จิปาถะ เรื่องสั้น โจรขโมยเงินเดือน (ฟ้าอาจผ่า)
14
“รู้เปล่า ใครคือทรราชที่ถูกสาปแช่งทั้งสิบทิศ” มีนา จัน ตั้งคำถาม
“ไม่รู้” คม หักศอก ตอบ “รู้แต่ผู้ชนะสิบทิศ หรือ พระเจ้าบุเรงนองแห่งกรุงหงสาวดี ในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ ของยาขอบ”
“ไม่รู้จะบอกให้ก็ได้” มีนา จัน เริ่มบรรยาย “ในประวัติศาสตร์จีน ตั๋งโต๊ะ ได้ชื่อว่าเป็นทรราชที่โหดเหี้ยมทารุณที่สุด เขาถูกสาปแช่งไปทั่วทั้งสิบทิศ ทั้งในขณะที่มีชีวิตอยู่และตายไปแล้ว
เมื่อเขาถูกปลิดชีพ ศพตั๋งโต๊ะถูกนำไปเสียบประจานให้คนทุบตี ทิ่มแทง ขว้างปา และถ่มน้ำลายลดใส่ ตอนกลางคืนก็เอาน้ำมันใส่ท้องศพและเสียบไส้จุดเป็นตะเกียง ส่องแสงลิบหรี่วังเวง รุ่งขึ้นก็นำศพมากระทำย่ำยีเหมือนเดิมและทิ้งไว้ทางแยก รอให้แร้งกามาจิกกิน
ต่อมาเมื่อลูกน้องคนสนิทของตั๋งโต๊ะคือลิฉุยและกุยกีนำทัพเข้ายึดอำนาจคืนได้ จึงนำซากศพของตั๋งโต๊ะที่ยังเหลืออยู่ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ในขณะที่จะบรรจุกระดูกลงหลุม ได้เกิดฟ้าฝ่าลงมาทำให้กระดูกกระเด็นกระจัดกระจายไปทั่ว ในประวัติศาสตร์จีนกล่าวว่า “ฟ้าดินไม่ต้องการให้กระดูกของตั๋งโต๊ะฝังอยู่ให้เป็นมลทินของแผ่นดิน”
เป็นอุทาหรณ์ให้คนรุ่นหลังได้สำนึกว่า แม้จะยิ่งใหญ่คับฟ้าขนาดไหน แต่ในขณะที่มีชีวิตอยู่นั้นได้สร้างแต่ความชั่ว ทำร้ายผู้คนไปทั่ว ไร้เมตตาธรรม จึงมีแต่คนเกลียดชัง แช่ด่าไม่เว้นแต่ละวัน ครั้นเมื่อตายไปแล้วก็ยังไม่วายที่ศพจะถูกกระทำย่ำยี หยามเกียรติ สาปแช่ง ให้อับอาย”
“อ๋อ! อย่างนี้นี่เอง” คม หักศอก ร้อง และแสดงความเห็นเชิงสงสัยว่า “เศษกระดูกนิ้วก้อยตีนของตั๋งโต๊ะ อาจกระเด็นมาตกที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์บ้างก็ได้ จึงได้เกิดกลุ่มทรราชเข้ามากระทำย่ำยีบุคลากรของเราให้ได้รับความเดือดร้อน และต้องมานั่งสาปแช่ง กนด่าพวกทรราช เช้าเย็นไม่เว้นแต่ละวัน”
มีนา จัน ผงกศีรษะยอมรับ “อาจเป็นไปได้ แต่เอาเพียงสาปแช่ง กนด่า ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ก็พอเถอะ อย่าให้มากกว่านั้นเลยนะ คม หักศอก”
“สำหรับฉัน น่ะได้ แต่คนอื่นฉันไม่รับรองนะจะบอกให้ ฟ้าอาจจะผ่าลงมาก็ได้ ใครจะไปรู้” คมหัวเราะ “ฮึ ฮึ ฮึ”
….