จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่กำแพง (countdown)

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2564

จิปาถะ เรื่องสั้น เหตุเกิดที่กำแพง (countdown)

14

จากวันนี้ที่ 14 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564  รวมทั้งหมด 17 วัน ผมจะเริ่มนับถอยลัง (countdown) เพราะผู้สันทัดกรณีแจ้งมาว่า  “วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ถือว่าเป็นวันสำคัญของประชาคมชาวมหาวิทยาลัยกำแพงมณีและกรรมการสภาจำนวน 10 คน ซึ่งทุกคนมีใจจดจ่อกับข่าวสำคัญจากศาลอาญาเมืองสองแควว่า ศาลจะมีคำสั่งว่าจะรับไต่สวนมูลฟ้อง หรือจะยกฟ้อง

ถ้าข้อกล่าวหามีมูลก็จะสั่งให้มีการไต่สวนมูลฟ้อง  ถ้าไม่มีมูลก็จะสั่งยกฟ้องเลย

เมื่อมาพิจารณาถึงกรณีการสรรหาอธิการบดีของมหาวิทยาลัยกำแพงมณีแล้ว กรรมการทั้ง10 คนย่อมรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าได้กระทำผิดหรือไม่ เพราะทุกขั้นตอนของการสรรหา เป็นพฤติกรรมที่ฝืนธรรมชาติ  เป็นการเจตนา เพื่อจะช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นพิเศษจึงทำให้เกิดข้อพิรุธต่างๆที่นำมา ให้ถูกโทษจำคุก ดังนี้

     1.กรรมการสรรหาไม่มีการกำหนดคะแนนในแต่ละด้านให้ผู้เข้ารับการสรรหา

     2.การกำหนดคะแนนภายหลังที่มีการหยั่งเสียงประชาคมแล้ว เพื่อประโยชน์ของผู้เข้ารับการสรรหาบางคน

    3.คะแนนด้านการมีส่วนร่วมและการยอมรับของของสังคมต่ำเกินไปซึ่งเป็นการขัดเจตนารณ์ของกฎหมาย

   4.ผู้เข้ารับการสรรหา ทั้ง 3 คนได้คะแนน 85 คะแนนเท่ากัน ทั้งๆที่คุณสมบัติ ทั้ง 3 คนแตกต่างกัน อย่างชัดเจน

     5.ในระหว่างการสรรหา ปรากฏว่า มีกรรมการสภาฯ บางคน ได้โทรศัพท์ขอคะแนนสนับสนุนผู้เข้ารับการสรรหาบางคนเป็นพิเศษ

     6.การเสนอรายชื่อผู้เข้ารับการสรรหาให้ สภาพิจารณา มีเพียงกระดาษบันทึกเพียงใบเดียวเท่านั้น ไม่มีเอกสารอื่นใดมาประกอบการพิจารณาเลย

   7.นายกสภาเห็นแล้วว่ามีเพียงบันทึกของประธานสรรหา แทนที่จะมีคำสั่งให้กรรมการสรรหากลับไปดำเนินการมาใหม่ หรือชะลอการสรรหากลับปล่อยให้มีการลงมติเลือกอธิการบดีต่อไป

    8.กรรมการสภาก็มิได้มีการพิจารณาใดๆคุณสมบัติของผู้เข้ารับการสรรหาแต่อย่างใดเพราะไม่มีเอกสารประกอบการพิจารณา จึงได้ลงมติทันทีและไม่มีการซักถามกรรมการสรรหาแต่อย่างใด

    9.การลงมติ กรรมการ จำนวน 10 คน มีธงคำตอบว่าจะเลือกใครมาแล้วจึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาจากเอกสารที่ประกอบก็ได้

   10.หลังจากลงมติก็มีเสียงคัดค้านจากกรรมการเสียงข้างน้อยที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการสรรหา จึงมีการคัดค้านจนไม่สามารถรับรองการประชุมได้

  11.การรับรองรายงานการประชุมในวาระดังกล่าวต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนเศษ แสดงให้เห็นว่า การสรรหาและการลงมติ  มีปัญหาทางข้อกฎหมายแน่นอน

   จากข้อพิรุธดังกล่าวทั้ง 11 ประเด็น ชี้ให้เห็นว่า  กรรมการทั้ง 10 คน ได้กระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

     เรื่องนี้หมอดูพอจะทำนายได้ว่าในวันที่ 1 พฤศจิกายน  จะวันที่โชคร้ายของกรรมการ ทั้ง10 คนแน่นอน

…..

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *