วันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2564
จิปาถะ เรื่องสั้น อีแสบ (ผิดพิมพ์ ทุบทำลายทิ้งให้หมด)
24
ขอนำเสนอความคิดเห็นของ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล และผู้สันทัดกรณี ครับผม
ชลิดา : “อ่านครั้งแรกนึกว่าผู้เขียนพิมพ์ผิด ที่แท้ ผิดพิมพ์ วันนี้เมื่ออ่านข้อเขียนแล้ว ก็อยากพูดเรื่องที่คนในสังคมส่วนใหญ่ชอบเป็น คือ การหลงผิด มีคนบางคนเข้าใจผิด คิดว่า การทำความดีสั่งสม ด้วยวิธีการแบบนักเล่นกอล์ฟสมัครเล่นตามที่ผู้เขียนกล่าวไว้ เป็นบุญวาสนาที่ได้รับมา แต่ก็เข้าใจนะ คนบางคนที่ว่ามักจะเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์โดยทางตรง หรือทางอ้อม ก็ย่อมร่วมยินดีปรีดาเป็นธรรมดา แต่การหาวิธีการทุกรูปแบบ ให้ได้มาซึ่งลาภ ยศ สรรเสริญที่ผิดทำนองคลองธรรม คนอื่นมองว่าไม่ดี แต่พวกมีผลประโยชน์ร่วม ต้องเห็นกลับกันว่าเป็นดี ซ้ำร้ายกลับคิดว่าผู้อื่นที่เตือนสติหรือวิพากษ์การกระทำดังกล่าว เป็นคนที่มีความอิจฉาริษยา ไม่พอยังหาเรื่องด้วยการยุยงให้ผู้อื่นช่วยกล่าวร้าย ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จอีกด้วย
#คนเวลาตาบอดใจบอด ก็มักจะมองเงาในน้ำแล้วคิด ว่าคนอื่นก็เหมือนเงาตัวเอง ช่างน่าอนาถใจนัก
ผู้สันทัดกรณี : ปกติพระผิดพิมพ์ สมัยโบราณจะต้องทุบทำลายทิ้งให้หมดไม่เหลือซากไว้ หากใครเก็บรักษาไว้ก็จะพบแต่สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ในชีวิตเช่นเดียวกันถ้าเป็นอธิการบดีผิดพิมพ์ก็ก็จะเกิดเหตุเลวร้ายในมหาวิทยาลัย ทั้งนักศึกษาและอาจารย์ก็จะพบแต่ความเดือดร้อน มีแต่ความทุกข์ มีเรื่องคดีความถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล จนวุ่นวายกันไปหมด
ดังนั้น ที่มหาวิทยาลัยกำแพงมณีให้ดู มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์เป็นตัวอย่าง ว่าต่อไปก็จะเกิดสภาพความเลวร้ายและจะอยู่กันไม่เป็นสุขแน่นอน เพราะว่าการสรรหาอธิการบดีไม่ชอบธรรม จึงทำให้เริ่มเห็นเค้าอธิการบดีผิดพิมพ์ จึงควรกำจัดหรือทำลายทิ้งตั้งแต่ต้น เพื่อไม่ให้เป็นกาลกิณี แก่มหาวิทยาลัย และสร้างความเดือดร้อนขยายวงกว้างจนยากต่อการแก้ไขแก่ประชาคมดังที่เกิดที่ มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ในปัจจุบัน
ชลิดา : จริงค่ะ ของที่ผลิตแล้ว defective ถือว่าเป็น 0 ค่ะ
….