เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน ท่องยมโลก (เล่ห์เหลี่ยม) 8.1

voosจิปาถะ
เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน ท่องยมโลก (เล่ห์เหลี่ยม)
8.1
หวู่เหมยเล่าให้ลูกฟังต่อว่า อย่างที่บอกไว้แล้ว เรื่องบุญวาสนาเป็นเรื่องที่หยุดกันไม่ได้จริงๆ หลังจากไทจงฮ่องเต้สวรรคต เธอและเหล่านางสนมทั้งหลายต้องบวชชี และต้องถือศีลภาวนาสวดมนต์ไหว้พระถวายพระพรแด่ฮ่องเต้ในพระโกศทุกวันไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ที่วัดม่านเย่ วัดที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ไทจงฮ่องเต้ เธออยู่ที่นั่นนานพอสมควร
แต่ในที่สุดแสงแห่งความรุ่งโรจน์ของเธอก็ปรากฏขึ้น วันหนึ่งเกาจงฮ่องเต้ และหวังฮองเฮาได้เสด็จมา ณ วันม่านเย่ นี้ หลังจากเสร็จพิธีทางศาสนาแล้ว ฮ่องเต้และฮองเฮาก็เสด็จไปเดินเล่นด้านหลังวัด เดินเข้าไปในศาลา ณ ที่นั้นเธอและเหล่าแม่ชีนั่งสวดมนต์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะโกนหัวเป็นแม่ชี แต่เกาจงก็จำได้ เพราะเธอพยายามจ้องมองเกาจงด้วยน้ำตาคลอเบ้า แสดงสีหน้าให้เห็นถึงความทุกข์โศก และก็ได้ผลจริงๆ เมื่อเกาจงเสด็จไปใกล้ พระองค์ก็พลั้งพระโอฐว่า “เจ้าก็อยู่ที่นี่”
“หวังฮองเฮาเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็ประหลาดใจ ตรัสถามเกาจงว่า “พระองค์รู้จักนางด้วยหรือ” เกาจงตรัสว่า “นางชื่อหวู่เหมย เป็นพระสนมของพระราชบิดา”
เมื่อเธอได้ยินฮ่องเต้เอ่ยชื่อเธอ เธอแสดงอาการสะเทือนใจด้วยการสะอื้นไห้เสียงดัง ซึ่งเธอรู้อยู่แล้วว่า เกาจงเป็นคนอ่อนไหวง่าย น้ำตาของเธอจะทำให้พระองค์ทรงสงสาร และหวังให้พระองค์หวนระลึกถึงความผูกพันที่เคยมีต่อกัน และก็ได้ผล เกาจงเห็นเธออยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเช่นนี้ ถึงกับลืมพระองค์ เดินเข้าไปกุมมือเธอไว้ ฮองเฮาเกรงว่าจะเสียกิริยาก็ทูลเชิญฮ่องเต้ให้เสด็จกลับ
นี่เธอรู้ไหม “แต้ม” เหตุการณ์วันนั้นทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างพลิกผันไปเป็นคนละเรื่องทีเดียว
“เธอนี่แน่มาก ลูกชมหวู่เหมย ” และลูกรบเร้าให้เธอเล่าต่อ
เธอกล่าว”ขอบคุณ” ก่อนที่จะเล่าต่อไปว่า “เนื่องจากหวังฮองเฮา ไม่มีพระโอรส และขณะนั้นพระสนมแซ่เซียวเป็นที่โปรดปรานของเกาจง แถมยังมีพระโอรสด้วย ฮองเฮาเกรงว่า ดีไม่ดีพระโอรสของพระสนมเซียวได้เป็นไท่จือ ก็จะยุ่งกันไปใหญ่ อำนาจวาสนาของเธอก็จะหมดไป ฮองเฮาจึงคิดว่าจะเอาเธอมาเป็นตัวแปร เพราะรู้ว่าเธอเคยมีสัมพันธ์สวาทกัยเกาจงมาก่อน แผนการร้ายของฮองเฮาจึงเริ่มต้นขึ้น”
วันหนึ่งหวังฮองเฮาได้เสด็จมาวัดม่านเย่เพื่อพบกับเธอ นางกล่าวว่า “หวู่เหมย เธอรู้หรือเปล่าว่า ฮ่องเต้โปรดปรานเจ้ามาก ต่อไปนี้เจ้าปล่อยให้ผมยาว แล้วเราจะพาเจ้าไปอยู่ในวัง เธอเล่าว่า เธอนั่งคุกเข่าอยู่หน้าพระพักตร์ด้วยความซาบซึ้งใจ และรีบตอบว่า “พระเมตตาของฮองเฮาหม่อมฉันจะไม่ลืมเลย หม่อมฉันจะสวดมนต์ถวายพระพรแด่พระองค์ทุกคืน เพื่อตอบแทนพระเมตตาของพระองค์”
หวู่เหมยบอกลูกว่า “รู้ไหม เธอพูดเท่านั้นแหละฮองเฮาก็หลงเชื่อในความจงรักภักดีของเธออย่างสนิทใจ”
นางแต้มเล่าถึงตอนนี้ก็หยุดไป ในขณะที่แม่เสริมขึ้นว่า นางหวู่เหมยคนนี้แสดงได้สมบทบาทจริงๆ ลูกต้องจำไว้เป็นตัวอย่างนะลูก

 

Comments are closed.