จิปาถะ เรื่องสั้น โจรขโมยเงินเดือน (วงแตก)

วันอังคารที่ 22  ธันวาคม 2563

จิปาถะ  เรื่องสั้น โจรขโมยเงินเดือน (วงแตก)

22

มีเพื่อน fc อยากรู้ที่มาของคำว่าเวรตะไล จัดให้เลย ครับผม   

คำว่า เวรตะไล เป็นคำผสมของคำว่า “เวร” กับ “ตะไล”  คำว่า  เวร = ความพยาบาท ความปองร้าย ผูกใจเจ็บ บาป เช่น เวรของฉันแท้ๆที่ต้องมาพบนางแต้ม “อีตัวแสบ” เป็นต้น คำว่า ตะไล  = ดอกไม้ไฟชนิดหนึ่ง, ถ้วยกระเบื้องขนาเล็ก เรียก ถ้วยตะไล,  เป็นชื่อสมุนไพร ชาวราชบุรีเรียก ต้นคงคาเดือด สรรพคุณ เจริญอาหาร ลดไข้ ถ่ายพยาธิ ฯลฯ

ส่วนคำว่าไอ้กับอี เป็นคําประกอบคําอื่นเพื่อบอกให้รู้ว่าเป็นเพศชาย-หญิง หรือสัตว์ตัวผู้ สัตว์ตัวเมีย ฉะนั้น ทั้งไอ้เวรตะไล (ชาย) และ อีเวรตะไล (หญิง) คือ ผู้ที่มีความอาฆาตพยาบาท ปองร้าย ผูกใจเจ็บ บาป เป็นคนเลวชาติ

ปรากฏว่าที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ มีบุคคลที่มีพฤติกรรมแบบ “เวรตะไล” จิปาถะ เรื่องสั้น จึงนำคำว่า “เวรตะไล”มาใช้ด่าพวกเลวชาติทั้งหลาย  เช่น  ไอ้เวรตะไล   Kovid , หรือ นางแต้ม อีเวรตะไล เป็นต้น ซึ่งทั้งคู่เป็นคนชั่ว  มีความอาฆาตพยาบาทเป็นสันดาน ผูกใจเจ็บกับคนที่คิดต่าง  และหาโอกาศทำร้ายผู้ที่ขัดขืน ฉะนั้น ไอ้เวรหรืออีเวรตะไลก็คือไอ้ชั่วและอีชั่ว นั่นเอง

คำนี้มีที่มาที่ไปครับ  ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ มียักษิณี หรือยักษ์ผู้หญิงตนหนึ่ง ชื่อ “อากาศตะไล” เป็นเสื้อเมืองกรุงลงกา รักษาด่านทางอากาศ  เป็น 1 ใน 7 กองลาดตระเวณที่รักษากรุงลงกา หรือ นางอากาศตะไลเป็นผู้บัญชาการกองทัพอากาศ นั้นเอง

นางอากาศตะไล มีรูปร่างสูงใหญ่ มี 4 หน้า 8 มือ แต่ละมือถืออาวุธได้แก่  จักร พระขรรค์ ตรี คทา ง้าว ศร โตมร และค้อนเหล็ก กล่าวกันว่า นางเป็นตัวแทนของผู้หญิงเก่ง มีความสามารถ ชำนาญการสูง นางไม่มีสามี เพราะอะไรที่ผู้ชายทำได้ นางก็ทำได้ และอาจทำได้ดีกว่าเสียด้วย ดังนั้น นางจึงเป็นโสด และดำรงตำแหน่งเสื้อเมืองถึง 3 สมัย 3 แผ่นดิน แต่บางท่านบอกว่านางเป็น “ทอม”  เพราะนางเป็นยักษ์ที่มีบุคคลิกอย่างทอม คือร่างกายเป็นหญิง แต่จิตใจเป็นชาย ห้าวหาญในการรบ มีเพศสภาพแบบ หญิงรักหญิง มิใช่ ชายรักชาย” (ศิริพันธ์ อัฏฏะวัชระ)

“ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ยักษ์นั้นก็มี “ทอม”?  เหมือนกัน โง่จัง”

ส่วนคำว่า ตะไล ซึ่งเป็นดอกไม้ไฟชนิดหนึ่งนั้น ทำด้วยไม้ไผ่ มีปีกเป็นวงกลม (เรียกว่ากง)แกนทำจากท่อนไม้ลวก  (ปัจจุบันใช้ท่อน้ำ PVC แทน) ตอกติดกับปีกกลม ภายในแกนบรรจุดินปืนทำจากดินประสิวผสมถ่านหุงข้าว มีรูเสียบสายชนวนสำหรับจุด

ตะไล จะใช้จุดในงานประเพณีต่างๆ เช่นงานบุญบั่งไฟ เป็นต้น การจุดตะไลในงาน จะมีคนมามุงดูกันเต็มไปหมด เวลาจุดตะไล คนก็แตกฮือ เพราะไม่รู้ว่าตะไลจะหมุนไปทิศทางไหน แต่ตามปกติแล้ว จะหมุนลอยสูงขึ้นไปในอากาศ เมื่อดินปืนหมดก็ระเบิดและตกลงมา ความสนุกของคนดูคงอยู่ที่ต้อง “ลุ้น” ว่า ตะไลจะหมุนขึ้นฟ้าหรือหมุนมาหาคนดู ฉะนั้น ที่ด่ากันว่าเวรตะไลนั้น คงเป็นเพราะเวลาจุดตะไล คนจะแตกฮือ เข้าทำนองว่า ไอ้พวกเวรตะไล ไปที่ไหนเป็นวงแตกที่นั่น

ส่วนที่มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ผู้ดูก็กำลังลุ้นอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ลุ้นการจุดตะไล แต่ลุ้นว่าไอ้พวกเวรตะไลและอีเวรตะไล จะ “วงแตก” เมื่อไร?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *