เรื่องสั้น หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน วิบากกรรม

a girls

จิปาถะ

เรื่องสั้น  หัวใจเปื้อนชอล์ก ตอน  วิบากกรรม

172

หลังจากวันที่นางแต้มมีอาการคลุ้มคลั่ง  ปรากฏว่า ท่านตึก แมลงมุมได้ย้ายตัวเองขึ้นไปอยู่ใต้โครงหลังคาที่สูกกว่าเดิม สร้างใยใหม่ให้พ้นมือนางแต้ม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  ส่วนท่านสุ แมลงสาบ ได้ตัดสินใจที่จะอพยพไปอยู่ที่อื่น ในขณะที่ครอบครัวแมลงสาบ พ่อ แม่ และลูกๆ กำลังเตรียมสัมภาระเพื่อเดินทางไปอยู่ที่อื่น  เพื่อนแมลงสาบ

ณ ชุมชนแมลงสาบใต้ถุนยุ้งข้าว ได้ร้องตะโกนถามขึ้นว่า

“ท่านสุ จะพากันไปไหนนั่น”

“จะย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วละ  เพราะที่นี่ไม่ปลอดภัย” ท่านสุ ตะโกน ตอบ

“ไม่ปลอดภัยอย่างไร” เพื่อนแมลงสาบทำท่าทางสงสัย  “ก็เห็นมีเพื่อนเป็นคน แถมตั้งชื่อให้เสียเพราะเชียว  “ท่านสุบรรณ ความหมายดีเสียด้วย” นอกจากนั้นยังมีอาหารการกินที่เขาแบ่งให้  สบายออกอย่างนี้แล้วจะพาครอบครัวไปไหนเสียละ”

“อย่ามาเรียนฉันว่าท่านสุอีกต่อไปนะ  ฉันไม่ต้องการชื่อนั้นอีกแล้วละ  เรียกฉันแมลงสาบเหมือนเดิมดีกว่า  เพราะอีบ้านั่นมันผีเข้าผีออก มันเป็นโรคจิต เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อยู่ดีๆก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที เมื่อวันก่อนฉันเกือบตาย  ดีนะที่นางสมมุติกระดาษว่าเป็นตัวฉัน กับท่านตึก แมงมุม  ถ้าฉันและท่านตึกอยู่ตรงนั้นจริงๆ ฉันไม่อยากจินตนาการ เราทั้งคู่คงมรณังไปแล้ว ฉันจึงคิดว่าฉันไปอยู่ที่อื่นจะดีกว่า”

“อย่ายอมแพ้ซิ ท่านสุ ขอโทษนะ ลืมไป  ต่อไปจะเรียกเพื่อนแล้วกันนะ  “เพื่อน” อย่ายอมแพ้ซิ พวกเราอยู่ที่นี่มานมนานแล้ว อยู่มาก่อนที่นางจะถูกจับมาขังไว้ที่นี่เสียอีก แล้วมันเรื่องอะไรเราจะต้องหนีไปอยู่ที่อื่น”

“แต่ มันอันตรายนะเพื่อน  เพราะเผลอเมื่อไร  นางอาจทุบตีเราถึงตายได้”

“จะไปกลัวทำไมกับความตาย จำไม่ได้รึ  ในภควัทคีตา กล่าวไว้ว่า  “มนุษย์มีทั้งร่างกายและวิญญาณ ร่างกายเน่าเปื่อยได้แต่วิญญาณนั้นเป็นอมตะ วิญญาณนั้นย่อมฆ่าไม่ตาย เมื่อร่างกายถูกฆ่า วิญญาณจะเปลี่ยนร่างใหม่ได้เช่นเดียวกับการเปลี่ยนเสื้อผ้า”(วยาส.2552:8) เราเป็นสิ่งมีชีวิต มีทั้งร่างกายและวิญญาณเช่นเดียวกับมนุษย์ ดังนั้น เราจะไปกลัวตายทำไม”

173

“เพื่อนรัก อยู่ที่นี่แหละ ไม่ต้องหนีไปไหนหรอก นางแต้มนั้น ไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลย นางเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง  ดังนั้น นางจึงเป็นคนน่าสงสาร เราจึงควรเมตตานาง  แต่นั่นแหละ ถ้าหากนางยังอาละวาดไม่หยุด และเป็นปัญหาต่อพวกเรามากนัก เราก็เพียงแต่รวมตัวกัน ไปเกาะอยู่ที่ข้างฝายุ้งข้าวให้เต็ม นางก็หายใจไม่ออกแล้ว” ..

“จำนิทานของท่าน เคาต์ ลีโอ ตอลสตอย  เรื่องนกกระจอกกับนกนางแอ่นได้ไหมล่ะ  เล่าให้ฟังใหม่ก็ได้  “มีนกนางแอ่นคู่หนึ่ง ทำรังอยู่ใต้หลังคาบ้าน วันหนึ่งทั้งคู่บินออกจากรังไปหาอาหาร  เมื่อกลับมาปรากฏว่ามีนกกระจอกเข้าไปยึดครองอยู่ในรังเสียแล้ว  มันโผล่หัวออกมาส่งเสียงร้องอย่างเพลิดเพลิน  นกนางแอนทั้งคู่พยายามขับไล่ แต่นกกระจอกก็ไม่ยอมไป ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสียอย่างนั้นแหละ

ต่อมานกนางแอ่นทั้งคู่ได้พาพวกๆมาดูพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของนกกระจอก  และก็พากันบินจากไป สักครู่หนึ่งพวกนกนางแอ่นได้พากันกลับมาอีก และได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่รังนั้น  บินกลับไปกลับมาหลายเที่ยว  สิ่งที่พวกนกนางแอ่นช่วยกันทำก็คือ ทุกตัวได้คาบสิ่งสกปรกมาวางที่ช่องทางออกของรัง จากนั้นก็คาบโคลนมาใส่ที่ละเล็กทีละน้อย จนช่องทางออกแคบลง ในระยะแรกก็พอมองเห็นหัวนกกระจอก  จากนั้นก็ไม่เห็นอะไรเลย  นกกระจอกถูกขังอยู่ในรังร้องเสียงลั่น” ฮ่า ฮ่า ฮ่า เพื่อนแมลงสาบหัวเราะ และพูดว่า “ถ้านางแต้มยังซ่านัก เราก็จะทำกับนางแบบนี้แหละ”

………….

กฤษณไทวปายนวยาส.(2552) อินทรายุธ (นายผี) แปล.ภควัทคีตา.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ศิวาลัย.

เคาต์ ลีโอ ตอลสตอย.ช่อเชอรี.แปลเรียบเรียง.(2543).นิทานอัมตะของตอลสตอย.กรุงเทพฯ : ดอกหญ้า

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *