จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (ผมจะไม่ทำอีกแล้ว)

วันจันทร์ที่12 ธันวาคม พ.ศ. 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่สารขัณฑ์  (ผมจะไม่ทำอีกแล้ว)

วันนี้แดดร้อนอบอ้าวตับจะแตก แต่บรรยากกาศที่ ม. สารขัณฑ์ ช่วงสายๆอึมครึมมาก รู้สึกอึดอัด หายใจไม่ค่อยคล่อง  เหมือนมีเศษอาหารเข้าไปติดที่โพรงจมูก ขากถุยเท่าไรก็ไม่ยอมออก ตอนนี้ยังไม่ออกเลย เหี้ยเอ้ย!

“บ่นเรื่องอะไรล่ะ มีนา จัน”  คม หักศอก ถาม

“วันนี้ฉันได้รับบันทึกข้อความจากมหาลัย เรื่องคำพิพากษาและมติที่ประชุม กบค. เกี่ยวกับเรื่องต่อสัญญาที่จะปฏิบัติหน้าที่ ณ มหาลัยของแม่งมันต่อไป  เชื่อว่าเพื่อนๆที่เกี่ยวข้องคงได้รับบันทึกข้อความแล้วเหมือนกัน”

“เรื่องมันเป็นอย่างไรล่ะ เล่าให้ฟังซิ คม หักศอก ถาม

“ก็เรื่องอธิการแต้ม ให้ไปเขียนบันทึกแนบท้ายสัญญาสำหรับคนที่คดีถึงที่สุดแล้วไง  ชุดแรกนี่ 18 คน ซึ่งทุกคน ต่างมีคำถาม ข้อสงสัย ไม่สบายใจ  ไม่ต่างกับฉัน  แต่ฉันก็ไม่รู้ว่า พวกเขาจะพิจารณากันอย่างไรเกี่ยวกับเอกสารแนบท้ายนั้น แต่ก็ขอให้กำลังใจนะ ขอให้เราเชื่อมั่นในกันและกันเพื่อการรักษาสิทธิกลุ่มพนักงานมหาวิทยาลัยต่อไป”

“บันทึกแนบท้ายสัญญาจะส่งผลอะไรกับพวกเราโดยรวมบ้างล่ะ?” คม หักศอก ถาม

“บันทึกข้อความ ใช้คำว่า หากประสงค์จะรับเงินเดือนตามกำหนดต่อไป ให้มาเซ็นชื่อแนบท้ายสัญญา”

มีเสียกแทรก “ฉันก็อยู่ในกลุ่มที่คดีสิ้นสุดแล้วเหมือนกัน  และไปเซ็นเอกสารดังกล่าวมาแล้ว”

“เล่าให้ฟังซิ” คม หักศอก ถามเสียงแทรก

“ก่อนที่จะไปเซ็น ก็ได้รับแจ้งให้ไปร่วมประชุม ประมาณ 20 คน มีอีแต้มอธิการบดี และรองเท้าอันหยี๋อี๋ เป็นคนชี้แจง เนื้อหายาวมาก จำไม่ค่อยได้ สรุปว่า  การที่พวกเรายื่นฟ้องมหาลัยเรื่องเงินเดือน อธิการบดีอ้างว่า เป็นการสร้างความเสียหายให้กับมหาลัย อีกทั้งยังเป็นการฝ่าผืนกฏหมาย เพราะไม่ยอมรับเงินเดือนที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น และด้วยเหตุนี้ เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว หากมหาวิทยาลัยไม่ดำเนินการอะไรเลย ก็จะมีความผิดไปด้วย  ดังนั้น ฝ่ายบริหารจึงทำเอกสารฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นหลักฐานว่าทางมหาลัยไม่ได้ปล่อยปละละเลย โดยให้ทางเราซึ่งเป็นผู้ฟ้อง เซ็นรับทราบว่า “เข้าใจดีแล้ว จะไม่ทำอีก” และยินดีที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามอัตราเงินเดือนที่ตกลงกันไว้”

มีเสียงแทรกอีกว่า “ผมกำลังจะไปเซ็นอยู่ครับ”

“ดี ไปเซ็นซะ ถ้าไม่เซ็น ถือว่าไม่ปฏิบัติตามสัญญา มหาวิทยาลัยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างนะจะบอกให้” “ขนาดนั้นเลยหรือครับ  ปาดดดดดดด!”

และวันนี้ ผศ.ดร.La Ph บอกว่า “ความเกรงใจ เป็นสมบัติของผู้ดี” แต่คงไม่ใช่กับคนที่ทำให้รู้สึกอึดอัด เป็นกังวล ไม่ปลอดภัย เช่นเมื่อต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของนางแต้ม แต่บางคนก็เกรงใจและยอมทำตามคงเพราะได้ประโยชน์แลกเปลี่ยนมหาศาล เชื่อว่าน้องๆใน ม.สารขัณฑ์ส่วนใหญ่รู้สึกอึดอัดใจ อยากจะหลุดพ้นจากอิทธิพลของคนๆนี้ แต่เพราะความจำเป็นของครอบครัวก็ยอมๆไป จนนางได้ใจและคิดว่าตนเองและครอบครัวคือเจ้าของมหาวิทยาลัย คนที่มีมิจฉาทิฐิแรงกล้าแบบนางจะต้องเจอคนจริงคนกล้าบุกไปจับตัวและมัดให้แน่นนำไปขังคุกขี้ไก่ให้เข็ดหลาบ”

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *