วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2565
จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์ (ปกติ)
20
อีแต้ม อธิการบดี ม.สารขัณฑ์ ตัวละครของผมนี่มันแสบจริงๆ หาเรื่องให้เขียนได้ทุกวัน วันนี้ก็มีหนังสือจาก จากไอ้ นะลงกลอน ศ.สากกะเบือ หรือ ศ.กะเดียว จาก ม.ขอนไม้ ประธานกรรมการสอบวินัย อาจารย์และพนักงาน รวม 9 คน เรื่องให้ไปรับทรายข้อกล่าวหา กรณีเขียนป้ายประท้วงอีแต้ม เมื่อหลายปีมาแล้ว ที่น่าสังเกตก็คือ ไอ้ ศ.กะเดียว เหี้ยตัวนี้ เป็นประธานสอบหญิงกล้าและตัดสินโทษให้ “ปลดออก” มาแล้ว มันเป็นทีมเหี้ยเดียวกัน ขอแช่งให้มัน “เจ็บปวด สูญเสียและทุกข์ทรมาน” ที่แช่งเพราะมันหาแดกกับการการทุบหม้อข้าวชาวบ้าน ระยำสุดๆ เป็นถึง ศ. สิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆ
มีเสียถามว่า “ทำไมต้องสอบวินัยอีกล่ะ ในเมื่อคดีนี้อีแต้มฟ้องศาลซึ่งพิพากษายกฟ้องไปแล้ว และศาลจะพิพากษาการอุทธรณ์ของอีแต้มในวันที่ 6 มกราคม 66 ที่จะถึงนี้”
คำตอบก็คือ “เรื่องคดีก็ว่ากันไป และเนื่องจากจำเลยเป็นข้าราชการและพนักงานมหาลัย เมื่อมีกรณีที่อาจขัดกับกฏระเบียบของ ม. ก็ต้องมีการสอบวินัยลงโทษกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ”
มีเสียงแย้งว่า “ทำไม ทีอีแต้ม ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย เช่น รักษาการเถื่อนถึง 3 ปี ไม่เห็นมีการตั้งกรรมการสอบวินัยเอาผิดเลย อย่างนี้มันไม่แฟร์นี่หว่า”
“ก็มันเรื่องไม่ปกติ”
เรื่องกฏหมาย วันนี้ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุลบอกว่า “ กฎหมาย ต้องปรึกษาผู้รู้ที่ไม่อคติ ถ้าไปเจอคนที่รับแต่เงิน ก็จะลำบาก เพราะเคยให้เงินไป สูญเปล่า ไม่ฟ้องให้ ไม่ติดตามแต่รับเงินไปก่อนเลย เสียทั้งเงินที่ให้เขายืม แล้วยังเสียเงินให้พวกเหลือบอีกด้วย ต้องระวังตัวไว้ด้วย อย่าทำเอง เพราะความรู้ ความเข้าใจเราไม่พอ และอย่าหลงเชื่อว่าคนนั้นเก่ง คนนี้เก่ง ต้องคุยดูว่า เชื่อใจได้แค่ไหนว่า จะทำเต็มที่หรือไม่ จะได้ตรงประเด็นและไม่เสียเงินและเสียเวลาฟรี”
นงนภัส ฮมภิรมย์ เสนอแนะว่า “แบบนี้น่าจะปรึกษากับคุณกรรชัย ในโหนกระแสเหมือนกับกล้วยราคาหวีละ 24,000 บาท นะคะ เผื่อมีทางออกหรือได้คำแนะนำที่ดี”
ผศ.ดร.ชลิดา “เขาเลือกเรื่องในกระแส และต้องเป็นพวกเขาด้วย ไม่ง่าย ต้องทนายหาแสงมั๊ง”
….