วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2566
จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (“หน้าชื่นอกตรม”) ฉายซ้ำ โพสต์ครั้งแรกเมื่อ 4 ธันวาคม 2560
1
มีสุภาษิตบทหนึ่งที่มีความหมายชัดเจนจนไม่ต้องอธิบาย เหมือนมองเห็นตัวเองในกระจกเงาใสอย่างไงอย่างงั้น สุภาษิตที่ว่าคือ “หน้าชื่นอกตรม” ซึ่งหมายถึง “แสร้งทำทีเป็นร่าเริงมีความสุข ทั้งที่ในใจเป็นทุกข์”
สาเหตุที่นำสุภาษิตบทนี้ว่าพูด ก็เพราะมีคำปรารภแว่วมาเบาๆว่า “การเมืองเงียบจังครับท่าน …เหตุใดคนจัญไรยังรื่นเริง” ผมได้ยินแล้วก็เข้าใจแจ่มแจ้ง มันเป็นปกติของคน ฉะนั้นปล่อยเขารื่นเริงไปเถอะครับ กรรมกำลังแสดงบทบาทของกรรม เราเป็นคนดู ต้องดูให้สนุก
2
ผมจะบอกอะไรให้ เชื่อผมเถอะครับ อาการของนางแต้มในขณะนี้ ตรงตามสุภาษิต คือ หน้าชื่นอกตรมจริงๆ พิจารณาดูซิครับ คนที่กำลังมีเรื่องมีราวมากมายจะให้มีความสุขได้อย่างไร ผมมีประสบการณ์ เมื่อปี 2540 ผมอยู่อยุธยา ผมเก็บเศษกระเบื้องที่มีลวดลาย ตามวัดร้างต่างๆทั่วเกาะเมือง เพื่อศึกษากำหนดอายุ ดังนั้นที่บ้านผมจึงเต็มไปด้วยเศษกระเบื้อง ซึ่งก็ไม่มีค่าอะไร แต่เนื่องจากกรมศิลปากรที่อนุญาตให้บริษัทฝรั่งเข้ามาถ่ายภาพยนต์ที่ไม่สมควรในโบราณสถานวัดมหาธาตุ ผมเป็นตัวตั้งตัวตีไปต่อต้าน เมื่อการถ่ายภาพยนต์เสร็จเรียบร้อย กรมศิลปากรก็แจ้งความและนำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับผมทันที ในข้อหามีวัดถุโบราณอันเป็นสมบัติของแผ่นดินไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นคดีอาญา ผมผิด 1000 เปอร์เซนต์ มีโอกาสติดคุกติดตารางค่อนข้างจะแน่นอน และผมก็ทำแบบนางแต้มนี่แหละครับ คือทำเป็น “หน้าชื่นอกตรม” ใครถามผม ผมก็จะบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ผมนอนไม่หลับและฝันร้ายทุกคืน คิดถึงตัวเองที่จะได้รับเคราะห์กรรม คิดถึงครอบครัวซึ่งก็พลอยเดือดร้อนวุ่นวายไปกับผมด้วย อีกทั้งญาตพี่น้องเพื่อนสนิทมิตรสหาย ลูกศิษย์ลูกหา ที่เป็นห่วงเป็นใย เดินทางมาเยี่ยมเยียน เอาใจช่วย แต่…ไม่มีใครช่วยผมได้หรอกครับ แต่ก็ได้กำลังใจ เรื่องนี้ผมต้องช่วยตัวเอง นางแต้มก็เช่นกัน ไม่มีใครช่วยนางได้หรอก คอยดูตอนจบก็แล้วกัน วิธีการก็คือ ต้องดูแลสุขภาพของเราให้แข็งแรง อยู่ให้นานๆ ดูละครเรื่องนี้ให้จบ รับรองสนุกแน่….ส่วนเรื่องของผม 8 เดือนพอดี อัยการ สั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด เพราะผมไม่มีเจตนา คำสั่งนี้เหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่สำหรับเรื่องของนางแต้มทุกเรื่อง เธอมีเจตนา 1000 เปอร์เซนต์ นางอาจจะยกภูเขาออกจากอกยากสักหน่อย เพราะมันเป็นภูเขาพนมดงรัก กั้นเขตแดนไทย-กัมพูชา มันใหญ่และยาวจริงๆ”
มีนา จัน สงสัยเรื่องของคม หักศอก ถามว่า “ที่แกถูกฟ้องหมิ่นประมาท และบอกว่าไม่วิตกกังวลเท่าไร แสดงว่าแก “หน้าชื่นอกตรม” แต่แกเสแสร้งเหมือนนางแต้ม”
คม หักศอก ตอบว่า “ก็ไม่รู้ซิ แต่คดีมันต่างกันนะ ที่อยุธยา ฉันมีสมบัติของแผ่นดินไว้ในครอบครอง ผิดเต็มประตู แต่คดีหมิ่นประมาทที่สารขัณฑ์ ฉันไม่น่าจะผิด เพราะฉันไม่ได้หมิ่นประมาทใคร”
อ่อ! เข้าใจแล้ว
…..