เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน นักสะสม

lopha

จิปาถะ
เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน นักสะสม
4
คงเป็นเพราะปีนี้อากาศในเมืองไทยร้อนกว่าทุกๆปี ทำให้ทุกครอบครัวในหมู่บ้านต่างพากันเก็บตัวอยู่แต่ในห้องแอร์ภายในบ้าน นานๆจะมีคนโผล่ออกมานอกบ้านสักคนสองคน จัดการธุระเสร็จก็รีบกลับเข้าบ้านไป แดดตอนบ่ายสว่างจ้าจนต้องหยีตา ต้นมะม่วงริมรั้วยืนตากแดดนิ่งสนิทอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ ใบไม่กระดิกเพราะไม่มีลม ทุกอย่างสงบนิ่งดั่งปราศจากชีวิต
นางแต้มยังคงนอนอยู่ในห้องที่มีแม่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนรถเข็นใกล้ๆ นานๆนางจะลดหนังสือพิมพ์ลงเพื่อมองดูลูกอย่างห่วงใย เผยให้เห็นใบหน้าที่ปรากฏร่องรอยของความวิตกกังวลกับอาการของลูกอย่างเด่นชัด ตั้งแต่นางแต้มหลับยาวเมื่อคราวที่แล้ว ทำให้แม่และทุกคนในครอบครัวหวาดผวาไปตามๆกัน ความระทึกจากเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่จางหายไป เหตุการณ์ทำนองเดียวกันก็ได้เกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะนางแต้มหลับไปอีกเกือบ 30 ชั่วโมง และยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด ครู่หนึ่งมีเสียงนางแต้มเรียกแม่จ๋า แม่จ๋า ทำให้ทุกคนในบ้านที่ได้ยินต่างโล่งอกไปตามๆกัน “ ฮา! ตื่นแล้ว”
“แม่จ๋า แม่จ๋า” เสียงนางแต้มร้องเรียกแม่เมื่องัวเงียลืมตาขึ้นในตอนบ่าย หลังจากหลับยาว
แม่รีบหมุนล้อเลื่อนรถที่นั่งไปข้างเตียงที่ลูกนอนอยู่ด้วยความดีใจ พร้อมกับถามว่า “มีอะไรจ้ะลูก”
“แม่ต้องดีใจกับลูกนะ แม่ต้องดีใจ” นางแต้มยกมือขึ้นตบไปมาเบาๆกลางอากาศ
“ต้องดีใจซิลูก….เรื่องอะไรล่ะลูก”
“ก็อย่างที่แม่บอก อำนาจเป็นลาภของเรา”
“ใช่..แล้วไง ลูก”
“ก็ชื่อเสียงเกียรติคุณที่แม่บอกไง เมื่อมีอำนาจ การยกยอปอปั้นก็จะตามมาไม่ขาดสาย…แม้ตดก็มีคนว่าหอม แม่รู้เปล่า ลูกได้รางวัลเกียรติยศมากี่รางวัล”
“กี่รางวัลละลูก” แม่ทำหน้าฉงน
“ที่ได้มาก่อนหน้านี้ กับที่ได้มาใหม่รวมเป็นแปดรางวัลแล้ว” นางแต้มตอบอย่างปลื้มปิติ
“แปดรางวัลเชียวรึ” แม่อุทานเบาๆ และกล่าวเสริมว่า
“แม่บอกแล้วไม่มีผิดว่า อำนาจเท่านั้นที่จะทำให้ลูกได้ทุกสิ่งทุกอย่าง นี่ก็ได้มาถึงแปดรางวัล ถ้าลูกไม่ได้เป็นผู้บริหารใครเขาจะให้ อย่าที่แม่บอก อำนาจเป็นลาภของเรา มันทำให้ความเป็นอยู่ของเราดีขึ้น ฉะนั้นเราต้องรักษาอำนาจนั้นไว้ เพราะกว่าจะได้อำนาจนั้นมาเหนื่อยแสนเหนื่อยเลือดตาแทบจะกระเด็น”
“ลูกว่า คงต้องหาช่างมาต่อตู้เพื่อโชว์รางวัลที่ได้มาแล้วละแม่”
“ดีจ้ะลูก เดี๋ยวแม่จะติดต่อช่างทำ เฟอร์ ให้” นางแต้มหลับตาทำเหมือนกำลังจินตนาการสักครู่ก็ลืมตาพร้อมกับถามแม่ว่า
“แม่ไม่อยากรู้หรือว่า ลูกได้รางวัลอะไรมาบ้าง”
“อยากรู้ซิลูก บอกแม่มาซิ” แม่โน้มตัวเข้าไปใกล้ ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดหน้าให้ลูกอย่างปราณี
“แม่จ๋า รางวัลแรกเป็นโล่เชิดชูเกียรติ เพราะลูกบริหารงานที่ส่งเสริมทุนทางสังคมบริการวิชาการชุมชน”
“ดีจ้ะลูก แล้วรางวัลที่สองละลูก”
“ไม่ใช่รางวัลที่ 2 แม่.. ไม่ใช่รางวัลที่สอง” นางแต้มขึ้นเสียงทำตาเขียวใส่ “มันเป็นรางวัลที่ได้ต่อจากรางวัลแรก
มันเป็นรางวัล ธรรมลักษณ์ศิลา ประเภทผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ”
“จ้ะ ลูก..แล้วรางวัลที่ได้รับต่อมาอีกละลูก”
“ถูกต้อง แม่…ต้องอย่างนั้น รางวัลนี้สำคัญมาก
“รางวัลอะไรล่ะลูก”
“รางวัลคนไทยตัวอย่าง ตามโครงการกิจกรรมรณรงค์ทำคุณงามความดี 77 จังหวัด”
“เยี่ยมเลยลูก 77 จังหวัด ลูกได้รางวัลทำคุณงามความดีคนเดียว”
“ไม่ใช่แม่ ได้ทุกจังหวัดจ้ะ แม่ จังหวัดละหนึ่งคน”
“แต่นั่นแหละ ลูกก็ได้เป็นตัวอย่างคนไทยดีเด่นของจังหวัดบุรีรัมย์ใช่ไหมลูก”
“ก็ทำนองนั้นแหละ แม่”
“ดี ไอ้พวกที่ด่าว่าลูก จะได้รู้สึกเสียบ้าง”
“รางวัลที่ได้ต่อมา เป็นรางวัลสำคัญมากแม่”
“รางวัลอะไรจ้ะลูก”
“รางวัลพระกินรี”
“โอ้ ดีจังเลย ลูกได้นางกินรีมาด้วย….ลูกเอาไปแอบไว้ที่ไหนล่ะ แม่ไม่เห็นเลย”
“ไม่ใช่แม่ ไม่ใช่นางกินรี แต่เป็นรางวัลสำหรับ คนดี คิดดี สังคมดี ตามรอยพระยุคลบาท”
ถึงตรงนี้แม่ยกมือขึ้นพนมเหนือศีรษะ และกล่าวคำ “ทรงพระเจริญ”
และพูดกับลูกว่า “เห็นไหมล่ะ ลูกเป็นคนดี คิดดี ทำให้สังคมดี ลูกถึงได้รางวัลสำคัญนี้”
“แล้วรางวัลที่ได้ต่อจากรางวัลนี้ล่ะ”
“รางวัลคนดีของแผ่นดิน สาขานักบริหารและพัฒนาองค์กรดีเด่น”
“สุดยอดเลยลูก เพราะลูกบริหารอย่างนี้แหละจึงได้รางวัล ต้องเข้มงวดกวดขันให้หนัก พยายามทำแต้มให้มากๆไว้ ใครจะเดือดร้อนช่างมัน อยู่ไม่ได้ก็ลาออกไปเอง”
“จ้ะแม่”
“รางวัลอะไรอีกล่ะลูก หมดหรือยัง”
“ยังจ้ะแม่ รางวัลต่อมาเป็นรางวัลสิงห์ทอง สำหรับนักปกครองท้องถิ่นและผู้บริหาร และนักพัฒนาองค์กรดีเด่น”
“เห็นไหมล่ะ กระทรวงมหาดไทยยังเห็นคุณค่าของลูกเลย” นางพูดและยิ้มรื่นอย่างชื่นใจ
“แม่จ๋า รางวัลต่อไปเป็นรางวัลที่แม่จะต้องภูมิใจในตัวลูกมากๆอย่างแน่นอน”
“รางวัลอะไรจ้ะลูก”
“รางวัลยอดหญิงแห่งปีของจังหวัดบุรีรัมย์”
“ใช่เลย” แม่ตบเขาผาง “ไม่เสียแรงที่อุตสาห์อพยพยกครอบครัวมาตั้งถิ่นฐานอยู่บุรีรัมย์ ทีแรกนึกว่าต้องมาตำน้ำกินเสียแล้ว…ที่ไหนได้ ลูกได้รับเลือกให้เป็นผู้บริหารและได้รับรางวัลยอดหญิงแห่งปีของจังหวัดบุรีรัมย์ เสียด้วย…อย่างนี้ต้องเลี้ยงฉลอง”
แม่หัวเราะเอิกอ๊าก “นี่เพียงแค่ สอง ปี นะ ยังเหลืออีกตั้ง สอง ปี และอาจต่อได้อีก สี่ ปี คงรับกันไม่หวาดไม่ไหว
“จ้ะแม่ คงงั้นแหละ”
“แม่บอกแล้วไง อำนาจเป็นลาภของเรา เราต้องรักษาอำนาจนั้นไว้ ใครจะเป็นจะตายช่างหัวมัน อันไหนฟ้องได้ ฟ้องแม่มันไปเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
……

Comments are closed.