เรื่องสั้น สัพเพเหระ(สมุด กับ ผีเสื้อ)
5
เมื่อ อสูรรัมภะ ได้รับพรจากเทพอัคคีตามที่ตนปรารถนาแล้ว เขาก็เดินทางกลับสู่โลกบาดาล ระหว่างทางรัมภะได้พบกับนางควาย ซึ่งแต่กาลก่อน เคยเป็นหญิงงาม ชื่อ มหิษมตี นางได้แปลงกายเป็นควายเข้าไปรบกวนฤษีองค์หนึ่งที่กำลังบำเพ็ญตบะอยู่ ฤษีเล็งด้วยญาณก็รู้ว่าเป็น
นางมหิษมตี เลยสาปให้เป็นควายอยู่อย่างนั้น
เขียนถึงตรงนี้ผมก็นึกอยากเป็นฤษีขึ้นมาทันที จะได้สาปนางแต้มให้เป็นตัวยึกยือคลานต้วมเตี้ยมอยู่หน้าตึด 15 ชั้น มหาวิทยาลัยสารขัณฑ์ให้ลูกหลานครูบาอาจารย์ที่นั่น ใช้ไม้เขี่ยเล่นให้สนุก มีคนตะโกนว่าผม ไอ้บ้า! “คิดบาปกรรมจริงๆ”
นางมหิษมตีหรือนางควายที่ถูกสาป นางมีมนตราแห่งราคะ เรียกว่าเสน่ห์แรงมาก ใครเห็นก็รัก และนี่เองเป็นเหตุให้อสูรรัมภะ เห็นนางความเข้าก็นึกรักขึ้นมาทันที และทั้งคู่ก็ตกลงปลงใจเป็นสามีภรรยากันตั้งแต่บัดนั้น
ตรงนี้ในวรรณคดี ไม่ได้บอกว่า นางมหิษมตี แปลงร่างเป็นหญิงสาวสวยหรือเปล่า แต่ผมคิดว่า คงจะเป็นแบบเดียวกับนางผีเสื้อสมุทรที่หลงรักพระอภัยมณี และแปลงร่างเป็นสาวงามเข้ามาเกี้ยวพาราสีพระอภัยมณีจนใจอ่อนเป็นแน่แท้ ทั้งคู่จึงตกลงปลงใจกันได้ แต่คิดอีกทีอาจจะไม่ใช้ก็ได้ เพราะตามปกติ สุภาพสตรีนั้น ก่อนแต่งงานนางจะเป็นสาวงามรูปร่างหน้าตาบอบบางน่ารัก แต่หลังจากแต่งานไปไม่นาน สามีเลี้ยงดูอย่างดี เลยแปลงกายจากเอวบางร่างน้อย เป็นใหญ่โตระโหฐานแบบนางผีเสื้อ สอดคล้องกับคำพูดเปรียบเปรยตลกๆว่า “ตอนแต่งงานก็ได้สมุดมา อยู่ไปไม่นานก็ได้ผีเสื้อมา เลยได้ ผีเสื้อกับสมุด รวมกันเป็น “ผีเสื้อสมุทร”ครับผม 555
…