จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (กฏแห่งกรรม)

วันพุธที่ 23 มิถุนายน 2564

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (กฏแห่งกรรม)

23

ตอนไอ้ดำไก่ชนเดี้ยง ผมไม่ได้ไปเยี่ยมมัน ขืนไปได้ตบกระโหลกมันแน่ หน็อยแน่! เจอะกันหน้าลิฟท์ วิ่งหนีเข้าลิฟท์ไปเลย มันกลัวแม่มันเห็น ไอ้ขี้ครอก! เรื่องนี้ ผศ.ดร. ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล มีข้อมูลที่น่าสนใจ ขออนุญาตท่านแล้วครับผม“พูดถึงไอ้ดำไก่ชนนี่ ก็ลาโลกไปสองปีกว่าแล้วเนาะ ก่อนจะวายชนม์ สมัยช่วงท้ายของตำแหน่ง เราเดินผ่านห้องทำงาน เห็นนั่งหน้าดำคร่ำเครียด เลยเดินแวะเข้าไปทักทาย ด้วยความสงสารเห็นใจไอ้ดำโอดครวญว่า พี่ อีนังนี่ มันจิกผม โทรศัพท์ตามไม่หยุด ปกติ ผมเคยมาทำงานสาย 4 โมงเย็นก็กลับบ้านแล้ว แต่ทุกวันนี้ มาตั้งแต่เช้า กว่าจะได้กลับก็เลยห้าโมงเย็น ทุกวันเพราะมันโทรจิกผมทั้งวันเหมือนเป็นขี้ข้าเลย เราฟังแล้วก็บอกว่า ทำไมเธอไม่ลาออกไปล่ะ มาให้เขาโขกสับทำไม เงินก็ไม่เดือดร้อน ไปรักษาตัวดีกว่า เธอป่วยอยู่นี่ แต่ดำไม่ตอบ เราก็เลยเดินออกมาแบบช่วยไม่ได้แต่รู้สึกรันทดใจอย่างไรไม่รู้ วันที่สั่งอาหารห่อมาให้บุคลากรทำหน้าที่เกี่ยวกับการสอบ5 พันคน ที่นางหน้าใหญ่ไปรับอาสามา ขณะที่ไอ้ดำกำลังโทรศัพท์สั่งข้าว ยังไม่ทันจบก็ล้มลงคาโทรศัพท์ คนรับสั่งข้าวกล่องเขาเล่าให้ฟัง และตอนป่วยครบเดือน กำลังจะย้ายไปเมืองเหนือ เราก็ไปเยี่ยม ไปให้กำลังใจ มันบีบมือ ขยับแข้งขยับขาให้ดู แสดงว่ารับรู้เพราะได้ด่าข้างหูมันไปว่า พี่บอกแล้วให้เธอลาออก ทั้งๆที่ป่วย แต่เธอก็ดันทุรังอยู่ ตอนนั้นก็สงสารจับใจ จึงได้แต่ปลอบให้เข้มแข็งอดทน ความจริงตอนนั้นถ้ารักษากับหมอเก่งๆนะ ดำก็จะหาย เพราะโรคหลอดเลือดสมองแตก สมองจะเสียหายน้อย ฟื้นตัวได้เร็ว ถ้ารักษาถูกวิธี ไม่เหมือนหลอดเลือดสมองตีบ สมองจะเสียหายมาก นี่คนข้างกายก็เป็นมาได้ปีที่15แล้ว ต้องใช้วิธีรักษายากกว่า ลำบากกว่า และใช้เวลานานกว่า การคืนสภาพก็จะไม่เต็มร้อย ได้เท่าที่ได้ แต่ก็ยังดี จึงน่าเสียดาย ชีวิตที่อาภัพบั้นปลายของไอ้ดำคนข้างกายดำบอกว่า แกนอนนิ่งไม่รับรู้ตั้งแต่ป่วย แต่พอพี่มาแกตอบสนอง คงดีใจ ก็เลยบอกว่า พี่ไปเตือนก่อนล้มว่าให้ลาออกมันไม่เชื่อพี่ แต่เรื่องก็ผ่านไปแล้ว ป่านนี้ ไอ้ดำก็คงมีความสุขไปสู่สุคติแล้วละ ไม่ต้องทนทุกข์ เราน่ะได้แต่ครุ่นคิดแทนว่า จะเอาตำแหน่งกับเงินไปทำอะไรอยู่แบบมีศักดิ์ศรีดีกว่า เงินน้อยหน่อยก็ช่างมัน #เลยหันคิดถึงตัวเอง ตอนที่นางใช้ให้คนมาขับไล่ไม่ให้ใช้ห้องสอน สถาบันเขามีห้อง ใช้สำหรับการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาสติปัญญาผู้เรียน กลับไม่ให้ความสำคัญ เอาห้องไปเก็บวัสดุที่ไม่ได้พัฒนาสมองคน ไม่นานต่อจากนั้น นางก็ให้คนมาขับไล่ไม่ให้ใช้ห้องทำงานที่นั่งมาเกิน10 ปี โธ่เอ๊ย นางหลงตัวเอง และบ้าอำนาจ วันๆ คงคิดแต่ การแก้แค้น การเอาคืน จึงรังควานคนไปทั่ว ด้วยจิตอาฆาตแค้น ความจริงเรากับนางไม่มีปัญหาต่อกัน แต่คนข้างกายเรา ที่ไปด่าประจานคนใหญ่สุด ในที่ประชุม เรื่องให้งบประมาณ นางไปถลุงแบบนอกลู่นอกทาง เลยมีคนโกรธเราสองคน คงเข้าใจว่าเราเสี้ยมสอน แต่เปล่าเลย เราก็ไม่รู้ ออกจากห้องประชุม ยังต่อว่าคนข้างกาย การสร้างศัตรูที่เราไม่มีทางต่อสู้เป็นการกระทำที่ไม่ฉลาด คนจีนเขาอบรมสั่งสอนกันมาว่า ให้ซื่อสัตย์ สุจริต กตัญญู ขยัน อดทน และมีเมตตา นางเลยเคียดแค้นเราตั้งแต่นั้นมา คงเข้าใจว่าเราวางแผน เราจะไม่ใช้สมองมาวางแผน ทำอะไรที่ไม่ดีในสถาบันการศึกษาเป็นอันขาด แต่จะตั้งใจทำงานด้วย ความวิริยะอุตสาหะเพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดินที่ให้อาชีพที่มีเกียรติแก่เรา เงินทองน่ะ เมื่อไหร่ก็หาได้ แต่คุณงามความดี เราต้องสั่งสมจนชั่วชีวิต ใครไม่เชื่อ แต่เราเชื่อเรื่อง #กฏแห่งกรรม…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *