จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (อีบัวลอย)

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (อีบัวลอย)

27

สำหรับผม คม หักศอก  อีแต้ม อธิการบดี มหาลัยสารขัณฑ์ หรือตัวละครของผม ในจิปาถะ ถือว่าเป็นอัปรีย์บุคคล ไร้ค่าไร้ราคาอย่างสิ้นเชิง  จึงป่วยการที่จะไปว่ากล่าว อบรมสั่งสอน หรือแนะแนวทางให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี เหมือนหมาเน่าตาย มีอย่างเดียวโยนลงบ่อปลาให้จัดการไป จุดเด่นความเลวของนางได้แก่ เป็นคนพูดเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น เป็นคนไม่มีสัจจะ พูดอย่างทำอีกอย่าง โกหกเขาไปได้เรื่อยๆ มีความอาฆาตแค้นเป็นสันดาน ปละเลวขนาดนี้ไม่รู้ว่าลอยหน้าลอยตาอยู่ได้อย่างไร อีบัวลอยเอ้ย! หน้าด้านหน้าทนจริงๆ จนไม่รู้จะหาอะไรมาเปรียบแล้ว

แต่ที่เลวไปกว่านั้นอีกก็คือไอ้พวกผู้เฒ่าหรือพวกไอ้แก่ที่เป็นกรรมการสภามหาลัย ซึ่งคอยสนับสนุนและส่งเสริมให้นางทำสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง โดยมีเจ้าส่งเดชหมอความปากหนาหน้าดำและอีอันหยี๋ทนายคู่กายที่สวมวิญญาญหมอดูตาบอดคอยทำนายดวงชะตาให้  แต่บิดพริ้วดวงชะตาที่ว่าอีแต้มจะลงนรกเป็นว่ามันจะได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น 555 เขียนแค่นี้ก็สบายใจแล้ว มาดูว่าวันนี้ หญิงกล้า อัศวินม้าขาว(หญิง) ของเราที่จะสามารถพิฆาตอีอัปรีย์ได้ในเร็ววันนี้

หญิงกล้าบอกว่า “มีประกาศราชกิจจานุเบกษา 2565 เรื่องคุณธรรม จริยธรรม ข้อนี้ น่าคิด ที่หลายๆ มหาลัยควรทำความเข้าใจ เพราะส่วนมากที่อายุเกิน ไม่ผ่านการอบรม จะมีจุดกรอกประวัติ และปฎิญาณตน และไม่สามารถ เขารับการอบรมได้ คือคุณสมบัติไม่ผ่าน นั้นแสดงให้เห็นเจตนา ไม่บริสุทธิ์ โล่ ประกาศเกียรติคุณ ก็เอาเงินหลวงจ่าย 20,000 บาท บ้าง 10,000 บาท บ้าง ทำไมไม่ออกเป็นนามขององค์กร นางแต้มยากได้ก็ต้องเอาเงินส่วนตัว อย่ามาทำเรื่องบันทึกข้อความเบิกเงินออกไป หรีดไปเคารพศพ..นางแต้มจะใส่ชื่อตัวเอง .ก็ต้องจ่ายเงินเอง แต่ถ้าไม่จ่าย ก็ต้องใส่ชื่อหน่วยงาน เพราะเงินการกุศลหักทุกคน..ต้องไปหาบิลมาเบิกที่แห่งนี้คิด 10-15% และมีผูกขาดไม่กี่ร้านค้า .ตอนนี้รวยกันเป็นกอบเป็นกำ และอีกหลายเรื่องราวรอมีเวลา รถหลวงตั้งแต่ปี…ใช้สนุก งานใคร..ขึ้นบ้านใหม่ ธุระส่วนตัว….คนหลวง..เอาไปทำความสะอาดตึก เครื่องมือหลวง ถึงจะจ่ายค่าตอบแทนในเวลาราชการก็ผิด ก็แบ่งๆกันรับไป ท้ายที่สุด กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ เชื่อซิ แค่รอเวลา ท้ายที่สุด ก็เอาอะไรไปไม่ได้ นอกจาก ความดีงาม”

ส่วน ผศ.ดร.La Ph บอกว่า “คนแบบนี้ไม่มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาปหรือความผิดใดๆทั้งสิ้น และยังคิดว่าเงินหลวง ของหลวง และคนหลวง สามารถนำมาใช้ในงานส่วนตัวของตนได้เพราะไม่มีใครกล้าทำอะไร ถ้าอยู่หน่วยงานอื่นหรือสถาบันการศึกษาอื่นเขาร้องเรียนและตรวจสอบกันหลายรอบแล้ว…นับว่าเป็นเวรกรรมของสารขัณฑ์ที่ได้คนแบบนี้มาเป็นผู้บริหาร คำว่า “ผู้บริหาร” ในความคิดของนางแต้ม คือ ต้องเป็น “เจ้านาย, เจ้าของสถาบัน, ผู้ชี้เป็นชี้ตาย, ผู้กำชะตากรรมของคนในสถาบัน, ผู้สั่ง, เทพเจ้า” ดังนั้น การเป็นผู้ให้, ความเสียสละ, ผู้มีพรหมวิหารสี่, ผู้ประสานงาน, จิตประชาธิปไตยในการบริหารงาน (สามัคคีธรรม คารวะธรรม ปัญญาธรรม) จึงไม่ถูกนำมาใช้ แถมยังเก็บไว้ในลิ้นชักและล็อกกุญอย่างแน่นหนา”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *