอก แต่ในเวลาต่อมาก็มีการยืนยันว่าถูกยิงที่ศีรษะ อาการสาหัส โดยถูกนำส่งตัวที่ รพ.หัวเฉียวแล้ว

 ในขณะที่ นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ฉุกเฉิน กทม.ก็ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวี ยอมรับ พล.ต.ขัตติยะถูกยิงที่ศีรษะ อาการสาหัส รักษาอาการที่ รพ.หัวเฉียวแล้ว

 ส่วนทีวีไทยได้รายงานถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เสธ.แดงยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศอยู่ 4-5 คน บริเวณด้านนอกแนวด่าน นปช. ก็มีกระสุนไม่สามารถระบุแนวยิงได้มาถูกเสธ.แดง และหลังจากนั้นก็เห็น เสธ.แดงล้มฟุบบนถนน โดยมีแผลที่ศีรษะด้านขวา การ์ด นปช.จึงได้นำตัวไปส่ง รพ. ซึ่งตอนแรกจะนำส่ง รพ.จุฬาฯ แต่กลัวว่าจะมีปัญหาจึงนำส่ง รพ.หัวเฉียว

 โดยสภาพของเสธ.แดงที่มาถึง รพ.นั้น ต้องนอนอยู่บนเปลหาม โดยมีผ้ากอซพันอยู่รอบศีรษะเพื่อห้ามเลือด ก่อนที่จะนำตัวเข้าไปที่ศูนย์เอกซเรย์สมองทันที  และเมื่อเวลา   20.15  น.  เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ได้เข็นเตียงคนไข้ ซึ่งมี  พล.ต.ขัตติยะนอนอยู่จากศูนย์เอกซเรย์สมองเพื่อจะไปห้องไอซียู ทั้งนี้ สภาพ พล.ต.ขัตติยะถูกพันด้วยผ้ารอบศีรษะ ใส่เครื่องช่วยหายใจ  โดยระหว่างเข็นรถพยาบาลดังกล่าว  เจ้าหน้าที่พยายามเอาผ้าขนหนูมาบังหน้า พล.ต.ขัตติยะไว้  แล้วเข็นเข้าลิฟต์  และปิดประตูห้องไม่ให้สื่อและบุคคลภายนอกเข้าไป จะมีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปได้เท่านั้น

 ในขณะที่ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ลูกสาวของ เสธ.แดงก็มาถึง รพ.ทันทีที่ทราบข่าว ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมองและห่วงใยอาการบิดาอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมทราบข่าวการยิง พล.ต.ขัตติยะ  ก็แห่กันมารวมตัวที่หน้า รพ. โดยบางคนก็ร้องไห้ ตะโกนเรียกชื่อ เสธ.แดง  พร้อมส่งเสียงโห่ร้องเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เข็นเตียงคนไข้เข้าไปห้องไอซียู

 ในขณะที่ เวลา 20.45 น. พล.ต.ท.สัณฐาน  ชยนนท์ ผบช.น.  และ พล.ต.ต.วิชัย  สังข์ประไพ ผก.น.1  เข้ามาดูสถานการณ์ที่ รพ.อยู่บริเวณห้องผู้ป่วย ส่วนบริเวณรอบ รพ.ก็มีทหารและตำรวจมาตั้งด่านตรวจระเบิด รวมทั้งตรวจอาวุธอย่างเข้มงวดแก่ผู้เข้า-ออก รพ. ซึ่งทำให้เกิดเหตุปะทะกันเล็กน้อยระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและผู้ชุมนุมที่จะบุกเข้า รพ.  แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาห้ามปรามไว้  จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามไล่ทหารให้ออกไปจากบริเวณดังกล่าว ท้ายสุดก็ถอยร่นออกไป และขึ้นไปอยู่ตามตึกสูงแทน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจอาวุธบริเวณทางเข้าหน้า รพ.อย่างเข้มงวด

ไม่เข้าจุฬาฯ อ้างไม่ไว้ใจ

 นางพวงเพชร พ่วงมลคล การ์ดเคลื่อนที่ นปช.ผู้เห็นเหตุการที่เสธ.แดงถูกยิง เล่าพร้อมดมยาดมว่า ตอนเกิดเหตุเสธ.กำลังยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศ ซึ่งมีการ์ดยืนอยู่กับเสธ.แดงด้วย  บริเวณแยกศาลาแดง ตอนนั้นอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 50 เมตร พอได้ยินเสียงดังขึ้น 3 ครั้ง ก็หันไปเห็นเสธ.แดงล้มลงไป แต่ไม่เห็นแนวกระสุนจากทางไหน เพราะบริเวณนั้นมีตึกสูงหลายที่ จากนั้นก็วิ่งเข้าไปดูเห็น เสธ.แดงถูกยืงศีรษะด้านขวา เลยช่วยกันนำตัวขึ้นรถกระบะเพื่อขอทางออกมาส่ง รพ. แต่ตอนนั้นก็ตัดสินใจว่าจะไม่เข้า รพ.จุฬาฯเพราะเข้าไม่ได้ ไม่ไว้ใจ จึงจ้างรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ขับนำทางไป รพ.หัวเฉียว 

 “ตอนนำตัว เสธ.แดงมา ชีพจรเสธ.แดงยังเต้น รู้สึกตัว แต่พูดคุยไม่ได้ พอเข้ามาถึงห้องฉุกเฉิน รพ.ก็รีบเข้าไปเอกซเรย์ 19.30 น.” นางพวงเพชรเล่า

 ในขณะที่นายเดเนียล เชิร์ฟ ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเสียงอเมริกา (วีโอเอ) ก็ระบุเหมือนกันว่า เห็น พล.ต.ขัตติยะถูกยิง โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นฝีมือของมือปืนซุ่มยิงหรือสไนเปอร์ และหลังจาก พล.ต.ขัตติยะถูกยิง ก็มีเสียงปืนยิงต่อสู้และเสียงระเบิดเกิดขึ้นภายในพื้นที่ปิดล้อมของม็อบด้วย

 ด้านสำนักข่าวต่างประเทศ อาทิ บีบีซี รอยเตอร์ และอัลจาซีเราะห์ ต่างรายงานถึงเหตุการณ์การยิงเสธ.แดงเช่นกัน โดยระบุว่า เป็นนายพลที่สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงได้ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะถูกนำตัวไปโรงพยาบาล

 พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี  อดีตรอง ผอ.กอ.รมน. อดีตผู้บังคับบัญชาเสธ.แดง ระบุว่า เท่าที่ทราบตอนนี้เสธ.แดงยังไม่ตายนะครับ  และยังติดตามข่าวจากสื่ออยู่ แต่เข้าห้องไอซียู อาการสาหัส

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรบ้าง  พล.อ.พัลลภกล่าวเสียงเศร้าว่า ขอไม่ประเมินอะไรทั้งนั้น  และไม่ขอมองภาพรวมอะไรด้วย มันยังไม่ถึงเวลา ขอมีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน

 นพ.สามารถ ตันอริยะกชุล รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงอาการ พล.ต.ขัตติยะว่า สาหัส ขณะนี้กำลังส่งเข้าเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูเนื้อสมองว่าถูกทำลายมากน้อยแค่ไหน เพื่อทำการรักษาต่อไป ขณะนี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ คาดว่าแผลเกิดจากอาวุธความเร็วสูง หากสมองถูกทำลายมากคงลำบาก เพราะอาการค่อนข้างสาหัส

 ในเวลา 21.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างที่อยู่ในห้องไอซียู  ทีมแพทย์ได้พยายามปั้มหัวใจเสธ.แดงหลายครั้ง เนื่องจากหัวใจเต้นอ่อนมาก เบื้องต้นได้ทีมแพทย์คาดว่าอาจจะย้ายเสธ.แดงไปรักษาตัวที่ รพ.ราชวิถี เนื่องจากมีอุปกรณ์พร้อมกว่า

 ส่วนด้านนอก รพ. คนเสื้อแดงกว่า 200 คน ก็ยังรอเข้าไปเยี่ยมอาการเสธ.แดงอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ยอมให้เข้าไป ทำให้ผู้ชุมนุมด่าทออยู่ตลอดเวลา

ลูกบอกให้ปล่อยพ่อไม่ต้องยื้อ

 มีรายงานข่าว น.ส.ขัตติยาพร้อมญาติ หลังจากได้รับทราบอาการของเสธ.แดงก็ได้บอกกับคณะแพทย์ว่า ถ้าอาการไม่ไหวแล้วก็ไม่ให้ยื้อชีวิต เพราะพ่อได้เหนื่อยมามากแล้ว ซึ่งเมื่อกล่าวจบก็ได้หลั่งน้ำตานองหน้าทันที 

 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินยืนยันว่า บาดแผลของ เสธ.แดงถูกยิงทางด้านขวา ทะลุท้ายทอย

 ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ขัตติยะได้เสียชีวิตลงแล้ว แต่ได้มีการขอร้องไม่ให้คณะแทพย์มีการแถลงข่าวแต่อย่างใด โดยรอให้ถึงวันที่ 14 พ.ค.ก่อน

 ด้านเวทีราชประสงค์นั้น หลังเหตุการณ์ยิงเสธ.แดง ในช่วงต้นยังคงมีการปราศรัยเป็นปกติ แต่หน่วยการ์ด นปช.ก็มีการตรึงกำลังโดยรอบพื้นที่ชุมนุมกันอย่างหนาตากว่าปกติ  โดยเฉพาะทางเข้า-ออกเวทีปราศรัย มีการ์ดไม่ต่ำกว่า 10 คน ดูแลความเรียบร้อย ส่วนประชาชนที่ทราบข่าวว่า พล.ต.ขัตติยะถูกยิง ก็จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นข่าวความจริงหรือไม่ และมีประชาชนบางส่วนที่ตั้งเต็นท์อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลตำรวจ ได้นำท่อนเหล็กและท่อนไม้ปลายแหลมมาถือไว้คนละอัน 

 อีกด้านหนึ่ง บริเวณด้านหลังเวทีราชประสงค์ หลังมีข่าวยิง พล.ตขัตติยะถูกลอบยิงทำให้บรรดาแกนนำเสื้อแดงได้มารวมตัวกันที่หลังเวที และมีการเช็กข่าวกันเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับสั่งเพิ่มการ์ด นปช. ร่าม 100 คน เข้าแถวเรียงหน้าคอยคุ้มกันบริเวณหน้าเวทีปราศรัย และเพิ่มจำนวนการ์ดคุ้มกันแกนนำมากขึ้น โดยหลายคนได้ใส่เสื้อเกราะกันกระสุนจากที่ไม่เคยใส่มาก่อน

 และตั้งแต่ช่วงค่ำเป็นต้นมาหลัง เสธ.แดงถูกยิง แกนนำหลายคนซึ่งปกติขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงค่ำ ก็ไม่ได้ขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ในขณะที่แกนนำเสื้อแดงคนหนึ่งวิเคราะห์ว่า การลอบยิงเสธ.แดงเป็นการเตือนแกนนำให้รีบยุติการชุมุนม โดยบุคคลที่แกนนำเป็นห่วงว่าอาจเป็นรายต่อไปคือนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง จึงได้สั่งเพิ่มการ์ดคุ้มกันนายอริสมันต์เพิ่มขึ้น

 ทันทีที่มีภาพข่าวยืนยันว่าเสธ.แดงถูกลอบยิงจริง แกนนำ นปช.หลายคนอยู่ในภาวการณ์ตึงเครียดทันที โดยเฉพาะนายนิสิต สินธุไพร และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ต่างมีสีหน้าซีดเผือด ขณะที่แกนนำคนอื่นๆ อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต่างโทรศัพท์ตรวจสอบสถานการณ์จ้าละหวั่น ส่วนนายอริสมันต์ก็นั่งหน้าเครียดและหารือกับนายณัฐวุฒิและนายจตุพร  ท่ามกลาง การ์ด นปช.นับสิบคนกระจายกำลังคุ้มครองอย่างใกล้ชิด

 แหล่งข่าวในที่ประชุมแกนนำ นปช.กล่าวว่า หลังจากที่นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช., นายอดิศร เพียงเกษ,  นายวิสา คัญทัพ  และนางไพจิตร อักษรณรงค์ ทยอยถอนตัวออกจากพื้นที่ชุมนุม หลังจากไม่เห็นด้วยมติที่ประชุมแกนนำ นปช.ที่ไม่ยอมยุติชุมนุม รวมทั้งข่าวเสธ.แดงถูกยิง ทำให้แกนนำ นปช.หลายคนเริ่มถอดใจอยากให้มีการเปิดเจรจากับรัฐบาลอีกครั้ง โดย นปช.จะยอมยุติชุมนุม เพื่อให้ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ได้เดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัยก่อน  แต่ติดที่นายจตุพรและนายอริสมันต์ ประกาศกร้าวที่จะสู้อย่างถึงที่สุด ทำให้แกนนำหลายคนต่างอึดอัดไม่กล้าแสดงความเห็นคัดค้าน เนื่องจากกลัวถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้ทรยศคนเสื้อแดง

 ยังมีการวิเคราะห์สาเหตุการยิง เสธ.แดงอีกหลากหลายทาง โดยมีการคาดว่าคนร้ายน่าจะยิงออกมาจากสะพานลอย หรือตึกสูงริมถนนพระราม 4 โดยเป้าหมายน่าจะอยู่ที่เสธ.แดงเพียงคนเดียว เพราะคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง และเชื่อว่าจุดประสงค์ของการยิงน่าจะเพื่อปลุกเร้าให้ผู้ชุมนุมเกิดความโกรธแค้นและมาร่วมชุมนุมกันมากขึ้น  เนื่องจากที่ผ่านมาหากมีเหตุการณ์รุนแรง ก็จะสามารถระดมคนเข้ามาร่วมได้เป็นจำนวนมาก

       ในขณะที่การสัมภาษณ์ของ เสธ.แดงเมื่อวันที่ 12 พ.ค.นั้น พล.ต.ขัตติยะยอมรับว่าเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับนายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดง จากประเด็นการแบ่งเงินและอำนาจไม่ลงตัว

          พล.ต.ขัตติยะบอกว่า นายอารีย์มีนักเลงอยู่ในการควบคุมเป็นจำนวนมาก โดยนักเลงเหล่านั้นมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยด้านหลังเวทีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับกองกำลังของเสธ.แดง ซึ่งนายอารีย์เป็นผู้หากินกับการ์ดมาโดยตลอด เมื่อได้รับเงินมาก็จะอมเอาไว้ จ่ายให้ไม่ครบ ทำให้มีการ์ดบางส่วนรู้สึกไม่พอใจจึงมาเข้าร่วมกับเสธ.แดง

        “เสธ.แดงเองก็มีกองกำลังของตัวเองอยู่ แต่เมื่อมีการ์ดที่ถูกนายอารีย์อมเงินเข้ามาเสริม ก็ทำให้เสธ.แดงแข็งแกร่งขึ้น และเป็นเหตุให้นายอารีย์ไม่พอใจอย่างยิ่ง” พล.ต.ขัตติยะระบุไว้เมื่อวันที่ 12 พ.ค.

แดงคลั่งทำลายสิ่งของ

 ด้านความรู้สึกของผู้ชุมนุม เมื่อเวลา 20.30 น. ที่บริเวณสีลม แยกศาลาแดงนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมมีอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนัก เนื่องจากไม่พอใจที่เสธ.แดงถูกยิง โดยได้เข้าทำลายสิ่งกีดขวาง รื้อกั้นเหล็ก และทุบทำลายกล้องซีซีทีวีบริเวณรอบศาลาแดง

 เวลา 21.05 น. นายจตุพร  พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ได้ขึ้นปราศรัยกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะถูกยิงว่า ถ้านายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ  รองนายกด้านความมั่นคง, นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ถ้าอยากจะยิงก็ยิงได้เลย  ถ้าคิดว่าการที่เสธ.แดงถูกยิงแล้วจะทำให้พวกตนไม่กล้าขึ้นบนเวทีปราศรัยนั้น เข้าใจผิด สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ประกาศออกมาว่าพูดปรองดอง แต่สิ่งที่พูดนั้นไม่เคยพูดออกมาจากหัวใจ มันเป็นเพียงมารยาเท่านั้น

 นายจตุพรกล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์ต้องการฆ่า และฆ่าเท่านั้น เพื่อรักษาตำแหน่งนายกฯ ตอนนี้คนเสื้อแดงกำลังไหลเข้ามาที่นี่แล้ว และจะได้รู้ว่าใครเป็นส่วนใหญ่ของประเทศ หลายคนอาจช็อก แต่ในความโชคร้ายยังมีโชคดี เพราะ เสธ.แดงยังมีชีวิต ตอนนี้ไม่ต้องเสียดายชีวิต อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าจะต้องเสียเลือด เสียชีวิต และต้องตายและได้มาซึ่งประชาธิปไตยเราก็พร้อม 

 “ถ้าความตายอยู่ตรงหน้าก็จะเดินเข้าหามัน อภิสิทธิ์ สุเทพ เนวิน  เราอยู่นี่มายิงได้เลย ไม่ต้องรอถึง 6 โมงเช้า มาฆ่าได้เลย  พวกเราจะออกจากที่นี่แบบราชสีห์  เราจะไม่เดินออกไปแบบผู้แพ้ แต่สำหรับผู้สั่งฆ่าประชาชนต้องตายตกตามกัน” นายจตุพรกล่าวอย่างดุดัน

 เมื่อเวลา 21.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าประตูรถไฟใต้ดินสวนลุมพินี แยกถนนวิทยุ ได้มีประชาชนคนเสื้อแดงมารวมตัวกว่า 100 คน เพื่อมากดดันทหารที่ประจำการอยู่ในสวนลุมพินี โดยผู้ชุมนุมได้นำแผงกั้นพลาสติกสีส้มมากั้นทางเข้า-ออกเพื่อกันไม่ไม้ทหารสามารถออกมาได้ พร้อมกับตะโกนด่าทอ ขับไล่ทหารออกไปเป็นระยะ หลังจากนั้นได้มีเสียงประทัดดังขึ้นประมาณ 3-4 นัด ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องยิงกระสุนยางออกมา  ซึ่งทำให้คนเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และได้นำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง อีกทั้งเหตุจากการยิงประทัดขึ้นนั้น ทำให้ประทัดได้พลัดตกลงมาตรงหน้ารถแท็กซี่ที่จอดอยู่ตรงฝั่งถนนพระราม 4  ส่งผลให้กระจกด้านหน้าร้าว อย่างไรก็ตาม การจราจรที่บริเวณดังกล่าวยังเป็นปกติ แต่น่าสังเกตว่าได้มีรถมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่ได้เดินทางเข้ามาที่บริเวณสวนลุมฯ อย่างต่อเนื่อง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 22.30 น. ได้เกิดเหตุตึงเครียดที่บริเวณแยกสวนลุมพินีตัด ถ.สาทร  เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงเกือบพันคน ได้รวมตัวกันเพื่อขับไล่ทหารที่อยู่ในสวนลุมฯ ทำให้ทหารย้ายกำลังออกจากสวนลุมฯ แล้วเข้าไปอยู่ที่ตึกอื้อจื้อเหลียง ถนนพระราม 4 จากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้พยายามเข้าไปไล่  โดยช่วงเวลาดังกล่าวมีเสียงปืนและเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 3-4 ครั้ง ส่งผลให้ผู้ชุมนุมพยายามปลุกเร้าประชาชนในพื้นที่ให้ช่วยกันให้ขับไล่ทหารออกไปให้หมด และขณะนี้บรรยากาศยิ่งเพิ่มระดับความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ.

64 thoughts on “กรุงเทพฯ วันนี้

Comments are closed.