วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม 2564
จิปาถะ เรื่องสั้น โจรปล้นเงินเดือน (มึงด้วย)
8
“คม หักศอก เปรยกับ มีนา จัน “ฉันนึกไม่ออกเลยว่า นางแต้มฟ้องพนักงานมหาวิทยาลัยฯจำนวน 9 คน ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา,ดูหมิ่นเจ้าพนักงานนั้น นางแต้มแสดงสถานภาพของตนเองอย่างไรกับศาลสารขัณฑ์”
มีนา จัน บอกว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ใช่ เราไม่รู้ ทีนี้สมมุติว่า แกเป็นนางแต้ม เป็นรักษาการอธิการบดี แกจะแสดงสถานภาพของแก่กับศาลฯอย่างไร”?
“ไม่ยาก ฉันก็จะอ้างว่า “ฉันได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 จนถึงปี พ.ศ.2560 จากนั้นฉันได้รับการแต่งตั้งจากสภามหาวิทยาลัยฯ ให้รักษาการอธิการบดี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 จนถึงปัจจุบัน โดยอ้างคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ .. /2560 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการบริหารงานของสถาบันอุดมศึกษา, คำสั่งสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ที่ ../2562 เรื่อง แต่งตั้งรักษาการแทนอธิการบดี และคำสั่งสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ที่ ../2563 เรื่อง แก้ไขคำสั่งแต่งตั้งรักษาการอธิการบดี เท่านั้นก็จบ
“สุดยอด” คม หักศอก ชม “แต่ มีนา จัน แกจำได้ไหมว่า เอกสารที่นางแต้มใช้อ้างทั้งหมดนั้น พนักงานมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ 7 คน ที่ถูกนางแต้มฟ้องด้วยข้อหา ทำความผิดต่อเจ้าพนักงานในการปกครอง, หมิ่นประมาท ได้นำไปแสดงต่อศาลสารคามบุรี โดยระบุว่าเป็นเอกสารเท็จ และศาลได้พิพากษายกฟ้องแล้ว เป็นการยืนยันว่า เอกสารที่ใช้อ้างว่านางเป็นรักษาการอธิการบดีนั้นเป็นเท็จ”
“อย่างนี้นางแต้มก็ทำความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 180 ที่บัญญัติว่า
ผู้ใดนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดี ถ้าเป็นพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดีนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ได้กระทำในการพิจารณาคดีอาญา ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท”
“แกชวนฉันคุยเรื่องนี้เพื่ออะไรวะ”…. “ก็เพื่อจะบอกไอ้พวกขี้ข้าหมานายทั้งหลายว่า เจ้านายมึงนั้นเป็นรักษาการอธิการบดีเถื่อน โว้ย!” มึงก็เถื่อนด้วย ให้ระวัง! ครอบครัวมึงจะวิบัตินะจะบอกให้ ”
…