วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2564
จิปาถะ เรื่องสั้น อีเถื่อน (เปิดหูเปิดตา)
25
คดีรักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์แจ้งความจับนักศึกษา ตำรวจเลื่อนวันนัดจากวันนี้ไปเป็นวันพุธที่ 7 กรกฏาคม 2564 ครับ
ผมคิดว่าดีแล้ว พอให้ได้หายใจโล่งอีกนิด เพราะวันที่ 28 มิถุนายน 2564 จะมีการประชุมสภามหาวิทยาลัย ซึ่งผมคิดว่า น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบ้าง ที่จะส่งผลดีกับนักศึกษาทั้ง 5 คน เพราะถึงขนาดแจ้งจับนักศึกษาของตัวเองแล้ว ก็คงจะหาความชอบธรรมอะไรไม่ได้ที่จะอยู่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีของสถานศึกษาแห่งนี้อีกต่อไป
สำหรับสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ คงถึงเวลาแล้วครับ ที่จะถอดระเบิดเวลาที่ซุกไว้นานแล้วออกไปเสียก่อนที่มันจะระเบิดตูมตามขึ้นมา โดยการจัดการสรรหาอธิการบดีคนใหม่ที่ถูกต้อง ตามกฏกติกา ที่ประชาคมยอมรับ อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและโปร่งใส เพื่อมหาวิทยาลัยจะได้เดินหน้าต่อไป
แต่ถ้าสภาฯยังเห็นต่าง โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น สนใจแต่ความต้องการของนางแต้มอย่างเดียว คือ “ฉันต้องการเป็นอธิการบดี เท่านั้น ใครอย่ามายุ่ง” ก็เป็นเรื่องเหลือบ่าฝ่าแรงของผมจริงๆ ช่วยไม่ได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
คำถามก็คือ “ทำไมนางแต้มถึงจะเป็นอธิการบดีต่อไปไม่ได้ มันเสียหายตรงไหน?”
คำตอบคือ “มันเสียหายมามากแล้ว เพียงแต่ขอให้หยุด มันเกินไปแล้ว” เพราะนางมีพฤติกรรมที่ขัดต่อการเป็นอธิการบดีจริงๆ ขอยกตัวอย่างสัก 2/3 เรื่อง เพื่อสภาฯได้พิจารณา
1.นางแต้มมีพฤติกรรมที่เป็นการละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งได้แก่การนำภาพของตัวเองปิดทับพระบรมฉายาลักษณ์ และการแก้ไขปริญญาบัตรโดยมิได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายชัดเจน
2.ด้วยข้อกฏหมาย นางแต้มรักษาการอธิการบดีมาครบ 180 ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 แล้ว แต่อ้างว่ารอการโปรดเกล้าฯ ซึ่งสภาฯก็รู้อยู่แล้วว่า ขอโปรดเกล้าฯไม่ได้ เพราะจะทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท จาบจ้วง
3.ด้วยข้อกฏหมาย นางแต้มรักษาการอธิการบดีมาถึง 4 ปี ไม่มีแนวปฏิบัติในข้อกฏหมายใดๆ ผิด 100 เปอร์เซ็น หรือสภาฯว่าไม่ผิด?
4.นางแต้มไม่ยอมปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี กรณีเงินเดือน 1.5/1.7 ทั้งๆที่ศาลปกครองพิพากษาแล้วว่าไม่สามารถทำได้ แต่นางไม่ยอมปฏิบัติตาม และยังคงหักเงินจากพนังงานอยู่ มีพฤติกรรมเยี่ยงโจร, ท้าทายอำนาจศาลฯและท้าทายอำนาจคณะรัฐมนตรี
5. นางแต้มหมดความชอบธรรมของการประกอบอาชีพครู เพราะแจ้งความจับนักศึกษา เพียงแค่นักศึกษาเขียนป้ายแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นสิทธิ์ ที่ไม่ว่านักศึกษาหรือประชาชนทั่วไปสามารถทำได้ในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
6. มีพฤติกรรมข่มขู่ ข่มเหงรังแกผู้ใต้บังคับบัญชา และพิจารณาลงโทษโดยไม่เป็นธรรม เช่น ตัดเงินเดือน ไม่พิจารณาขึ้นเงินเดือนให้ ฯลฯ เพียงเท่านี้ก็คงจะพอเพียงให้สภาฯได้พิจารณาแล้ว
ใครช่วยแชร์ให้สภาฯได้อ่านเพื่อเปิดหูเปิดตาสักหน่อยเถอะครับผม
…