จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (พุทธมนต์โอสถ)

วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (พุทธมนต์โอสถ)

18

พูดถึงโชคชะตา หรือเคราะห์กรรมที่เกิดขึ้นกับผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือโดนคดีความหลายต่อหลายครั้ง  ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องวิกฤตของชีวิตทั้งนั้น เช่น เรื่องถูกฟ้องหมิ่นประมาทคราวนี้  เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็จะพูดปลอบใจ  คนหนึ่งบอกว่า “ชีวิตมันต้องมีเรื่องราว ถ้าไม่มีเรื่องราว ชีวิตก็ไม่มีความหมาย” ส่วนเพื่อนอีกคนหนึ่งบอกว่า “มันเป็นสีสันของชีวิต เราต้องยอมรับในโชคชะตา รักมัน และอยู่กับมันให้ได้” 555 พูดนะ มันง่าย  ต้องเจอกับตัวเองนั่นแหละจึงจะรู้สึก และรู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างทิ่คิด ตอนที่ป่วย เป็นโรคกระเพาะปัสาวะอักเสบ ปวดมากเพราะฉี่ไม่ออก ปวดจนแทบจะทนไม่ไหว ตลอดทั้งกลางวันและตลอดคืน   นอนน้ำตาไหลพราก เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร สงสารตัวเอง ทุกข์ทรมานมาก พยายามคิดว่าเป็นเคราะห์กรรม  “เราต้องชนะมัน”  แต่ยากมาก ตอนนั้น คิดในใจว่าถ้ามีปืน ยิงตัวตายหนีปัญหาไปแล้ว แต่พอดีไม่มี และถ้ามีก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ก็ไม่รู้  แต่ในที่สุด ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ไม่ต้องบอกหรอกว่าดีใจและภูมิใจขนาดไหนที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้ายิงตัวตายไปตั้งแต่ตอนนั้น “ก็โง่ตายห่าเลย”

เวลาเจ็บป่วย ผมก็ทำแบบคนที่นับถือศาสนาพุทธทั่วไป ที่หวังจะอยู่รอดต่อไปให้ได้  ก็สวดสัมโพชฌังคปริตร 7 ครับ เพราะเป็นพุทธมนต์โอสถที่สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายได้  ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อพระมหากัสสปะ และพระโมคคัลลานะ กำลังอาพาธ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมสัมโพชฌงค์ 7  ทั้งสองท่านเมื่อได้ฟังก็หายจากการอาพาธ นอกจากนั้น ครั้งหนึ่งที่พระพุทธองค์ทรงประชวร จึงตรัสให้จินทะเถระแสดงธรรมโพชฌงค์ 7 พระองค์ก็ทรงหายจากพระอาการประชวร”

เวลาสวด ผมไม่ได้สวดแบบพระหรอกครับ ผมสวดเฉพาะคำแปล ท่อนเดียว คือ “สัมโพชฌงค์ 7 ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์ วิริยสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์  7 ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวง ตรัสไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ”

บทสวดหรือคาถาสัมโพชฌงค์ 7 นี้ ได้ย่อเป็นหัวใจคาถา เป็นอักษร 7 ตัวคือ  สะ ธะ วิ  ปิ  ปะ  สะ  อุ  ตอนผมป่วย เจ็บและปวดมาก ผมก็จะภาวนาหัวใจคาถา คือ สะ ธะวิ ปิ ปะ สะ อุ กลับไปกลับมาเป็นอนุโลมและปฏิโลม จนผลอยหลับไปได้  

ฉะนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะต้องมี สติ คือ ความระลึกได้ สำนึกพร้อมอยู่เสมอ มีธรรมวิจยะ คือ สอดส่องสืบค้นธรรม วิริยะ คือ มีความเพียรพยายาม  ปิติ คือ มีความอิ่มเอิบใจ ไม่เครียด  ปัสสันธิ คือ มีความผ่อนคลายสงบเย็นทั้งกายและใจ มีสมาธิ คือการมีใจตั้งมั่น จิตแน่วแน่ในอารมณ์ มี อุเบกขา คือ ความมีใจเป็นกลาง เพราะเห็นตามความเป็นจริง

และช่วงนี้ผมมีคดี ก็จะพยายามภาวนาสัมโพชฌัง 7 ประการ คือ  สะ ธะ วิ  ปิ ปะ สะ อุ  ซึ่งเมื่อปฏิบัติเช่นนี้ ผมก็มั่นใจได้ว่าจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยไม่ยาก

…..

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *