เรื่องสั้น เหตุเกิดที่ ม.สารขัณฑ์ (ยอมแพ้ หรือโกง)

10
มาถึงวันนี้ ความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ได้พัฒนามาถึงขั้นแตกหัก เมื่อคณาจารย์ได้ยื่นคำขาดให้สภามหาวิทยาลัยจัดการให้นางแต้ม รักษาการอธิการบดีที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย เพราะไม่มีคำสั่ง หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยทันที ซึ่งถ้าไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 157 (ปฏิบัติหรือเว้นปฏิบัติโดยมิชอบ) แต่สภาใช้ “แทคติก”ขอเวลานอก อ้างว่าต้องศึกษาหลักฐานก่อนและจะพิจารณาเรื่องนี้ในการประชุมครั้งต่อไป โดยไม่ใยดีกับการคำขาดที่จะดำเนินคดีเอาผิดตามมาตรา 157 เพราะคิดว่านั่นเป็นเพียง “คำขู่”เท่านั้น
เรื่องนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับกีฬาหมากรุกไทย ถึงตอนนี้ฝ่ายสภาฯก็ไม่สนุกนัก เพราะการยื่นคำขาดของคณาจารย์ เท่ากับการ “รุกฆาต” สภาฯ เป็นการรุกที่ทำให้นางแต้มไม่มีสิทธิ์จะเดินไปไหน หรือต่อให้เดินได้ก็จะถูกหมากตัวอื่นกินอยู่ดี ซึ่งถือว่า “แพ้แล้ว” แต่สภาฯซึ่งทำท่าครุ่นคิด ว่าจะยอมแพ้แต่โดยดีแบบมีศักดิ์ศรี หรือว่าจะโกง โดยวิธีล้มกระดาน ลุกหนีไปเฉยๆ เพราะหมากรุกกระดานนี้เดิมพันกันสูงมาก
ฉะนั้น การประชุมครั้งต่อไป จึงเป็นสุดยอดการประชุมที่จะระทึกใจสุดๆ อาจต้องขอให้มีการถ่ายทอดสด เพราะเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาคมสารขัณฑ์ทั่วไป เพราะผลการประชุมจะเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง คือ “ยอมแพ้” หรือ “โกง”
ผู้ไม่สันทัดกรณีอย่างผม คิดว่า น่าจะมีการโกง หรือ ล้มกระดาน เพราะก่อนการประชุมอาจมีเจ้าหน้าที่ศาลเอา“หมายศาล”มาส่ง ซึ่งทำให้กรรมการสภาฯสติแตก ลืมหมดทุกอย่าง นอกจาก
“ไม่ยอม”
อีกประการหนึ่ง ดูจากลักษณะนิสัยของนางแต้มและกรรมการสภาฯที่ส่วนใหญ่ มุทะลุดุดัน โกรธง่าย “แพ้ไม่เป็น” ยอดติดคุกดีกว่ายอมแพ้
ส่วนผู้สันทัดกรณี เปรียบสภาพความเป็นอยู่ของสภามหาวิทยาและรักษาการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ มีสภาพเหมือน “ฝี” ที่บวมเป่งใกล้จะแตกเต็มทีแล้ว คาดว่าอีกไม่นาน นอกจากจะแตกเองตามสภาพของฝี ซึ่งเป็นเรื้อรังมานานแล้ว ยังมีสิ่งแวดล้อมต่างๆที่ จะทำให้ฝีแตกและมีน้ำหนองไหลออกมาเลอะเทอะเปรอะเปื้อนและเหม็นกันหลายคน จนยากจะ รักษาให้หายได้จำเป็นต้องตัดอวัยวะ ของร่างกาย ส่วนนั้นทิ้ง ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้ฝีแตกมีดังนี้
1 กรรมการสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์เกิดมีดวงตาเห็นธรรมจึงลงมติให้นางแต้ม ยุติการปฏิบัติหน้าที่รักษาการอธิการบดี
2 ตำรวจกองปราบปรามมีความเห็น ดำเนินคดีอาญากับนายกสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์และ นางแต้ม ในความผิดตามมาตรา 112
3 ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 มีคำพิพากษาให้จำคุกกรรมการสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์และนางแต้ม
4. กรรมการสภามหาวิทยาลัย สารขัณฑ์ และนางแต้มถูกดำเนินคดี เพิ่มเติมอีกหลายคดี
5.จากเรื่องอื่นๆที่นางแต้ม พยายามสร้างความเดือดร้อน ความคับแค้นใจ ให้แก่อาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ อยู่ไม่หยุดไม่หย่อน
ดังนั้น จึงขอให้ ดูตัวอย่างคดีของ “บอสกระทิงแดง” ซึ่งมี อำนาจและบารมีของเงิน มากมายมหาศาล ในการ เบี่ยงเบน ความผิด เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องรับโทษ ที่ตัวเองได้ก่อขึ้นมา ก็ยัง “ไปไม่รอด” และทำให้ผู้เกี่ยวข้องจะต้องมารับโทษ ถึงขั้นถูกจำคุก กันอีกหลายคน สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือสนับสนุนและปกป้องนางแต้มขอให้พึงสังวรไว้ว่า ขณะนี้ ตนเอง กำลังเดิน บนเส้นทางเข้าใกล้ประตูเรือนจำมากแล้ว หากท่านไม่รีบเดินแยกออกจากเส้นทางดังกล่าวในเวลานี้ ท่านก็จะได้เข้าไปอยู่ร่วมกับนางแต้ม ในเรือนจำ แน่นอน
Kuk! Kuk! Kuk!
….