เรื่องสั้น อิงสถานการณ์ (ของป้าคัพอะไร)
12
มีนา จัน ร้องทักมาว่า “นางแต้มตาบอด”
“เป็นไปได้ไง ก็ยังเห็นไปไหนมาไหนได้ดีอยู่นี่ จะว่าตาบอดได้อย่างไร อธิบายหน่อยซิ”
มีนา จัน อธิบายว่า “คนที่ตาบอด คือ คนที่ไม่สามารถมองเห็น หรือรับรู้ความแตกต่างระหว่างแสงสว่างและความมืดได้ ถือเป็นความพิการทางตาหรือการบกพร่องทางการมองเห็น อาการตาบอดอาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ด้วยการรับประทานยา ผ่าตัด ฉะนั้น เมื่อไรที่เริ่มรู้สึกว่าการมองเห็นบกพร่อง ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการรักษา”
“แล้ว ที่ว่านางแต้มตาบอดนั้น เพราะนางแต้มไม่สามารถรับรู้ความแตกต่างระหว่างความดีกับความชั่วได้ ถือเป็นความพิการทางใจ ที่ส่งผลกระทบไปยังดวงตา ซึ่งเป็นผลจาก รัก โลภ โกรธ หลง คือ ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เข้าใจความจริงที่ว่า มนุษย์นั้นเกิดขึ้น มีชีวิตอยู่ และตายไปในที่สุด ไม่มีอะไรที่จะเอาติดตัวไปได้เลย ตาบอดแบบนี้ถ้าได้รับการบำบัดรักษาด้วยธรรมะ ก็น่าจะหายได้…
แต่นั่นแหละ ผมเคยพูดไว้ในที่ต่างๆหลายครั้งแล้วว่า มนุษย์นั้นชอบเรียนรู้ด้วยตนเอง นางแต้มนี่ วันไหนที่นางติดคุกนั่นแหละ นางจะรู้และตาสว่างขึ้นมาทันที่ เพราะวันแรกที่นางเข้าคุก สิ่งที่นางจะได้รับก็มีเพียงแค่ เสื้อผ้าเนื้อหยาบ 2 ชุด เป็นผ้าถุงและเสื้อ ซึ่งจะใช้ทั้งใส่ทำงาน ใส่นอน ใส่อาบน้ำ ผลัดเปลี่ยนกัน ที่นอนก็มีเสื่อผืนเล็กๆ อาจไม่มีผ้าห่ม หมอน เนื่องจากงบประมาณที่เรือนจำได้รับจำกัด เวลานอนก็นอนเรียงกันเป็นแถวยาว”
“แล้วที่นางแต้มอุตสาห์สะสมเงินไว้หลายร้อยล้านล่ะจะทำอย่างไร เอาไปใช้ไม่ได้รึ”
“ใช้ได้ แต่เบิกได้จำนวนจำกัด ดูเหมือนจะอาทิตย์ละ 200 บาท เท่านั้น สำหรับซื้อของที่จำเป็น..
เพื่อนผมที่เป็นผู้บัญชาการเรือนจำ ซึ่งเป็นคนมีเมตตา นักโทษรัก เล่าให้ฟังว่า “เวลาจะเข้าเมือง พวกนักโทษหญิงพากันอ้อนให้ท่านช่วยซื้อเสื้อชั้นในให้ “คุณพ่อคะ อย่าลืมของหนูนะคะ คัพ 70 B ค่ะ ของบ้าด้วยค่ะ ครัพ 85 D นะค่ะ..
ก็ได้แค่คนละ 1 ตัวเท่านั้น บางทีก็ไม่ได้ แล้วก็เป็นเสื้อชั้นในแบบถูกๆเสียด้วย..
พวกหมานาย เวลาไปเยี่ยมนางแต้ม อย่าลืมซื้อเสื้อชั้นในไปฝากนางด้วยนะ อย่าเอายี่ห้อดีไปละ ถอดเป็นหาย”
….