วันอังคารที่ 19 มกราคม 2564
จิปาถะ เรื่องสั้น โจรปล้มเงินเดือน (คนละครึ่ง)
19
เมื่อวานนี้ผมได้เปรียบเทียบให้เห็นว่า นางแต้ม รักษาการอธิการบดีที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ซึ่งได้กระทำความผิดกฎหมายหลายมาตรา และมีโอกาสที่จะติดคุก เช่นเดียวกับ คดี ของนายดิสธร ซึ่งถูกพิพากษาจำคุก 5 ปี ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ-แจ้งความเท็จ-ฉ้อโกง แต่สารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน เพราะมีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกันกับนางแต้ม และได้ทิ้งท้ายไว้ว่า นอกจากนั้น นางแต้ม ยังได้นำดินที่ขุดจากโครงการก่อสร้างปี 63 ของมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ หลายโครงการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ บรรทุกรถออกไปจากมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ทราบว่านำไปที่ไหน (เขาว่ามีดินตกหล่นอยู่ตามที่ชาวบ้านด้วย) หากเป็นจริง ก็จะเข้าข่ายความผิดเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงเช่นดียวกันกับนายดิสธร และถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์” ด้วย
ปรากฏว่า เพื่อน fc ให้ความสนใจน้อยมาก เพราะคิดว่าผมโม้ ไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้าขโมยดินหลวงออกไปจากมหาวิทยาลัยได้ แต่ผมมีหลักฐานนะจะบอกให้!
เรื่องนี้ผู้สันทัดกรณีให้ความเห็นว่า “ดินหลวงติดคุกกันมาเยอะแล้วครับ บางคนก็ฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิดเพราะเห็นแก่ได้ ปกติดินที่ไหนก็จะอยู่ที่นั้น เช่น ถ้าดินในมหาวิทยาลัยก็ควรจะถมในมหาวิทยาลัยที่เป็นที่ลุ่ม หรือถ้าไม่มีที่ก็จะบริจาคให้ส่วนราชการอื่น นำไปใช้ประโยชน์
แต่ถ้าไปถมที่เอกชนก็ให้ตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น และจะนำมาซึ่งการฆ่าตัวตายเกิดขึ้นในไม่ช้าเมื่อความจริงปรากฏ”
มีเสียงถามว่า “ถ้า…”กรรม” เป็น “เหตุ” วิบาก เป็น “ผล”แห่งกรรม//// เช่นนั้นแล้ว โกงดินหลวง เป็น “กรรม” และ “ติดคุก” เป็น “วิบาก” ใช่ไหมครับ ?”และยังมีความเห็นว่า”คุก” ยังไม่ลดจำนวนคนลงเลยครับ”
มีเสียงตอบ “จะให้ลดได้อย่างไรครับ ในเมื่อ อธิการบดี นายกสภาและสภามหาวิทยาลัยกำลังรอต่อคิวเข้าคุกอยู่อีกประมาณ 30 คนครับ”
ก็ต้องคอยดูครับ ขนาดผมเพียงมีเศษกระเบื้องหลังคาโบสถ์วัด ซึ่งเป็นสมบัติของแผ่นดินไว้ในครอบครอง ยังเกือบโดนตะรางเลย แต่เนื่องจากผมไม่มีเจตนาเลยรอดมา สำหรับนางแต้ม ผมขอเสนอแนะว่า สารภาพซะ จะได้ลดลงกึ่งหนึ่ง แบบโครงการ“คนละครึ่ง เราชนะ”
…