ใครใหญ่

วิสุทธิ์  ตูน  23  มกราคม  2552

แนวหน้า วันที่ 21/1/2009
“สุเทพ”เฉ่งตำรวจ ล่าชื่อถอดถอนปปช. ผบ.ตร.ป้องลูกน้อง
เมื่อวันที่ 20มกราคม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ   รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาณ์ว่า ไม่เห็นด้วยที่ตำรวจรวบรวมรายชื่อเพื่อถอดถอนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)โดยอ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีที่ ปปช.ตรวจสอบเหตุสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ที่ปิดล้อมรัฐสภา เมื่อวันที่ 7ตุลาคม2551 เพราะไม่ต้องการให้เป็นปัญหาระหว่างหน่วยงาน ซึ่งทันทีที่ทราบเรื่องได้เตือนไปยัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แล้วว่า จะทำอะไรต้องอยู่ในกรอบ อย่าทำให้เหตุการณ์บานปลาย จนกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน

”การแสดงความเห็นของตำรวจ ก็เหมือนกับประชาชน แต่ไม่ใช่มายุยงให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) มีปัญหากับ ปปช.ผมยังไม่เห็นว่าตำรวจไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน ผลสอบของ ปปช.ยังไม่ออกมา อย่าตีตนไปก่อนไข้และเหตุการณ์7ตุลาฯก็ไม่เหมือนเหตุการณ์ที่เซ็นทรัล เวิลด์ ดังนั้นต้องรอดูข้อเท็จจริงก่อนและเรื่องนี้ไม่ได้กดดันการทำงานของ ปปช.หรือผม โดยเฉพาะผม ไม่ได้ผลอยู่แล้ว”นายสุเทพ กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีตำรวจนับพันนายลงชื่อยื่นถอดถอน ปปช.ว่า การร่วมลงชื่อดังกล่าว เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ตำรวจสามารถทำได้และไม่เป็นการกระทำที่ขัด หรือผิดระเบียบวินัยข้าราชการตำรวจแต่อย่างใด

ส่วนพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.กล่าวถึงกระแสข่าวอาจมีการโยกย้ายนายตำรวจระดับสูงบางคน ซึ่งถูกแต่งตั้งในสมัยรัฐบาลชุดก่อนที่อยู่คนละขั้วกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีรายชื่อ พล.ต.ท.สุชาติ รวมอยู่ด้วย ในวาระการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)วันที่ 21มกราคมนี้ ว่า ไม่ทราบรายละเอียด ผู้สื่อข่าวคงต้องไปสอบถาม พล.ต.อ.พัชรวาท เอาเอง เนื่องจากตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา มีหน้าที่รับคำสั่งเท่านั้น ล่าสุด ทราบว่า นายสุเทพ ออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่มีวาระดังกล่าวในการประชุม ก.ตร.วันที่ 21มกราคมนี้ ซึ่งคงต้องเชื่อตามนั้น

ขณะที่ นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ปปช.ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ปปช.ว่า วันนี้ที่ประชุมไม่ได้หารือเรื่องตำรวจล่ารายชื่อถอดถอน ปปช. ซึ่งการล่ารายชื่อดังกล่าวถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่สามารถทำได้และปปช.ก็พร้อมถูกตรวจสอบ ส่วนการไต่สวนคดีดังกล่าวเป็นการทำตามหน้าที่ ไม่มีอคติและขณะนี้ก็ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร เป็นเพียงขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานที่จะต้องเรียกผู้กล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา ตลอดจนคนกลางมาให้ปากคำ หากเห็นว่ามีความผิด ก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาแก้ข้อกล่าวหา หากไม่มีความผิด ก็ยกคำร้องไป ไม่ได้มีการชี้นำว่า ตำรวจมีส่วนร่วมในการทำให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิตในการสลายผู้ชุมนุมและไม่คิดว่าการล่าชื่อดังกล่าวจะทำให้เกิดการบาดหมางระหว่าง ปปช.และตำรวจ

ทางด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาน พธม.กล่าวว่า การล่ารายชื่อตำรวจเพื่อถอดถอน ปปช.นั้น ไม่ใช่ประเด็นเรื่องสิทธิ เพราะผู้เคลื่อนไหวเป็นคู่ขัดแย้งกับ ปปช.และกำลังถูก ปปช.ตรวจสอบการกระทำ ฉะนั้นการดำเนินการดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ ปปช.จึงเป็นการเคลื่อนไหวที่ขัดรัฐธรรมนูญ โดยเจตนารมณ์ลึกๆ ของนายตำรวจที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหว เป็นกลุ่มนายตำรวจการเมืองที่ได้ดิบได้ดีจากการรับใช้ระบอบทักษิณ และกำลังรู้ชะตากรรมที่ตัวเองก่อไว้ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอำนาจตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องน่าละอาย

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังสะท้อนความอ่อนแอทางนโยบายของรัฐบาลต่อการปฏิรูป สตช.โดยเฉพาะการส่งสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งต่อการเอาผิดกับนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์7ตุลาฯ

”นายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ ที่รับผิดชอบ สตช.ต้องเร่งส่งสัญญาณให้ชัดเจนต่อการจัดระเบียบและแนวทางปฏิรูป สตช.ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ กตช.วันที่ 21มกราคมนี้ โดยจะต้องมีสัญญาณที่ชัดเจนและเข้มแข็งกว่าที่เป็นอยู่ ไม่เช่นนั้นตำรวจที่เป็นลิ่วล้อระบอบทักษิณจะฮึกเหิมและไม่สนองนโยบายของรัฐบาลและขยายวงต้านรัฐบาลในที่สุด ถ้ารัฐบาลยังปล่อยเลยตามเลย บรรดาญาติๆและประชาชนที่บาดเจ็บ พิการและเสียชีวิตจากการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ จะไม่ได้รับความเป็นธรรมและจะเป็นจุดนับหนึ่งให้ข้าราชการที่ยังฝักไฝ่ระบอบทักษิณดื้อแพ่งต่อรัฐบาลในวงกว้างได้”นายสุริยะใส กล่าว


Comments are closed.