จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรต (เดี๋ยวมึงก็โดน)

วันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรต (เดี๋ยวมึงก็โดน)

31

เมื่อ 8 ปีที่แล้ว พวกเราคงจำกันได้ว่า นางแต้ม ตัวละครของผม หรืออธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ นางอยากเป็นอธิการบดีมาก และทุ่มสุดตัว นางกล่าวอย่างชัดถ่อยชัดคำต่อหน้าประชาคมชาวสารขัณฑ์ว่า “ดิฉันขอเป็นอธิการบดีเพียงสมัยเดียว” และวันนี้ ผ่านมา 8 ปีแล้ว นางก็ยังเป็นอธิการบดีอยู่ แสดงว่านางไม่มีสัจจะ หรือ อสัจ คำว่า สัจจะ วิกิพีเดีย ให้ความหมายว่า “ความสัตย์ ความซื่อ ถ้าขยายความตามศัพท์แยกได้ 3 ลักษณะคือ มีความจริง ความตรง และความแท้จริง คือ ตรง ไม่เล่น คือ ความประพฤติทางกาย วาจา ตรงไม่บิดพลิ้ว ไม่บ่ายเบี่ยง แท้ คือ ไม่เหลวไหล ตรงข้ามกับคำว่า อสัจ ซึ่งแปลว่า ไม่จริง บิดพลิ้ว”สรุปได้ว่า นางแต้มเป็นคนอสัจ นางจึงเป็นอะไรไม่ได้สักอย่าง แต่ที่แอบอ้างมาเป็นอธิการบดีได้ ก็เพราะร่วมมือกับสภาฯละเมิดกฏหมาย เหมือนพวกขับมอเตอร์ไซด์ย้อนศร ซึ่งผิดกฏหมาย แต่ถูกปล่อยปะละเลย เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นอันมาก และวันหนึ่งก็จะถูกตำรวจจับจนได้ นางแต้มก็เช่นกัน แอบอ้างมาเป็นอธิการบดี และใช้อำนาจที่ตัวเองไม่มี สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก แต่กฏหมายก็ยังเอื้อมไม่ถึง แต่ไม่วันใดวัก็นหนึ่งจะถูกดำเนินคดีและศาลพิพากษาให้ติดคุกจนได้เรื่องนี้ ผศ.ดร. La Ph แสดงความเห็นว่า “คนที่อยากเป็นอธิการบดีจนตัวสั่นงันงก จะวางแผนและหาวิธีที่จะเอาชนะคู่แข่งโดยไม่คำนึงถึงวัฒนธรรมองค์กรและหลักความถูกต้องใดๆ คนพวกนี้จะหาทางอยู่ในตำแหน่งนานจนรากงอกใช้อำนาจชอนไช ล้วงลูกและทำร้ายผู้ร่วมงานจนนับไม่ถ้วน ถ้าเป็นเจ้าของกิจการเองก็คงไม่มีใครสนใจ แต่นี่เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ “แต่ถูกคนพวกนี้ฮุบกิจการแบบเบ็ดเสร็จเพราะมีสภาฯเป็นหุ้นส่วน” และเสริมว่า “บทบาทของสภามหาวิทยาลัยดูใหญ่คับฟ้า ใครๆหลายๆคนจึงอยากจะเป็น ทั้งเป็นตำแหน่งโปรดเกล้าฯ สามารถขอเครื่องราชฯได้ และมีผลประโยชน์อื่นๆในมหาวิทยาลัยอีกมากมาย โดยเฉพาะการลงมติในการสรรหาอธิการบดีและผู้บริหารระดับคณะ/ สถาบัน/หน่วยงานเทียบเท่าคณะ ซึ่งการได้เข้ามาเป็นกรรมการสภาจึงเป็นบุญคุณที่ต้องทดแทนผู้ที่เสนอชื่อตนให้ได้เข้ามาเป็นฯอย่างเต็มอกเต็มใจ ดังนั้นจึงต้องช่วยกันตรวจสอบว่าสภาฯแถวสารขัณฑ์เป็นไปตามเกณฑ์และระเบียบฯหรือไม่ ทั้งประเด็นของสัดส่วนในสายวิชาชีพต่างๆ หรือเรื่องภูมิลำเนาของผู้ทรงฯ แต่ที่แน่ๆปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นคนของใคร พี่น้องใคร เพื่อนใคร จึงไม่แปลกใจเลยว่าผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากประชาคมด้วยคะแนนมากๆ ทำไมไม่มีชื่อ…เฮ้อ…และ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล สรุปว่า “ความอยาก ความโลภ ความไม่มี ปราบยากจริงๆ”…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *