เรียนอินเดีย 3

food

จิปาถะ
เรียนอินเดีย 3
1
เรื่องอาหารการกินของพวกแขกนี่สุดยอด เฉพาะที่โรงอาหารในมหาวิทยาลัย จะมีข้าวผัดสีออกน้ำตาลๆ มีคล้ายใบจากแห้งติดมาด้วย ผัดจากข้าวแดงที่ไม่มียางแล้ว กินผืดคออย่าบอกใครเชียว ส่วนกับข้าวก็จะเป็นแกงถั่วแดง เละๆที่นานๆจะมีมันฝรั่งหลงมาสักชิ้น ข้าวผัดแกงถั่งแดงนี่เป็นเมนูประจำทุกวันและตลอดทุกปีไป เว้นวันอาทิตย์ ราคาอาหารก็ 3 รูปี เท่ากับบาทไทยตอนนั้น(พ.ศ.2523-2524) ก็ประมาณ 10 กว่าบาท จ่าย 10 กว่าบาท กินได้ไม่อั้น พวกแขกกินกันอย่างเอร็ดอร่อยมาก ตอนไปอยู่ใหม่ๆผมกินไม่ลงเลย แต่อยู่ไปอยู่มา ก็พอรับได้ พอเริ่มจะกินอร่อย ก็ได้เวลากลับประเทศไทยเสียแล้ว ส่วนวันอาทิตย์ดีหน่อย จะเป็นแกงไก่ แต่ก็มีไก่ชิ้นเล็กๆชิ้นเดียวเท่านั้น อดอยากกันจริงๆ
2
เบื่อกินอาหารที่หอพักก็จะขี่จักรยาน (ซื้อจักรยานเก่ามากๆราคาประมาณ 100 บาท ตอนกลับขายไป 50 บาท )ไปหากินอาหารในตลาดนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งต้องใช้เวลามากหน่อยเพราะไกลพอสมควร วันที่ไม่มีชั่วโมงเรียนจึงจะไปได้
ส่วนตอนบ่าย แขกจะปิดร้านนอน ตอนเย็นถึงจะเปิดร้านใหม่ เปิดไปจนสาม-สี่ ทุ่ม
พวกนักเรียนไทยที่อยู่ก่อนชอบไปซื้อปลาทอดจากรถเข็นในตลาดสดมากิน ว่ากันว่าอร่อย ผมเห็นผ้าขี้ริ้วเช็ดมือที่แขวนไว้ข้างรถ ไขมันติดจนดำเป็นมันแผลบเหมือนหนังวัวของช่างตัดผมสมัยก่อน ที่ใช้สำหรับลับมีดโกนอย่างไงอย่างงั้น เห็นแล้วกินไม่ลงเลย ต้องซื้อแอปเปิลมากินแทน ต่อมาเมื่อไม่รู้จะกินอะไรเข้าจริงๆ จึงลองกินปลาทอดดู ก็อร่อยดีเหมือนกัน แต่อย่าไปมองผ้าขี้ริ้วข้างรถมันก็แล้วกัน
ที่นี้ย้อนกลับมาถึงคนที่ทำงานอยู่กับผู้บังคับบัญชาที่ขาดพรหมวิหารธรรม สกปรกจนเป็นมันแผลบ ก็ต้องทำใจ ก้มหน้าก้มตาทำงานไป แต่อย่าไปมองหน้ามันก็แล้วกัน
….