จิปาถะ เรื่องสั้น จดหมายเหตุสารขัณฑ์ (บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ)

5
มีนา จัน ส่งเอกสารให้ คม หักศอก “เอ้า นี่ เอาไป จดหมายเหตุสารขัณฑ์” “ขอเอาไปเผยแพร่ได้ไหม?” “ตามสบายเลย” และนี่คือ จดหมายเหตุสารขัณฑ์
“ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ให้นางแต..เป็นผู้ขาดคุณสมบัติเนื่องจากมีอายุเกิน 60 ปี ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560 เป็นต้นไป นางแต.. จึงไม่ได้เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการแต่งตั้งอธิการบดี เพราะว่าศาลปกครองชั้นต้นได้ตัดสินแล้วว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น คือขาดคุณสมบัติตั้งแต่ขั้นตอนเสนอชื่อเพื่อรับการสรรหา
หมายความว่าคุณสมบัติของนางแต..ก็ต้องไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาตั้งแต่ต้น แล้ว ดังนั้น การที่สภามหาวิทยาลัยจะมาอ้างคำสั่งคสช. ซึ่งสั่งมา ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2560 เพื่อให้นางแต..รักษาการอธิการบดีต่อไปโดยอัตโนมัติและไม่ต้องมีการประชุมสภามหาวิทยาลัยเพื่อแต่งตั้งรักษาการอธิการบดีคนใหม่หลังจากที่นางแต..รักษาการอธิการบดีมาจนถึงวันที่ 15 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนด 180 วัน ตามคำสั่งสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ที่03/2560 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2560
แสดงให้เห็นว่าสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์มีเจตนาเล็งเห็นผลที่จะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยให้นางแต..ซึ่งเป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติในการเข้ารับการสรรหาอธิการบดี ได้รับประโยชน์และทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายโดยไม่ดำเนินการประชุมเพื่อแต่งตั้งผู้ที่ สมควรที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรักษาการอธิการบดีตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ถึงแม้จะมี กรรมการสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ บางท่าน ได้มีหนังสือถึงนายกสภามหาวิทยาลัยเพื่อให้สภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ดำเนินการประชุมเพื่อแต่งตั้งรักษาการอธิการบดีแล้วก็ตาม ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 157 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ฉะนั้น การที่มีกรรมการสภามหาลัยบางท่านอ้างว่าคำสั่ง คสช .มีศักดิ์เหนือกว่า พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏพ. ศ. 2547ไม่จำเป็นที่สภามหาวิทยาลัยต้องออกคำสั่งแต่งตั้งรักษาการอธิการบดี เป็นการกล่าวอ้าง ที่ไม่มีเหตุและผลเพราะในเมื่อนางแต..ไม่อยู่ในระหว่างการดำเนินการแต่งตั้งอธิการบดี เพราะศาลปกครองชั้นต้นตัดสินแล้วว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 แล้ว ดังนั้นการที่จะให้นางแต..รักษาการอธิการบดีโดยอัตโนมัติไม่ต้องมีคำสั่ง สภามหาวิทยาลัยนั้นเป็น การกล่าวที่เลื่อนลอยไม่มีข้อกฎหมายให้อำนาจให้สภามหาวิทยาลัยกระทำได้แต่อย่างใด แม้แต่คำสั่ง คสช.ที่นำมาอ้างก็ไม่เข้าเงื่อนไขตามข้อ 3 แต่ประการใด นับว่าได้สร้างแรงกดดันและความเครียดให้แก่กรรมการบางท่านซึ่งได้นำ เรื่องนี้ ไปปรึกษา สมาชิกในครอบครัวจนเกิดความเครียดทั้งครอบครัว จนทำให้สมาชิกของครอบครับบางท่านไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ จนถึงกับออกมาโวยว่าสามีหรือภรรยาตนเองไม่ได้กระทำอะไรผิด ทำดีทุกอย่างเพราะเป็นห่วง ที่สามีหรือภรรยาตั้งใจที่จะมาช่วยเหลือมหาวิทยาลัยแต่กลับต้องมารับโทษจำคุก โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อย่างนี้เขาเรียกว่า“เสียค่าโง่”เพราะอยากเท่
เลยกลายเป็นไอ่เห้… หางแดง
….