จิปาถะ  เรื่องสั้น โจรขโมยเงินเดือน (ไอ้ อี ห้า เอ้ย!)

28

“คม หักศอก บอกว่า ผมอยู่ไกลเกินไป  จึงไม่ทราบว่า สภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ได้จัดการกับเรื่องที่คณาจารย์ได้ยื่นหนังสือเพื่อให้นางแต้ม รักษาการอธิการบดีที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้นเรื่องไปถึงไหน  แต่จากการเงี่ยหูฟังข่าวแบบกระท่อนกระแท่น และได้ติดตามเรื่องนี้มานาน จึงคาดการณ์ได้ว่า “พวกเขาก็จะเลือกครอบครัว” ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ ใครๆก็จะทำอย่างนั้น การที่จะโดดเดี่ยวใครสักคนในครอบครัว ที่ร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกันนั้น ไม่ใช่ของง่าย สรุปว่า ครอบครัวยังเหนียวแน่น พร้อมที่จะตายหมู่ แทนที่จะปล่อยให้ตายคนเดียว  แต่ผมยืนยันได้ว่า สุดท้ายก็ต้อง “ตายอย่างแน่นนอน” หมายความว่า ติดคุกแน่นอน ทั้งหมดนั่นแหละ  เพียงแต่ต้องรอเท่านั้น..

ที่ผมคาดการณ์อย่างที่กล่าวมา คือ สภาฯจะเลือกครอบครัว  คือ ให้นางแต้มอยู่รักษาการอธิการบดีต่อไป  เพราะว่ากรรมการสภาฯได้รวมหัวกันกำจัดกรรมการสภาฯที่เป็นตัวแทนอาจารย์และประธานสภาคณาจารย์ ไม่ให้อยู่ร่วมประชุมได้เรียบร้อยแล้ว  นอกจากนั้น  ยังได้มีการสั่งการให้เตรียมอุปกรณ์สำหรับดื่มกิน ในลักษณะที่เป็นการฉลองความสำเร็จกันอย่างเต็มที่ เนื่องจากได้ “เกรดทาง”ที่จะนำตัวเองไปสู่การได้อยู่รักษาการอธิการบดีต่อไปอีกเรียบร้อยแล้ว

แต่อย่าชะล่าใจ  ข่าวว่าน้องที่ถูก กรรมการสภาฯรวมหัวกันขัดขวางขัดขืนใจไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.สารขัณฑ์ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการ เตรียมออกหมายเรียกมาให้ปากคำต่อไป

ส่วน 9 สิงห์ 7 เสือ ซึ่งรู้อยู่ก่อนแล้วว่า เรื่องจะลงเอยแบบนี้ จึงไม่ซีเรียสอะไร การประชุมเมื่อวานจึงเป็นเพียงสัญญาณเตือนว่า “เราให้โอกาสพวกท่านแล้วนะ”เพราะได้เตรียมฟ้อง มาตรา 157 ที่ศาลอาญาคดีทุจริต เมืองประทายสมันต์ ไว้แล้ว ต่อไปก็จะพบกันในศาลฯเท่านั้น

ที่นี้แหละครับ ทั้งนางแต้ม นายกสภาฯและกรรมการสภาฯที่รวมหัวกันเป็นครอบครัว จะต้องกระอักเลือด เมื่อศาลฯประทับรับฟ้องและไม่อนุญาตให้ประกันตัวทั้งหมด เพราะเกรงว่าจะกลับไปสร้างวีรกรรมที่เลวร้ายต่อไปอีก อย่าลืมนะครับ

“เมื่อข้างขึ้นหมดไป ข้างแรมก็จะตามมา” จำไว้ให้ดี พวกไอ้ อี ห้า เอ้ย!”

….