วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2564
จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (เปลี่ยนโหมด 2)
15
เมื่อวานนี้ เรื่องมาถึงตอนที่ มีนา จัน ถามคม หักศอก ว่า “ถ้าคุณปอสิตไม่ทำอย่างที่แกว่าละ จะทำอย่างไร?”
อ๋อ! เธอก็จะโดนประชาคมเกลี่ยดชังมากยิ่งขึ้น และหาทางให้เธอหลุดจากตำแหน่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ รวมทั้งฉันด้วย ซึ่งเรื่องนี้ผู้สันทัดกรณีได้ขีดเส้นให้เธอแล้วว่า เมื่อถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2564 เธอรักษาการมาครบ 180 วัน ก็จบ แต่สำหรับฉัน คิดว่าเธอไม่น่าจะอยู่ได้นานขนาดนั้น เพราะฝ่ายตรงข้ามก็จะทำบันทึกให้สภาฯและรักษาการอธิการบดีจ่ายเงินเดือน 1.5/1.7 ให้พนักงานเต็มตามมติคณะรัฐมนตรี โดยมีคำพิพากษาของศาลปกครองทั้งศาลชั้นต้น และศาลสูงสุดเป็นหลักฐาน และฉันคิดว่า สภาก็คงไม่สนใจ เหมือนกับมหาวิทยาลัยของรัฐอีกหลายแห่งที่ไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
แต่ก็ไม่เป็นไร ประชาคมอาจจะฟ้องศาลปกครองคดี 1.5/1.7 เพื่อสู้คดีกันไป ซึ่งสุดท้ายผ่ายบริหารก็แพ้ แบบ มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ และเชียงใหม่
แต่ประเด็นสำคัญมิได้อยู่ตรงนั้น ประเด็นอยู่ที่คุณปอสิตจะถูกร้องเรียนเรื่องเงินเดือน 1.5/1.7 ไปยัง กระทรวง อว. ว่าเธอไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เธอจะถูก กระทรวง อว.ตั้งกรรมการสอบสวนในฐานมีความผิด พรบ.ระเบียบข้าราชการฯ ม.39 ซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนในวรรค 4 ว่า “ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย ระเบียบ แบบแผนทางราชการ “มติคณะรัฐมนตรี” หรือนโยบายของราชการ และในวรรค 5 “การปฏิบัติราชการโดยจงใจ หรือประมาทเลินเล่อไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย ระเบียบ แบบแผน ของราชการ “มติคณะรัฐมนตรี” หรือนโยบายของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง “เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง” ซึ่งมีโทษทางวินัย ตามมาตรา 48 ใน 5 สถาน คือ 1)ภาคทัณฑ์ 2) ตัดเงินเดือน 3) ลดขั้นเงินเดือน 4) ปลดออก 5) ไล่ออก ”
“แล้วทีนางแต้ม ไม่เห็นถูกตั้งกรรมการสอนสวนเลยล่ะ” มีนา จัน แย้ง
“ก็เพราะนางไม่ได้เป็นข้าราชการพลเรือนนะซิ”
“อย่างนี้ก็เท่ากับประชาคม ทุบหม้อข้าวคุณปอสิตนะซิ อุ้ย!โหดร้าย”
“ไม่ใช่ เธอหาเรื่องทุบหม้อข้าวตัวเองต่างหาก”
“แต่ฉันว่ามันไม่ง่ายอย่างที่แกคิดหรอกนะ เพราะเรื่องนี้ใหญ่มาก คุณปอสิตทำคนเดียวไม่ได้ จะสู้สภาเขาได้รึ?”
“ทำไมจะไม่ได้ เสียงในสภาจากอาจารย์ประจำก็ 4 เสียงแล้ว รวมประธานสภาคณาจารย์ฯอีก 1 เป็น 5 และจากฝ่ายบริหารซึ่งก็มีรองฯและคณบดีคณะต่างๆเธอก็เลือกคนที่เห็นด้วยกับเธอแต่งตั้งให้เป็นกรรมการสภา อีก 4 เสียง แล้วก็ลอบบี้จากผู้ทรงคุณวุฒิ อีก 2-3 เสียงก็ลอยลำแล้ว ที่สำคัญกรรมการสภา มามหาวิทยาลัยเดือนละครั้ง เธออยู่ตลอด และมีประชาคมหนุนหลังอีกทั้งมหาวิทยาลัย แนวร่วมอีกเพียบ รับรอง เรื่องนี้กินขาด ขอให้จำคำที่แม่ซินเดอรเรลล่าสอนไว้เท่านั้น “ต้องซื่อสัตย์ และกล้าหาญ”
….
ยังไม่อยากจบ รออ่านต่อครับผม