วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2564 (กรอบเช้า)
จิปาถะ เรื่องสั้น อีเปรต (สำนึกบ้างไหม)
4
“อย่าพายเรือให้โจรนั่ง” หรืออย่าช่วยเหลือสนับสนุนคนไม่ดี เป็นสำนวนที่สอดคล้องกับพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ที่ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2512 “ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”
กรณี มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ คงจะเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า การปล่อยให้คนชั่วมีอำนาจนั้น ได้สร้างความเดือนร้อนให้กับผู้คนได้มากมายขนาดไหน เรื่องนี้ ผศ.ดร.ชลิดา ภัทรศรีจิรากุล แสดงความเห็นว่า “คนไม่ดี ดูพฤติกรรม 2-3 อย่าง ก็ดูออกแล้ว บางทีเข้าใกล้ ก็รู้ แต่มีบางคน วางแผนเฟคได้แนบเนียนเพื่อผลบางอย่าง พอสำเร็จแล้วทีนี้จะปล่อยรังสีความเป็นตัวตนที่แท้จริงออกมา คนจะรู้ ไม่รู้ อยู่ที่ตัวเอง ถ้าปิดหู ปิดตา ปิดใจ ก็ช่วยไม่ได้ บางคนอาจจะสงสัย ทำไมเฟซนี้ คนเม้นท์แต่ละคน แรงจัง แสดงว่า ไม่ได้รับรู้พฤติกรรมที่แท้จริง คงได้รับแต่พฤติกรรมปรุงแต่งนั่นแหละ กระบวนการปั้นเฟค ขนาดเราเองชอบวิเคราะห์ ยังหลงเชื่อไประยะหนึ่งเล้ย ขำตัวเอง ทำไมกรูโง่จัง
ผู้สันทัดกรณี แสดงความเห็นว่า “กิเลสเป็นเรื่องยากที่จะปลง ยิ่งได้ ยิ่งติดใจ เรื่องพายเรือให้โจรนั่งเลยเป็น เรื่องปกติไปโดยปริยาย สังเกตดู ธรรมชาติคนที่ จะสำนึกเรื่องความดี ความชั่ว บุญ บาป กรรมดี กรรมชั่วมักจะสำนึกเมื่อเห็นโลงศพ บางคนก็ไม่สำนึกจนวาระสุดท้าย คงเป็นเรื่องของบุญ กรรม ธรรมแต่ง ไม่มีใครช่วยใครได้เลย ถ้ายังหลงระเริงในกรรม
คุณ พี พี จาก กำแพงมณีแสดงความห่วงใย “ต้องรอให้เรือล่มกันก่อนหรืออย่างไร ถึงจะรู้ตัวว่าพายเรือให้โจรนั่ง ดูแล้วแม่น้ำนี้เชี่ยวกรากทีเดียว นิสัยโจรก็คือโจรถึงเวลามีภัยจวนตัว กลัวโจรจะถีบฝีพายตกเรือก่อน. ที่สำคัญโจรได้ยกปล้นมหาลัยไว้กับตัว ถ้ามัวปิดหูปิดตาปิดใจกัน เรือล่มขึ้นมา มหาลัยก็พลอยดำดิ่งจมต่ำไปด้วย”
ผู้สันทัดกรณีสรุปว่า “ถ้าดูจาก”โมเดลอย่าร่วมกับโจร”ซึ่งมีขั้นตอน 5 ขั้นตอน ผู้เขียนหนังสือใช้เวลาใน 4 ขั้นตอนอยู่หลายปีมากจึงจะมาถึงขั้นตอน” จงสละเรือโจร”
ฉะนั้น ขอให้ fcใจเย็นๆ เพราะคนที่อ่านตำราแล้วนำไปปฏิบัติอาจต้องใช้เวลานำไปปฏิบัติให้เห็นผลถึงขั้นสูงสุดอาจต้องใช้เวลาเป็น 2 เท่าของเจ้าของทฤษฎีก็ได้ เพราะคนที่มาเรียนอาจมีวุฒิภาวะ ความเข้มแข็งของสมาธิน้อยกว่าผู้เขียนตำรามาก
“เป็นอันว่า ต้องใช้เวลา” ….