จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (อำมหิต)

วันพุธที่ 2 มิถุนายน  2564 

จิปาถะ  เรื่องสั้น อีเถื่อน (อำมหิต) 

2

เรื่องนักศึกษามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ถูกรักษาการอธิการบดีแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทนั้น ถือเป็นเรื่อเลวระยำที่เกินจะรับได้ และเป็นเรื่องด่วนที่สุดที่ทุกคนจะนิ่งนอนใจไม่ได้  จะต้องหาวิธีหยุดเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะถ้าปล่อยไว้ ก็เท่ากับพวกเราซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ มีส่วนร่วมกับนางแต้มทำร้ายทั้งนักศึกษาและครอบครัวของนักศึกษาถึง 5 ครอบครัวด้วย เพราะเรื่องนี้เท่ากับ เป็นการเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว คือ จากครอบครัวสุขสันต์กลายเป็นครอบครัวที่อมทุกข์ จากครอบครัวที่สามารถสร้างโอกาสให้ลูกหลานได้ไปเรียนในสถาบันอุดมศึกษาเพื่อจะเป็นได้เป็นครู เป็นแม่พิมพ์ของชาติ และใช้ความรู้ที่ได้เรียนมา อบรมสั่งสอน ลูก หลาน เหลน ลื่อ ให้เป็นพลเมืองดีของชาติต่อไป แต่ปรากฏว่า ลูกหลานที่ไปเรียน ถูกครูแจ้งความดำเนินคดี กลายเป็นครอบครัวที่สิ้นหวัง สับสนและเจ็บปวดกับปัญหาที่จะต้องเผชิญ ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเสียเงินเสียทองเพื่อจ้างทนายความ และอาจเสียอนาคต วัยของเขาไม่สมควรที่จะต้องมารับเคราะห์กรรมอย่างนี้  ยิ่งนักศึกษาบางคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ลองคิดดูซิครับ ถ้าเรื่องนี้เกิดกับลูกหลานของท่านและครอบครัวท่าน ท่านจะรู้สึกอย่างไร

คำถามก็คือ พวกเราชาวสารขัณฑ์จะปล่อยให้หญิงบ้าบอคอแตกคนหนึ่งที่ มีพฤติกรรมที่ไม่ไช่คน แต่เป็นปีศาจร้ายใจคออำมหิตโหดร้อย กักขฬะ และเลวชาติ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทำลายอนาคต ทำลายครอบครัวของลูกหลานท่านต่อหน้าต่อตาอย่างนั้นหรือ?

จริงอยู่ เมื่อใครทำผิดกฏหมาย ก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่เรื่องนี้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า “นางแต้มนั้น ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า นางเป็นเพียงข้าราชการเกษียณ ไม่ได้มีสถานภาพอะไรเลยในมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ไม่ได้เป็นทั้งรักษาการอธิการบดีหรืออธิการบดี แต่อย่างใด” ซึ่งครูบาอาจารย์ก็รู้กันอยู่แก่ใจ ฉะนั้น พวกท่านต้องช่วยนักศึกษาลูกหลานของท่าน อย่างน้อยก็ช่วยรวบรวมเอกสารหลักฐานให้ทนายไปสู้ความกับเขา  หรือนำหลักฐานไปยืนยันและอธิบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าใจ

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบหลักฐานให้ชัดเจนว่า ผู้ที่มาแจ้งความร้องทุกข์นั้น เป็นผู้เสียหายจริงหรือไม่ ด้วยประเด็นนี้ นางแต้มซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหาย และนักศึกษาก็ไม่ใช่จำเลยในคดีนี้ เพราะที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ขณะนี้ตกอยู่ในสภาพสูญญากาศ ไม่มีหัวหน้าสถานศึกษา ไม่มีอธิการบดี หรือรักษาการอธิการบดี   ฉะนั้น ตำรวจจะต้องจัดการดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเป็นรักษาการอธิการบดี และปล่อยนักศึกษาให้พ้นข้อหาไป

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *