จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (เปลี่ยนโหมด 3)

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม  พ.ศ. 2564

จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (เปลี่ยนโหมด 3)

17

“คม หักศอก ฉันยังสงสัยและยังงงกับมติคณะรัฐมนตรี แกช่วยอธิบายให้กระจ่างหน่อยซิ อย่างน้อยคุณปอสิตจะได้มั่นใจว่าจะสู้แบบไหน สู้ในแบบที่แกว่า, ในแบบที่ผู้สันทัดกรณีเสนอแนะ หรือ จะสู้ในแบบคนมี “บุญมาก”สนับสนุน หรือว่าจะถอยดี”

“ถูกต้อง การต่อสู้เป็นเรื่องของการเสียสละ เมื่อจะเริ่มต้น เราต้องมั่นใจว่า “เราพร้อมที่จะเสียสละอะไรบ้าง ถ้าไม่พร้อมก็อย่าไปยุ่ง…

สำหรับมติคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องของกฏหมาย และกฏหมายเป็นเรื่องของการตีความ ซึ่งการตีความนั้นจะต้องตีความให้ถูกต้องตรงตามเจตนารมณ์ของกฏหมาย ซึ่งแกก็รู้ว่าฉันไม่ใช่นักกฏหมาย  ฉันเป็นครูวาดเขียน ฉันก็จะว่าของฉันแบบครูวาดเขียน ลองฟังดูก็แล้วกัน

มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19  ธันวาคม 2549 ส่วนสำคัญอยู่ตอนท้ายที่ระบุว่า “ทั้งนี้ให้สถาบันอุคมศึกษาดังกล่าว(มหาวิทยาลัย) กำหนดจำนวนบุคคลที่จะจ้างและอัตราค่าจ้างได้ตามเหตุผลความจำเป็น โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัยและอยู่ภายในวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร”

หมายความว่า มหาวิทยาลัยสามารถกำหนดจำนวนบุคคลที่จะจ้าง และอัตราค่าจ้างได้ตามเหตุผลความจำเป็น” ข้อความตรงนี้เป็นเหตุให้พวกโจรห้าร้อยที่ “พร้อมปล้น” เงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัย  ตีความแบบโจรว่า ไม่จำเป็นต้องจ้างตามวุฒิ  จึงปรากฏคำกล่าวของไอ้เวรตะไล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ ความว่า “เราจ่ายให้แค่นี้แหละ ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ต้องไปที่อื่น” ไอ้ชั่ว ไอ้เวรตะไลเอ้ย! ไม่อยากพูดถึงมันเลย มัน ฮีท”

“แล้วความจริงเป็นอย่างไร ฉันยังไม่เข้าใจ?”

“ความจริงก็คือ ไอ้พวกโจร 500 ร้อย ปล้นเงินเดือนพนักงานมาแล้วเป็นเวลาเกือบ 20 ปี เดือดร้อนไปตามๆกัน จนเรื่องไปถึงศาล แต่ยาวนานมาก แต่สุดท้ายพนักงานฯก็ชนะ แกลองมาดูคำวินิจฉัยของศาลปกครองเมืองโคราชาในเรื่องนี้ดู

“ แม้มติคณะรัฐมนตรีข้างต้นจะให้อำนาจผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (มหาวิทยาลัย) สามารถใช้ดุลพินิจกำหนดจำนวนบุคคลที่จะจ้างและอัตราค่าจ้างได้ภายในวงเงินที่ได้รับจัดสรรโดยได้รับความเห็นชอบจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (สภามหาลัย) ก็ตาม แต่คงมีหมายความเพียงให้อำนาจผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในการกำหนดจำนวนบุคคลที่จะจ้างและอัตราค่าจ้างตามตำแหน่งที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1(มหาวิทยาลัย) ประสงค์จะจ้าง ซึ่งอัตราค่าจ้างย่อมแตกต่างกันไปดามตำแหน่งที่ประสงค์จะจ้าง “หาได้หมายความว่าจะกำหนดอัตราค่าจ้างของพนักงานมหาวิทยาลัย สาย ก ให้ต่ำกว่า 1.5 เท่า หรือสาย ข ให้ต่ำกว่า 1.5 เท่า

ได้แต่อย่างใดไม่”

เห็นหรือยังว่า “ได้พวกโจร 500 มันเลวขนาดไหน ที่ ม. สารขัณฑ์ ขนาดศาลพิพากษาแล้วว่าให้จ่ายคืนทั้งต้นและดอก  แม่งมันยังไม่ยอมจ่ายเลย เหี้ยสุดๆ

ส่วนที่มหาวิทยาลัยกำแพงมณี คุณปอสิต จะอยู่รักษาการได้ไม่ถึง 180 วัน จะถูกร้องเรียนเรื่องเงินเดือน 1.5/1.7 และถูกตั้งกรรมการสอบสวน มีโทษทางวินัย เพราะไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ฉันว่า ไม่ถูกปลดออก ก็ถูกไล่ออกอย่างแน่นอน และที่สำคัญ ฉันจะไม่เตือนคุณอีกแล้วนะจะบอกให้ คม หักศอก สำทับ

….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *