จิปปาถะ เรื่องสั้น โจรขโมยเงินเดือน (ม.264)

วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2563

จิปปาถะ เรื่องสั้น โจรขโมยเงินเดือน (ม.264)

7

เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 ศาลเมืองมหาสารขัณฑ์ ได้นัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีอาญา ซึ่งมีนางแต้ม รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ เป็นโจทน์ ฟ้องอาจารย์และพนักงานมหาวิทยาลัยรวม 7 คน เป็นจำเลย เนื่องจากจำเลยที่ 7 คน ได้ทำหนังสือถึงสภามหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ เพื่อให้รักษาการอธิการบดี ที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย เพราะไม่มีคำสั่งแต่งตั้ง หยุดปฏิบัติหน้าที่คดีนี้ศาลนัดให้ทั้งโจทย์ และจำเลย มาศาลเพื่อไกล่เกลี่ย ในราวต้นปีหน้า มกราคม 2564 ส่วนผลจะออกมาอย่างไร คงต้องรอ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมคำของอาจารย์ผู้พิพากษาท่านหนึ่ง ให้ข้อคิดว่า “การหาความยุติธรรม ไม่ต้องเกรงใจใคร”ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา“มาตรา 161/1 ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ หากความปรากฏต่อศาลเองหรือมีพยานหลักฐานที่ศาลเรียกมาว่าโจทก์ฟ้องคดีโดยไม่สุจริตหรือโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อกลั่นแกล้งหรือเอาเปรียบจำเลยหรือโดยมุ่งหวังผลอย่างอื่นยิ่งกว่าประโยชน์ที่พึงได้โดยชอบ ให้ศาลยกฟ้อง และห้ามมิให้โจทก์ยื่นฟ้องในเรื่องเดียวกันนั้นอีกการฟ้องคดีโดยไม่สุจริตตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงการที่โจทก์จงใจฝ่าฝืนคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลในคดีอาญาอื่นซึ่งถึงที่สุดแล้วโดยปราศจากเหตุผลอันสมควรด้วย”หากปรากฏว่ามีการฟ้องคดีโดยไม่สุจริตหรือโดยบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อกลั่นแกล้งหรือเอาเปรียบจำเลยในหลายกรณี หรือฟ้องคดีโดยมุ่งหวังผลอย่างอื่นยิ่งกว่าประโยชน์ที่พึงได้ตามปกติธรรมดา อันเป็นการสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ที่ถูกฟ้องร้องและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องให้ศาลมีอำนาจยกฟ้องถ้าดูตามมาตรา 161/1 จะเห็นว่า นางแต้มนั้นฟ้องโดยไม่สุจริต จึงมีโอกาสที่ศาลจะยกฟ้องได้แต่จากข่าววงใน รายงานว่า นางแต้มกำลังหาทางจะประนีประนอม เพราะตอนที่ฟ้องนั้นนางโกรธจนแทบจะพ่นออกมาเป็นไฟได้ แต่ตอนนี้นางกลัวจนผมจะหงอกหมดหัว เนื่องจากนางได้ยื่นเอกสารคำสั่งแต่งตั้งนางที่เป็นเท็จต่อศาล ซึ่อทำให้นางอาจเข้าข่ายความผิด อาญา มาตรา 264“ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน”ผมขอจบด้วยการย้ำเตือนอีกครั้งว่า “การหาความยุติธรรมนั้น ไม่ต้องเกรงใจใครทั้งสิ้น”….

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *