วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564
จิปาถะ เรื่องสั้น โจรปล้นเงินเดือน (นี่มันอะไรกัน)
7
(1)ตามคัมภีร์พระเวทที่ได้อธิบายไปแล้วนั้น เสาแกนพระอาทิตย์จะถูกตั้งขึ้นในตอนเช้า และถอนเก็บในตอยเย็นเป็นประจำทุกวัน โลกของเราจึงมีทั้งกลางวันและกลางคืน มีมืดและสว่าง ดำกับขาว ดีกับไม่ดี โลกนี้จึงดำรงอยู่เป็นปกติได้
ส่วนเสาแกนศีลธรรมที่ผมสมมุติขึ้นจากพฤติกรรมของผู้บริหารหรือกลุ่มทุรชนคนอุบาท ที่เข้ามายึดครองมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์อยู่และร่วมมือกันนางแต้ม ถอนรากถอนโคนเสาแกนศีลธรรมทิ้งไปแล้วนั้น ทำให้ที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ มีแต่ความมืดไม่มีสว่าง มีแต่ดำ ไม่มีขาว มีแต่ความชั่วร้าย ไม่มีความดี ความเป็นปกติจึงไม่มี จึงเชื่อว่าสถาบันการศึกษาแห่งนี้ ไม่น่าจะดำรงอยู่ได้ และคงจะล่มสลายลงในไม่ช้าก็เร็ว
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นและดำรงอยู่ได้อย่างไร เป็นคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เพราะมันขัดแย้งกับความรู้ความเข้าใจของเรามาตั้งแต่เกิดเมื่อจำความได้ มันตรงกันข้ามแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยที่เดียว จึงรู้สึกสับสน งุนงง หดหู่ใจ หมายความว่าเรื่องที่เคยคิดว่าตัวเองรู้และคิดว่าเข้าใจถูกต้องนั้นมันไม่ใช่ มันผิดหมด เช่น เราต้องละอายต่อบาป เราต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม เราต้องรับผิดชอบต่อสังคม เราต้องเคารพกฏหมาย[WP1] เราต้องเมตตากรุณา เราต้องไม่เบียดเบียนใคร ฯลฯ แต่นางแต้มปฏิบัติในลักษณะตรงกันข้าม เช่น เป็นรักษาการอธิการบดีโดยไม่มีคำสั่งแต่งตั้งก็ได้ กฏหมายให้รักษาการอธิการบดีได้เพียง 180 วัน แต่นางรักษาการอธิการบดีอยู่ถึง 3 ปีก็ได้
กระทำการจาบจ้วง พระบรมฉายาลักษณ์ก็ทำได้ ไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีก็ได้อีก ปล้นเงินเดือนพนักงานก็ได้ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย และนางก็ไม่ สะทกสะท้านอะไรด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ นางยังมีกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่ตอนนี้มั่นใจได้แล้วว่าไม่ใช่ผู้ทรงคุณวุฒิ แต่เป็นอันธพาลหรือกุ้ยข้างถนน คอยให้การสนับสนุน และที่สำคัญ ไม่มีใครทำอะไรได้ “นี่มันคืออะไรกัน”
มีเสียงบอกว่า ถ้าอยากรู้ก็โทรไปถามเจ้าตัวเขาซิ
……
รออ่านต่อ