วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564
จิปาถะ เรื่องสั้น โจรปล้นเงินเดือน (หยุดบ้าได้แล้ว)
15
มีเสียงถามถึงกรณี เงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัย 1.5/1.7 ที่ศาลปกครองสั่งให้มหาวิทยาลัยคืนเงินที่หักไว้ให้แก่พนักงานฯเรื่องนี้ไปถึงไหนแล้ว?
อ๋อ! เรื่องนี้เป็นอีกคดีหนึ่งที่นางแต้มและกรรมการสภาฯจะต้องไอ คุก คุก คุก พร้อมกัน เพราะเมื่อศาลฯสั่งให้คืนเงินเดือนที่หักเก็บไว้แก่พนักงานมหาวิทยาลัยพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งนางแต้มจะต้องปฏิบัติตาม แต่นางแต้มยึกยัก ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฯ เนื่องจากยังไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนพนักงานมหาวิทยาลัย ที่เหลือเก็บไว้อยู่ 100 กว่าล้าน สตง. ก็ทำหนังสือมาทวงคืน จึงตัดสินใจอุทธรณ์เพื่อประวิงเวลาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน แต่หารู้ไม่ว่า การประวิงเพื่อซื้อเวลานี้ “จะโดนหนัก” เพราะการหักเงินเดือนพนักงาน ศาลพิพากษาแล้วว่ามัน “ผิดกฏหมาย” และไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ เพราะทุกวันนี้ก็ยังหักเงินพนักงานมหาวิทยาลัยอยู่เป็นปกติ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงกล้าหาญชาญชัยอย่างนั้น เพราะเท่าที่ผมรู้คือ “นายจ้าง จะหักเงินเดือนลูกจ้างไม่ได้” คำถามก็คือ? “เป็นคนหรือเปล่า?”
ส่วนผู้สันทัดกรณี ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “เฉพาะคดีเกี่ยวกับเงิน 1.5/1.7 ของพนักงานมหาวิทยาลัยก็ติดคุกกันหัวโตแล้ว ทางที่ดีควรจะถือธูปเทียนแพไปกราบพนักงานมหาวิทยาลัยเสียก่อนเพื่อขอความเมตตา เผื่อลูกน้องจะมีเมตตาไม่ฟ้องคดีอาญา”
แต่ผมคิดว่ามีวิธีที่ทำได้ง่ายกว่านั้นคือ จ่ายเงินเดือนที่หักเขาไปตามคำสั่งศาลฯและจ่ายเงินเดือนทุกคนเต็มตามมติคณะรัฐมนตรีก็จบ ไม่เห็นจะยากเย็นอะไรเลย จะได้ไม่ต้องมาฟ้องร้องกันให้เสียเวลา เชื่อผมเต๊อะ! หยุดบ้าได้แล้ว.
ส่วนท่านสุชี๋ นายกสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ช่วยเตือนน้องแต้มหน่อย เดี๋ยวจะเตลิดไปใหญ่ เห็นมีคนบอกว่าเป็นช่วงขาลงของท่าน เพราะเริ่มสูญเสียอะไรไปหลายอย่างแล้ว ขืนไม่บันยะบันยัง ดีไม่ดีจะเปลี่ยนจาก “ขาลง”เป็น “ขาเข้า”นะจะบอกให้ เข้าอะไรรึ? ก็เข้าคุกนะซิ 555 ….