วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2566
จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (โตวธม)
3
วันนี้ ผศ.ดร. La Ph บอกว่า “สะสมเงิน และทรัพย์สมบัติมากมาย..ไขว่คว้าอำนาจและเอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่นอย่างเมามัน แต่สุดท้ายก็เอาลาภ ยศ สรรเสริญ หรือทรัพย์สมบัติใดๆติดตัวไปไม่ได้สักอย่าง ยกเว้นบาปกรรมกองโตที่ก่อไว้กับผู้โชคร้ายทุกคน”
และนำคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ มาย้ำเตือน “โลกนี้ เป็นเพียง “ศาลาพักร้อนชั่วคราว” ของชีวิตที่เดินทางไกล ใยมาติด “ยึดครองโลก”กันเสียเล่า”
ส่วน ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล บอกว่า “ตามประสบการณ์ที่สั่งสม คนควรมีสติก่อน จึงจะเกิดปัญญา เมื่อมีปัญญา ก็มีความรู้ตามมา ส่วน สุจริต เป็นพฤติกรรม ที่คนดีควรมีคุณสมบัตินี้ ยิ่งเป็นผู้บริหาร ต้องมีภาวะผู้นำ ผู้นำต้องมีทศบารมี (ขออนุญาตให้ผู้เขียน บรรยาย ถ้ามีโอกาส) ส่วนธรรมาภิบาล เป็นหลักการบริหาร จัดการที่ธนาคารโลกกำหนดขึ้นใช้ ควบคู่กับการพัฒนา ในปี คศ. 1989 ถ้าความเข้าใจของคนทั่วไปจะใช้ หลักคุณธรรม จริยธรรม และหน้าที่ ศีลธรรมอันดีงาม นั่นแหละ ครอบคลุมการบริหารที่ดี แต่การหลงอำนาจ การยึดตนเอง เป็นศูนย์กลาง ทำให้การบริหารบิดเบี้ยว ทำให้เกิดเหยื่อใน ความลุแก่อำนาจมากมาย สังคมโลกนับวันก็จะ มีการบริหารแบบ ที่กล่าวมามากขึ้นเรื่อยๆ จนเยียวยาสังคมแบบนี้ ไม่ไหว ความพินาศ ก็จะตามมาในที่สุด”
ความจริงเรื่องของพวกเปรตที่มหาลัยสารขัณฑ์ เป็นเรื่องเลวทรามที่เลยเวลาจะมาอบรมสั่งสอนหรือเสนอแนะอะไรกันอีกแล้ว เพราะพฤติกรรมที่แสดงออกพวกมันเลวชาติ ชั่วช้าสามานย์จริงๆทั้งพี่ทั้งน้องตลอดจนข้าทาสบริวาร อยากได้อะไรหรือจะกลั่นแกล้งใคร ก็รวมหัวกับพวกเหี้ยสภาฯออกกฏระเบียบเป็นข้อบังคับขึ้นมาใช้ ได้ข่าวว่ามีไอ้ ศ.กะเดียว มันพูดดูถูกคนในท้องถิ่นว่าไม่รู้ บริบทของมหาลัย ผมได้ยินเขาพูดกันแล้วอยากกระตบกระโหลกแม่งมันจริงๆ ไอ้ชาติหมาเอ้ย!
“ครับพอแค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวไปใหญ่” ครับผม
….