วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2564
จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (โลภ)
9
มีคนถามนักเขียนว่า “ทำไมคุณเขียนบทผู้หญิงได้ดีจัง”
นักเขียนตอบสั้นๆว่า “ผมนึกถึงผู้ชาย แต่ตัดเหตุผลและคำอธิบายออกไป”
ถ้ามีคนถามผมว่า “ผู้ชายกับผู้หญิงใครจะมีความโลภมากกว่ากัน?”
ผมก็จะตอบแบบนักเขียนว่า “ทั้งหญิงและชายโลภพอกัน แต่ความโลภของผู้หญิงไร้เหตุผลและไร้คำอธิบาย”
ที่ผมนำเรื่องนี้มาเกริ่นนำก็เพราะว่า ผู้สันทัดกรณีท่านพูดถึงความโลภของผู้หญิงว่า
“นอกจากคุณปอสิตจะหมดสิทธิ์ที่จะเป็นอธิการบดีตลอดชีวิตและอาจติดคุกด้วยแล้ว ยังมีคุณ วรานุส (Varanus) อีกคนที่มีอนาคตสดใส ว่าที่อธิการบดีและพร้อมที่จะก้าวสู่ตำแหน่งอธิการบดีของ”มหาวิทยาลัยบ้านหนองโว้ง” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยใหญ่ที่สอนระบบมหาวิทยาลัยแบบลักปิดลักเปิดต้องพลอยเสียอนาคตไปด้วย หมดโอกาส ที่จะเป็นอธิการบดีและอาจถูกปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ หรือติดคุกด้วยเพราะเป็นช่วยหาทางช่วยเหลือคุณปอสิต จนทำให้การสรรหาอธิการบดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เพราะความโลภของผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ทำให้ท่านครกใจอ่อนไปกราบอ้อนวอนท่าน สมโม และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคนอื่นให้ช่วยเหลือโดยยอมกระทำผิดกฎหมาย ถึงแม้กรรมการบางคนพูดแบบอึดอัดใจและไม่เห็นด้วยเพราะว่า คุณปอสิต อายุยังน้อยยังขาดประสบการณ์แต่ตอนหลังไม่ทราบว่าได้รับแจกกล้วยไข่หรืออย่างไรไม่ทราบจึงหันมาสนับสนุนคุณปอสิตอย่างออกหน้าออกตา
เลยทำให้พลอยหมดอนาคตในการเป็นกรรมการสภา(เกาหลัง)อาชีพ ไปด้วย เพราะอาจถูกคำพิพากษาของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบสั่งจำคุก หรือแม้แต่เพียงตกเป็นจำเลยในการพิจารณาของศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ ก็คงไม่มีมหาวิทยาลัยไหน ที่จะเชิญเป็นกรรมการสภาต่อไปแล้ว เพราะเขากลัวมหาวิทยาลัยเขาเสียชื่อเสียงและอาจพาพวกเขาพลอยติดคุกไปด้วย”
….