จิปาถะ เรื่องสั้น จำปี  จำปา

วันอังคารที่ 30  พฤษภาคม  2566

จิปาถะ เรื่องสั้น จำปี  จำปา ( เผยแพร่เมื่อ สค. 2557)

1

 เช้าวันนี้อากาศสดชื่น ท้องฟ้าแจ่มใส ผู้คนเดินบนสะพานไม้ซึ่งเป็นทางเดินเลียบไปตามริมฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี  เดินผ่านไปผ่านมาค่อนข้างจะหนาตา  บางคนเดินดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน  บางคนเร่งรีบจนแทบจะหกล้มหัวคะมำ มีคุณย่าคุณยาย สาวน้อยสาวใหญ่หลายคนนำข้าวของไปใส่บาตรที่วัด แต่งตัวกันสวยงามเหมือนจะไปอวดพระ เรือยนต์โดยสารขึ้น-ล่องระหว่างอำเภอบ้านแหลม กับอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เพิ่งกลับมาจากรับผู้โดยสารที่ปากอ่าว แล่นทวนกระแสน้ำขึ้นมาอย่างอืดอาดยืดยาด เครื่องยนต์ส่งเสียงดังดุดันแต่เหนื่อยล้า เมื่อผู้โดยสารโบกมือที่ท่าน้ำวัดต้นสน เป็นสัญญาณว่าจะโดยสารไปด้วย เรือจะชะลอความเร็วลงเพื่อเข้าเทียบท่า เสียงที่ดุดันของเครื่องยนต์ค่อยแผ่วเบาลง คนประจำหัวเรือใช้ไม้ไผ่ลวกทำเป็นถ่อค้ำเพื่อช่วยให้เรือเทียบท่าได้สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อผู้โดยสารลงเรือเรียบร้อยแล้ว เขาใช้ไม้ถ่อค้ำให้หัวเรือเบนออก เสียงเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่มขึ้นมาใหม่  เป็นวิถีปกติของชีวิตชุมชนบ้านแหลม

 วัดต้นสน อำเภอบ้านแหลม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี เป็นวัดเก่าแก่ อายุราวต้นรัตนโกสินทร์  วัดนี้กุฏิพระอยู่ริมแม่น้ำ ส่วนโบสถ์อยู่ลึกเข้าไป ตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เป็นโบสถ์เก่าที่ได้มีการซ่อมแซมใหม่จนเสียรูปเสียร่างไปจนหมดแล้วด้านหลังโบสถ์มีพระปรางค์องค์ใหญ่ และเรือสำเภาก่ออิฐถือปูน แต่เดิมมีมณฑปสร้างด้วยไม้ยกพื้นสูงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางวัด ปัจจุบันได้รื้อทิ้งไปแล้ว เมื่อตอนรื้อใหม่ๆ ไม้ที่รื้อออกมากองไว้เป็นพะเนินเทินทึก และค่อยๆหายไปที่ละแผ่นสองแผ่น สุดท้ายก็เหลืออยู่แต่ความทรงจำ  ส่วนป่าช้าอยู่ด้านหน้าโบสถ์สุดเขตของวัด บริเวณป่าช้ามีศาลาหกเหลี่ยมสำหรับทำพิธี  วัดนี้เป็นทั้งสนามเด็กเล่น แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย และศูนย์รวมความเลื่อมใสศรัทธาของชุมชน

 บริเวณวัด โดยเฉพาะที่หน้าโบสถ์ พวกเด็กๆมักจะไปวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่ตอนใกล้ค่ำจะไม่ค่อยมีใครกล้าไปเล่น ยิ่งเป็นวันพระยิ่งไม่กล้า  เพราะมีเรื่องเล่าลือว่า ผีดุ ! เป็นผีผู้หญิงพี่น้องชื่อจำปีและจำปา ทั้งคู่ผูกคอตายด้วยกันอย่างเป็นปริศนาไม่มีใครรู้เรื่องราวที่แท้จริง ได้แต่คาดเดาเอาเองต่างๆนานา ศพของทั้งคู่มีร่องรอยของการถูกเฆี่ยนตีอย่างทารุณ และได้ฝังไว้ที่ป่าช้าวัดนี้

 นอกจากนั้นยังมีเรื่องเล่าต่อเนื่องมาอีกว่า ถ้าใครไปยืนที่หน้าโบสถ์ ตอนหัวค่ำในวันพระ หันหน้าไปทางป่าช้า ร้องเรียกชื่อจำปีจำปาจ๋า สามครั้งเท่านั้นแหละ ก็จะมีเสียงจ๋าาา……ตอบมาทันที

2

 ผมชื่อ แสม โสภา แต่เพื่อนๆมักเรียกผมว่าไอ้เมา ผมอายุ 12 ย่าง 13  ปี ซึ่งผู้ใหญ่เขามักจะพูดกันว่าอยู่ในวัยคึกคะนอง  วัยที่อยากรู้อยากเห็น อยากทดลองไปเสียทุกอย่าง ผมเป็นเด็กรูปร่างล่ำสัน ผิวดำมะเหมื่อมเพราะกรำแดด ผมและเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกันมักจะมาชุมนุมที่หน้าวิหารหลวงพ่อสัมฤทธิ์แทบทุกคืน  ทุกคนจะรีบมาตั้งแต่หัวค่ำ  เมื่อรวมหัวกันแล้วมักจะมีเรื่องตลกโปกฮาหรือหาเรื่องพึลึกกึกกือมาเล่นให้สยองอยู่เสมอ  จนเกือบสามทุ่มจึงแยกย้ายกลับบ้าน  คืนนี้ เมื่อทุกคนนั่งล้อมวงพร้อมแล้ว

 ไอ้เบี้ยวเอ่ยขึ้นว่า “เรื่องผีแม่จำปีจำปาจะเอาอย่างไร จะลองกันไหม?” 

 ทุกคนเงียบ บรรยากาศเริ่มเครียด  เจ้าส่งหรือบุญส่งขยับเข้ามาใกล้กลุ่มเพื่อน รู้สึกมันจะกลัวผีมากกว่าใครๆ 

 เรื่องผีแม่จำปีจำปาที่เล่าลือกันนั้น  ในกลุ่มพวกเรากลายเป็นเรื่องของการท้าทายความกล้าว่าใครจะแน่กว่ากัน  แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีใครกล้าที่จะไปร้องเรียกแม่จำปีจำปาสักที  มีแต่คุยว่าจะไป ทำท่าเดินไปทางหน้าโบสถ์บ้าง ทำเป็นแอบหายไปบ้าง  แต่แล้วก็เหลว ไม่มีใครแน่จริงสักราย

 เมื่อเห็นทุกคนเงียบ ผมจึงเสนอขึ้นว่า

 “เมื่อไม่มีใครกล้า เราก็ไปกันทั้งหมดซิวะ  จะได้เห็นและได้ยินพร้อมกันทุกคน”

 ไอ้เบี้ยวแย้งว่า  “ยกโขยงกันไปทั้งหมด ผีที่ไหนมันจะกล้ามา”

 “แล้วเอาอย่างไรดีละ” ไอ้ออดเปรยขึ้นบ้าง ทำหน้าตาครุ่นคิด

 “อย่างน้อยต้อง 2 คนละ  คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย”ไอ้จุกออกความเห็นตามสุภาษิต

 “ดี จะได้เป็นพยานว่าไปจริง” ไอ้เบี้ยวเห็นด้วย

 “แล้วใครจะเป็นคนไปล่ะ?”  ผมถาม  มองไปรอบๆกลุ่มเพื่อน ทุกคนหลบสายตา

  “นั่นนะซิ  ใครจะกล้า” ไอ้ส่งพูดขึ้น

 “มึงนั่นแหละ” ไอ้เบี้ยวว่า  เอื้อมมือจับไหล่ไอ้ส่งเขย่า ทำท่าซูฮก

 “โอ้ย ไม่เอา กูไม่เอา แค่ได้ยินชื่อกูก็หนาวแล้ว” ไอ้ส่งออกตัว

 ไอ้ออดสรุปเพื่อให้พ้นตัว โดยเสนอผมกับไอ้จุก

 มีเสียงว่า “ดี..ดี” ทุกคนเห็นด้วย

 ไอ้ออดอมยิ้มอย่างมีชัย มันรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ผมกับไอ้จุกไม่เคยทำร้ายจิตใจเพื่อนด้วยการปฏิเสธ

เป็นอันว่า ผมกับไอ้จุกต้องรับหน้าที่อันสำคัญนี้ และตกลงว่า จะปฏิบัติการในวันพระที่จะถึงนี้ 

(อ่านต่อพรุ่งนี้)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *