จิปาถะ เรื่องสั้น โจรขโมยเงินเดือน (ประสาทแดก)
4
เรื่องรักษาการอธิการบดี มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ประชุมสภา มหาวิทยาลัยออกอาการ ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรเพราะในใจก็รู้ว่า สภามหาวิทยาลัยมีเจตนา โดยเล็งเห็นผลว่า จะให้นางแตได้รับประโยชน์ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองชั้นต้น ตัดสินแล้ว เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ว่า เป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ให้ได้รักษาการอธิการบดีต่อไป โดยการตีขลุม อ้อมแอ้มว่าเป็นไปตามคำสั่ง คสช. ที่ 37 /2560 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2560 ซึ่งก็ไม่ได้เข้าตามเงื่อนไขของคำสั่ง ในข้อ 3 แต่ประการใด
การตัดสินใจของสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ จึงค่อนข้างจะออกมายากมาก ไม่เด็ดขาดและไม่สง่าเหมือนเคย ในการทำหน้าที่ ทำได้แต่เพียงประวิงเวลา ให้ช้าออกไปเท่านั้น แต่ก็หารู้ไม่ว่า เวลาการติดคุก ก็จะเร็วตามปกติของกระบวนการยุติธรรม หาได้ช้าตามที่คิดไว้ไม่
คุก คุก คุก มีที่ว่างเสมอสำหรับผู้ ทรงเกียรติ จากสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์
หมายเหตุ : คุกไม่ใช่คำหยาบนะครับ เพราะศาลใช้เป็นภาษาราชการ คือ ตัดสินจำคุกไม่เคยตัดสินให้จำเรือนจำเลยครับ
ก็คงเป็นอย่างที่ผู้สันทัดกรณีบอก ทั้งนายกสภาและนางแต้ม หรือนางโยนีปีศาจ ทั้งคู่มีอาการ คือคลื่นเหียนอาเจียน แน่นอืดไปหมด กินไม่ได้นอนไม่หลับ โชคร้ายที่อยู่คนละจังหวัด ถ้าอยู่จังหวัดเดียวกัน จะได้ช่วยกันเปลี่ยนใช้เท้าช่วยกันก่ายหน้าผาก
ผมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เกิดแต่กรรม และกรรมนั้นมี ดีเอนเอ เป็นมรดกตกทอด ถึงลูก ถึงหลาน ฉะนั้นไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้และกำลังจะเกิดขึ้นต่อไป คือผลของกรรมที่ได้ทำไว้ ไม่อาจจะหลีกพ้นได้
ความทุกข์อะไรจะเที่ยบเท่ากับความทุกข์ใจนั้นไม่มี ผลของมันกระทบไปทั้งหมด จิตใจที่ว้าวุ่นเพราะแก้ปัญหาไม่ตกนั้น คือ ตกนรกทั้งเป็น ตอนนี้กลัวอยู่อย่างเดียวคือ “คุก” แต่แสร้งทำเป็นไม่กลัว เพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์ ถ้าโดยเมื่อไรนั่นแหละจะรู้สึก ถึงตอนนั้นก็ต้องเอาพื้นโขกหัว (เพราะบ้าไปแล้ว) ว่าทำไมฉันถึงโง่อยากเป็นอธิการบดีด้วยนะ โง่บัดซบ
อุ้ยตาย ฉันด่าตัวเองได้อย่างไงนี่ ประสาทจริง
…